'สิระ' โผล่อยู่ข้างคนหาปลา ซัด 'เต้' หิวแสงคดีแตงโม หวังผลการเมือง จมูกยาวขึ้นทุกวัน

อดีต ส.ส.สิระ โผล่ สภ. ในฐานะที่ปรึกษาให้กับลุงนิต คนหาปลา และดำเนินคดีกับ ส.ส.เต้ จวกพวกหิวแสง หวังผลการเมืองช่วงใกล้ยุบสภา ลุยรวบรวมหลักฐาน ยื่น ป.ป.ช.สอบจริยธรรมต่อ ด้านเต้สวน สิระ อย่าหาเรื่องใส่ตัว ยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 มี.ค. 65 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาพูดคุยกับนายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิต อายุ 53 ปี คนพายเรือหาปลา ที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด โดยลุงนิต ยืนยันพร้อมสาบาน คืนเกิดเหตุเป็นแค่ขอนไม้ลอยน้ำที่ติดอวนขณะหาปลา โดยนายสิระ ได้เข้าแจ้งความ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

นายสิระ กล่าวว่า ตอนแรกดูข่าวลุงนิต ว่าโดนนายมงคลกิตติ์ ให้ร้ายทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งตนได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับลุงนิต และได้รับการประสานให้มาช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพราะสังคมลงความเห็นว่าลุงนิต เป็นคนไม่ดี จากการที่นายมงคลกิตต์นำคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ นอกจากนี้ยังจะมีการรวบรวมหลักฐานร่างหนังสือเพื่อยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ให้สอบจริยธรรมนายมงคลกิตต์ ต่อในสัปดาห์หน้า

ส่วนที่นายนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ไม่ขอเจอตนนั้น วันนี้ตนจะมาแจ้งความอยู่แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของนายมงคลกิตติ์ มีการนำข้อมูลเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมฯ หรือไม่ และหากสอบสวนแล้วพบว่าผิดก็ให้ดำเนินคดี เพราะทำประชาชนสับสน ทำให้ไม่เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ดังนั้นการจะพูดอะไรต้องมีหลักฐานควรได้รับการพิสูจน์ก่อน

อย่างไรก็ตามการกระทำของนายมงคลกิตติ์นั้นต้องดูว่ามีผลประโยชน์ต่อใคร ตำรวจ หรือแตงโม หรือนายมงคลกิตติ์ เพราะการแถลงข่าวแต่ละครั้งก็ใส่เสื้อพรรค และตอนนี้ใกล้ยุบสภาฯ มองว่าเป็นผลทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้นประโยชน์อาจจะตกอยู่ที่นายมงคลกิตติ์

ส่วนที่เขาฝากบอกมาว่าก่อนจะแจ้งความนั้นให้ไปจ่ายเงินที่ค้างชำระ หลังจากพ้นสภาพการเป็น ส.ส. ก่อนนั้น นายสิระ ระบุว่า หนังสือดังกล่าวยังมาไม่ถึงตน ทั้งนี้ตนมีเงิน 5-6 ร้อยล้าน ยืนยันว่าตนได้ถูกขอร้องให้มาช่วย ตอนแรกจะมาดำเนินคดีแบบเงียบๆ รวมถึงแจ้ง ป.ป.ช. เพราะปรากฎชัดเจนว่านายมงคลกิตติ์ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลา และเมื่อไม่ทำตามก็พยายามทำให้ประชาชนว่ากล่าวตำรวจ วันนี้บุคคลเสียหายคือแตงโม ด้านตำรวจก็สรุปสำนวนคดีไม่ได้ ขณะที่ 5 คน บนเรือก็ใช้ชีวิตไม่ได้ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตรกรทั้งที่ยังไม่ได้สรุปสำนวน

ซึ่งการที่จะเป็นพลเมืองดีเมื่อมีหลักฐานก็ควรนำให้พนักงานสอบสวน แต่สิ่งที่ทำวันนี้สร้างความเสียหายให้หลายคน หลายฝ่าย ดังนั้นตนจึงต้องดำเนินการแจ้งตำรวจให้ตรวจสอบทุกคำพูดของนายมงคลกิตติ์ หากเรื่องไหนเท็จต้องดำเนินคดี เพื่อหลังจากนี้จะต้องมีการระมัดระวังในการพูดรวมถึงการเสนอพยานหลักฐาน เพื่อความเป็นธรรมของบุคคลที่ถูกกล่าวหา

หลังจากที่นายสิระ เจรจาคะ ได้พูดคุยกับ ลุงนิต ที่ห้องของพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อพร้อมกัน โดยลุงนิต เล่าว่า ก็ได้เจอกัน ส.ส.เต้ ไม่ได้คุยอะไรกัน แล้วเขาบอกว่าไม่ใช่ตนเอง ตนเองก็ยัง งงๆ และคิดว่า ที่เข้าอ้างว่า ไม่ใช่ตนเองเพราะอัตลักษณ์ไม่เหมือนกัน ตนเองคิด เขาคงแถไปเรื่อย ซึ่งตนยืนยันได้ว่าวันนั้นเรือหาปลามีแค่ตนคนเดียวแน่นอน และในวันนั้น ลุงนิต ใส่ไอโม่ง ส่วนตัวยืนยันว่า เสียหายทางจิตใจผมด้วยที่กล่าวหาว่า แล้วผมไม่ช่วย ซึ่งเป็นขอนไม้ ผมจะไปช่วยได้ยังไง

ขณะที่นายสิระ บอกว่า อยากฝากถึงโซเชียล ว่าหากวันนั้นลุงนิตไม่ให้การช่วยเหลือ ก็จะมีความผิด ฐานไม่ช่วยเหลือให้พ้นจากอันตราย และวันนี้มีข้อมูลสองด้านแล้วว่าไม่ใช่น้องแตงโม เป็นเพียงขอนไม้ ซึ่งก็ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ส.เต้ แล้ว และวันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ตนเองจะให้ทีมทนายความ มาดำเนินการเอกสารเพื่อให้ลุงนิต ฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และเรียกค่าเสียหาย เพราะเกรงว่าหากฟ้องชั้นพนักงานสอบสวน แล้วนายมงคลกิตต์ จะใช้เอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.คุ้มครองในการเปิดสมัยประชุม

นายสิระ ยังบอกอีกว่า ขอให้สังคมตัดสินว่าตอนนี้ ส.ส.เต้ จมูกโด่งขึ้นหรือไม่ ตั้งแต่มีคดีแตงโม วันหนึ่งก็ยาวขึ้น 1 เซนติเมตร จนเป็นเมตรแล้ว และหาก ส.ส.เต้ ยังไม่หยุดตนเองก็พร้อมที่จะดำเนินคดีต่อ และการที่มีคดีแบบนี้มองว่า ใครที่อยากออกสื่อ หิวแสง ก็ควรจะตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน หากไม่เป็นความจริงก็ต้องรับผิดชอบไป แต่ถ้าเป็นพลเมืองดีอยากช่วยเหลือก็ให้มาพบพนักงานสอบสวนได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/LsF67l-oix8