เลือกตั้งและการเมือง

“ชัชชาติ” พร้อมหนุนกิจกรรม LGBTQ+ บอกไม่ควรจำกัดสิทธิการแสดงออก

โดย onjira_n

27 พ.ค. 2565

285 views

นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวงาน BANGKOK NARUEMIT PRIDE 2022 จัดโดยคณะทำงานบางกอกไพรด์ และเครือข่ายนักกิจกรรมเพื่อความหลากหลายทางเพศ ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหน้าประวัตศาสตร์ ขบวนพาเหรด PRIDE ครั้งแรกใจกลางกรุงเทพมหานคร จากวัดแขก

สู่ถนนสีลม งานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00 น.



นายชัชชาติ กล่าวว่า กรุงเทพฯมีความหลากหลาย สิ่งสำคัญคือการยอมรับ และความเข้าใจถึงความหลากหลายที่มี อาจจะไม่ใช่มิติทางเพศอย่างเดียวแต่ยังมีอีกหลากหลายมิติ ซึ่งถ้าหากทุกคนยอมรับในความหลากหลายได้ก็จะเป็นสังคมที่มีความสุขมากขึ้น



สำหรับเรื่องพื้นที่จัดงานตนมองว่าพื้นที่สาธารณะมีเยอะ หากว่าตนได้รับการรับรองแล้วก็ต้องมาพูดคุยกับกลุ่มผู้จัดงานว่าความต้องการเป็นอย่างไร ทางกทม.ก็พร้อมสนับสนุนอำนวยความสะดวกเท่าที่ขอบเขตของกทม.จะทำได้ เช่นเรื่องพื้นที่ การประสานงานกับคนในพื้นที่ รวมถึงการป้องกันโควิด-19 ด้วย



กทม.จะดูแลให้ดีที่สุด อะลุ่มอล่วยให้ได้มากที่สุด อะไรที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นคอขาดบาดตายหรือไม่ดี ก็ไม่ควรไปกีดขวางการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยสุดท้ายแล้วไม่ควรเอากฎหมายไปเป็นเครื่องมือในการจำกัดการแสดงออกของประชาชน



กทม.จะต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน สำหรับกลุ่มหลากหลายทางเพศหรือLGBTQ+ก็มีนโยบายที่จะดูแลกลุ่มนี้ เช่นการให้บริการในสิ่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการเช่นศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึงการให้ความรู้ในสถานศึกษา เพื่อยอมรับความแตกต่าง หากยอมรับได้ และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาด คนในสังคมก็จะเข้ากันได้ดียิ่งขึ้น



เรื่อง Pride Month ก็เป็นหนึ่งนโยบาย 12 เทศกาล 50 อัตลักษณ์เขตด้วย เพราะPride Month มีอยู่ทั่วโลก กทม.สามารถช่วยสนับสนุนในเรื่องนี้ได้เพื่อสร้างความเข้าใจ ความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ซึ่งหลายเมืองทั่วโลกจัดกิจกรรมนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่กรุงเทพฯจะจัดกิจกรรมนี้ไม่ได้



ส่วนการพลักดันให้มีพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมนั้น ส่วนตัวเห็นด้วยและสนับสนุน เพราะจะได้สวัสดิการเหมือนเช่นบุคคลทั่วไป ส่วนเรื่องที่ในสังคมยังมีการเลือกปฏิบีติอยู่บ้างนั้น ตนมองว่า อคติต่างๆเกิดจากความไม่เข้าใจ ซึ่งถ้าหากจะเริ่มก็ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจก่อน ข้าราชการกทมก็ต้องเข้าใจในเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าถ้าเริ่มจากความเข้าใจอคติก็จะลดลงได้



สำหรับนโยบายต่างๆที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศตนคิดว่า สามารถทำได้ทันทีแต่ในส่วนของสาธารณสุขก็จะต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อน เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของกลุ่ม LGBTQ+ ส่วนเรื่องการแต่งกายของข้าราชการนั้น ตนมองว่า แต่งกายอย่างไรไม่เป็นไร ขอให้บริการประชาชนให้ดี ดูแลประชาชน และไม่ทุจริตคอรัปชั่น ถ้าหากให้ข้าราชการแต่งกายอย่างที่ตนเองมีความสุข อาจจะดูแลประชาชนได้ดีขึ้น



คุณอาจสนใจ