“ตู่ จตุพร” ท้า “บิ๊กตู่” อยู่ต่อ จะได้รู้จักคำว่า ‘นรกมีจริง’

ที่อาคาร PEACE TV นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. จัดพิธีทำบุญ รำลึก 12 ปี วีรชน 10 เมษา 53 เหตุการณ์ชุมชนทางการเมือง ของกลุ่ม นปช. เมื่อปี2553



นายจตุพร กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศล และกล่าวสดุดีวีรชน ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และมีการสูญเสียจำนวนมาก จากปรากฎการณ์ล้อมปราบคนเสื้อแดงตั้งแต่ 10 เม.ย. - 19 พ.ค. 2553 นับถึงวันนี้เป็นเวลา 12ปีเต็ม แต่ฝ่ายผู้สูญเสียยังไม่เคยได้รับความยุติธรรม สูญสิ้นอิสรภาพ โดยที่ฝ่ายคนฆ่าไม่เคยติดคุกแม้แต่คนเดียว



สำหรับแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ กลุ่ม นปช. หลังจากนี้ ถึงแม้ตนเองจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ยังคงมุ่งหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ว่าการต่อสู้จะยังไม่สำเร็จในรุ่นของตน แต่ เชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นกับประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยในอนาคตอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญตอนนี้คือ การปกป้องเอกราช ซึ่งสำคัญกว่าปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ แต่ปัญหาสำคัญตอนนี้ ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงจากการเซ็นสัญญาอินโดแปซิฟิก ของรัฐบาลในปี 2562 ร่วมกับ สหรัฐอเมริกา ในการต่อต้านประเทศจีน ซึ่งกลุ่ม นปช. ไม่ต้องการให้ประเทศไทยเข้าข้างฝ่ายใด เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าปัญหาการยุบสภา หรือปัญหาว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ปัญหานี้จะทำให้ไทย เป็นแบบประเทศยูเครนได้ในอนาคต ดังนั้นเรื่องนี้จะเป็นภารกิจในวันข้างหน้า ที่จะมีการหลอมรวมคนไทยกันอีกครั้ง เพื่อปกป้องเอกราชบ้านเมือง



ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า หากมีการสืบทอดพลเอกประยุทธ์อีก จะเคลื่อนไหวอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า ขอบอกไปยังพลเอกประยุทธ์ว่า ขอให้ใจแข็งๆ อย่าลาออก เพราะพลเอกประยุทธ์ ควรจะได้เห็น คำว่า “นรกมีจริง” เป็นอย่างไร ตนไม่ห่วงเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า อย่างไรพลเอกประยุทธ์ก็อยู่ต่อไม่ได้ แต่ขอท้าให้อยู่ อย่าได้ลาออก เพราะยังมีโอกาสสร้างความฉิบหายให้กับประเทศได้อีกพอสมควร ดังนั้น วันนี้เรื่องพลเอกประยุทธ์ จึงเป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องกระจอก เมื่อเทียบกับปัญหาระหว่างประเทศในอนาคต ที่ไทยไปเลือกข้าง เรื่องของพลเอกประยุทธ์ ก็แต่พลเอกประยุทธ์ ชีวิตเดียว แต่ ปัญหาเอกราชเป็นเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ



ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า นปช.จะสนับสนุนฝ่ายใดหรือพรรคการเมืองใดนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ต้องถามว่า ประเทศนี้จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ถ้ามีการเลือกตั้ง ค่อยมาตัดสินใจ ทิศทางทางการเมืองวันนี้ ยังไม่ตัดสินใจ ขอให้ประเทศนี้ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่จุดยืนที่ย้ำมาตลอดก็คือ อยู่ข้างพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตย รักชาติบ้านเมือง แต่ก็เชื่อว่า ยากที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง รัฐบาลที่ไม่ใช่ฝ่าย 3 ป. ก็จะติดกับดัก รัฐธรรมนูญปี 60ไม่สามารถเดินหน้าในการบริหารประเทศไปได้ จึงเป็นเหตุผลที่ตนต้องก้าวข้ามเรื่องอำนาจ



ส่วนหากมีการรัฐประหารขึ้นมาอีกในอนาคต นายจตุพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็เตือนมาตลอดตั้งแต่ก่อนรัฐประหารแล้วว่า ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่จุดนี้ ทำให้วันนี้ ประเทศไทยสูญเปล่าไป 8 ปี มีแต่ความสูญเสีย ไม่มีความสำเร็จใดๆ จึงต้องตั้งคำถามว่า คนไทยถึงอดทนต่อความไม่ถูกต้องได้มากที่สุดในโลกหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ มีคุณงามความดีอะไรจึงอยู่ได้เกือบครบ 8 ปี เชื่อว่าทั้งหมดคือชะตากรรมที่คนไทยต้องซึมซับไว้ และโอกาสครบรอบ 12 ปี นี้ เป็นโอกาสอีกครั้งหลอมรวมคนเสื้อแดงที่มีอยู่ทั่วประเทศ หากเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็น ก็พร้อมจะหลอมรวม