เลือกตั้งและการเมือง

แร็ปเปอร์หนุ่มปฏิเสธ หลังถูกจับเอี่ยวปาระเบิด กรมทหารราบที่ 1 ที่ตั้งบ้านนายกฯ

โดย thichaphat_d

12 เม.ย. 2565

58 views

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ไปปาระเบิดปิงปองที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ขี่ผ่านบริเวณดังกล่าว ในช่วงเวลาประมาณ 19.58 น. ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น บริเวณสนามหญ้าตรงข้ามกับป้อมรักษาการ

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต พบว่า มีผู้ต้องสงสัยก่อเหตุประมาณ 7 คน รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 3 คัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรูปพรรณสัณฐาน และข้อมูลยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ ก็ทราบตัว 3 ใน 7 คน ที่ร่วมก่อเหตุ

ขณะที่ในช่วงค่ำวันเดียวกันกับที่มีการปาระเบิดใส่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ตำรวจ สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าบ้านนายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือ บุ๊ค แร็ปเปอร์หนุ่มเจ้าของฉายา eleven finger เมื่อตำรวจนำกำลังไปตรวจค้นภายในบ้าน ก็พบประทัดลูกบอล 164 ลูก ประทัดไข่ก๊อง 8 ลูก พลุควันและระเบิดควัน รวม 23 ลูก

รวมทั้งพบว่านายธนายุทธ มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดเล็กน้อยที่เท้าขวา ซึ่งเป็นการทำประทัดหล่นจากกระเป๋ากางเกง ทำให้ได้รับบาดเจ็บเอง เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางและคุมตัวนายธนายุทธไปปฐมพยาบาล ก่อนคุมตัวไปสอบปากคำ พร้อมกับ นางสาวปฏิมา แฟนสาวอายุ 20 ปี และเยาวชนชายอายุ 15 ปี

เบื้องต้น นายธนายุทธ ยอมรับว่า ช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย. ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเดินทางกลับบ้านพักย่านคลองเตย โดยขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับเพื่อนกว่า 30 คน และใช้เส้นทางผ่านหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต

แต่ไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องการปาระเบิดใส่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี ส่วนเหตุระเบิดที่หน้าบ้านพักของนายธนายุทธ เป็นระเบิดของเพื่อนร่วมชุมนุมฝากกลับมาด้วย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายไว้ก่อน

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต เจ้าหน้าที่ พบว่า มีภาพของนายธนายุทธขี่รถมากับแฟนสาว นำหน้ารถจักรยานยนต์อีก 2 คัน โดยคันที่สอง นั่งอัดกันมา 3 คน และปิดท้ายด้วยคันที่สาม ที่นั่งกันมา 2 คน

เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุ พบว่า คนที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์คันที่ 2 เป็นคนปาระเบิดเข้าไปในพื้นที่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ลูก จากนั้นทั้ง 7 คน ก็พากันเร่งเครื่องหลบหนีไป ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีการแจ้งความจากพลเมืองดีว่า มีเสียงระเบิดดังที่หน้าบ้านพักนายธนายุทธ จึงเข้าควบคุมตัวนายธนายุทธ พร้อมแฟนสาวและเยาวชนอายุ 15 ปี รวม 3 ราย

ทำให้นอกจากจะถูกพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ แจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายแล้ว ยังถูกพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ แจ้งข้อหา ร่วมกันทำให้เกิดระเบิด และพกพาอาวุธในที่สาธารณะ เนื่องจากเชื่อว่า ทั้งสามคน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปาระเบิดที่หน้ากรมทหาร

โดยเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ตำรวจคุมตัวแฟนสาวของนายธนายุทธ ไปฝากขังต่อศาลอาญา เป็นเวลา 12 วัน เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีอาชีพ จึงเกรงว่าจะหลบหนี ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตฝากขัง ซึ่งไม่มีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปเรือนจำ

ส่วนนายธนายุทธ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ จะยื่นฝากขังในวันที่ 12 เมษายนนี้

ขณะที่ผู้ก่อเหตุปาระเบิดบ้านพักนายกรัฐมนตรีอีก 4 ราย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นทราบตัวคนที่ปาระเบิดแล้ว และได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว

สำหรับ นายธนายุทธ หรือ บุ๊ค Elevenfinger เคยขึ้นแร็ปการเมืองในการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ตั้งแต่ปี 2563 และถูกจับฐานเข้าร่วมการชุมนุม ทำให้เน็ตฟลิกซ์ หยิบยกชีวิตของเขามาทำเป็นสารคดีในชื่อ "School Toen King" แร็ปทะลุฝ้าราชาไม่หยุดฝัน เป็นเรื่องราวของเขากับเพื่อนอีกคนที่เรียนไม่ดี แล้วมาเอาดีด้านแร็ปเปอร์แทน และสุดท้ายบุ๊ค ยอมหยุดเรียนกลางคัน ทั้งทีอีกแค่ 10 กว่าวันเขาจะจบ ม.6

ซึ่งภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ถูกฉายในเน็ตฟลิก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 และถูกไปฉายในงาน ปูซาน อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลสารคดียอดเยี่ยมจากงานสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 29 และ ภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยมจากคมชัดลึกอวอร์ดด้วย ปัจจุบันเขายังทำงานด้านเพลงเพื่อหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HoicoV0WYn0

คุณอาจสนใจ

Related News