'วิโรจน์' ยื่นหนังสือลาออกส.ส. มีผลพรุ่งนี้ เดินหน้าลุยสนามผู้ว่าฯกทม.

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีผล ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะทำงานในฐานะว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครร่วมกับว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือส.ก.ของพรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่ พร้อมจะวางนโยบายให้กระชับมากที่สุด และจะทำนโยบายหลักไม่ให้เกิน 10 ด้าน เช่น กรุงเทพเมืองปลอดภัย ที่จะดูแลเรื่องความปลอดภัย อาชญากรรม การใช้รถใช้ถนน รวมถึงการเดินทางเท้า เรื่องเหล่านี้ต้องไปด้วยกัน

นายวิโรจน์ ยังกล่าวติดตลกว่า ที่ผ่านมาตนเป็นคนขับเคลื่อนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง แต่สุดท้ายตนต้องไปก่อน และนี่ถือเป็นความท้าทายที่ตนเองต้องพิสูจน์บทบาทในการบริหารกรุงเทพฯ ซึ่งตนในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม.พรรคก้าวไกล ได้ประชุมและพูดคุยกันว่า พวกเรา เปรียบเสมือนลูกน้องคนหนึ่งที่จะสมัครงาน เขียนข้อเสนอโครงการ เพื่อให้เคนกรุงเทพฯ เลือกเข้าไปทำงาน พร้อมยอมรับว่า ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น ที่กำลังจะสมัครงานใหม่

ส่วนเสียงสะท้อนที่ระบุ ว่ารู้สึกเสียดายการทำงานของตนเองใน สภาผู้แทนราษฎร นั้น นายวิโรจน์ ขอบคุณและรู้สึกซาบซึ้ง แสดงว่าสิ่งที่ตน และเพื่อนร่วมงาน ของพรรคก้าวไกลได้ ทุ่มเททำงานประชาชนได้เห็นความพยายาม ถึงแม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง ล้มลุกคุกคลานบ้าง แต่สุดท้ายประชาชนก็เห็นคุณค่า และหากย้อนไปในการเลือกตั้งปี 2562 ประชาชนให้ความกรุณาเลือกพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาในสภาผู้แทนราษฎร เวลานั้นยังไม่มีใครรู้จักคนที่ชื่อ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และพวกเราก็ทำงานอย่างหนักจนประชาชนเห็นคุณค่า นั่นแสดงว่าสิ่งที่ตนได้ทำคือการพิสูจน์ว่าตนได้ตั้งใจทำงาน แต่มาวันนี้ที่ตน ขอเข้ามาบริหารงบประมาณ กรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าตนจะสามารถบริหารงบประมาณให้มีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนอย่างไร



นายวิโรจน์ ยังกล่าวว่า ถึงช่วงระยะ สามเดือนจะเพียงพอในการทำพื้นที่ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ ว่า ระยะเวลาสามเดือนเป็นเพียงการคาดการณ์ไม่มีใครยืนยันได้ 100% ว่าจะมีการเลือกตั้งดังนั้นเราจึงทำตาม แผนที่วางไว้ หากถามว่าเร็วเกินไปหรือไม่ตนคิดว่าจะเร็วหรือช้าเกินไปต้นก็ต้องทำการบ้าน ไม่ว่าเวลาจะเท่าไหร่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ส่วนเรื่องที่อยากจะฝากเพื่อนสมาชิกสภา นั้น นายวิโรจน์กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 อยากให้ทุกคนได้ติดตามเพราะพรรคก้าวไก่และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแนะนำสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำ เพราะวันนี้ประชาชนรับทราบถึงปัญหาการเมืองปัญหาปากท้องปัญหาคุณภาพชีวิตความสิ้นหวังในอนาคต และการเลือกตั้ง ซ่อมหลักสี่-จตุจักรที่ ผ่านมาประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ ไม่น้อย สะท้อนว่าประชาชนเล็งเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นกลไกสำคัญ

จึงไม่กังวลว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จะไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์หรือไม่ ไปสั่งรัฐบาลไม่ได้และก็เชื่อใจไม่ได้อีกเช่นกันดังนั้นก็ต้องทำตามแผนที่เราวางไว้ และทำได้แค่รับฟังเท่านั้น