เปิดฉายารัฐบาล 65 นายกฯ ฉุนสื่อตั้งฉายา “แปดเปื้อน” บอกไม่สนใจประเพณีบ้าๆ บอๆ

เปิดฉายารัฐบาลประจำปี 2565 โดยผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบ ซึ่งปีนี้ ตั้งฉายา “หน้ากากคนดี” ส่วนนายกฯ ได้ฉายา “แปดเปื้อน” ก็ต่อเนื่องมาจากปมวาระ 8 ปี ที่สั่นคลอนภาพลักษณ์ และกลายเป็นข้อครหาถึงความชอบธรรม

สำหรับการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติ

ฉายารัฐบาล ประจำปี 2565 คือ “หน้ากากคนดี” สะท้อนข้อกังขาถึงนโยบาย ว่าทำเพื่อประชาชน หรือ นักการเมือง เช่น นโยบายกัญชา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองใด เมื่อออกมาในนามรัฐบาล ประชาชนจึงเกิดความเคลือบแคลงสงสัย ว่าภายใต้หน้ากากที่ประกาศเป็นคนดีนั้น จริงหรือไม่?

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ฉายา “แปดเปื้อน” ก็ต่อเนื่องจากปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี สั่นคลอนภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดปีที่ผ่านมา และกลายเป็นข้อครหา ถึงความชอบธรรมในการครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อเนื่องยาวนาน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา “ลองนายกฯ” ล้อจากช่วงที่ท่านรักษาการนายกรัฐมนตรี 38 วัน ที่ประกาศใช้ใจบรรดาลแรง ทำหน้าที่ ลงพื้นที่ลุยงานรัวๆ ทำเอากองเชียร์นายกฯ ตัวจริง ร้อนๆ หนาวๆ แต่สุดท้ายก็ได้แค่ลองเท่านั้น

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ฉายา "เครื่องจักรซักล้าง" ด้วยความเป็นเอกด้านกฎหมายระดับปรมาจารย์ ทำหน้าที่เหมือนเครื่องจักรกล คอยซักล้างความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลให้ผ่านพ้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข "ภูมิใจดูด พูดแล้วดอย"

ก็อธิบายว่า "พูดแล้วทำ" คือ สโกแกนพรรคภูมิใจไทย แต่ทำแล้วสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แม้จะปลดล็อกกัญชาจากการเป็นยาเสพติด แต่กฎหมายควบคุมกลับค้างเติ่งติดดอย ไปต่อไม่ได้ เกิดเป็นปัญหาสังคมบานปลาย

ขณะที่ บทบาทพรรคร่วมรัฐบาล ถือได้ว่าเป็นเด็กดีมาโดยตลอด แต่เมื่อเสียงปี่กลองเลือกตั้งดังขึ้น กลับสวมบทไดโวโชว์พลังดูด ส.ส. นักการเมือง ทั้งจากพวกเดียวกัน และต่างขั้ว ชนิดไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โดดเด่นไม่แพ้การนำเสนอนโยบายกัญชา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ฉายา "ประกันไรได้" (ล้อมาจากประกันรายได้ ที่เป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สินค้าเกษตรกลับต้องทุ่มเงินไปประกันอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดคำถามกับการแก้ปัญหาของรัฐบาลด้วยวิธีประกันรายได้ ว่าถูกทางจริงหรือ? ที่ว่าประกันนั้น ‘ประกันไรได้บ้าง’)

นายดอน ปรมัติวินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ฉายา "ลุ่มๆ ดอนๆ"

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ฉายา "Powerblank"

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ฉายา "หน้าชัด หลังเบลอ"

ด้วยบทบาท 1 ในพี่น้อง 3ป. เบื้องหน้าเราจะได้รับรู้และเห็นเฉพาะในสิ่งที่ต้องการให้เห็นเท่านั้น แต่ฉากหลังกลับคลุมเครือไม่ชัดเจน เรียกได้ว่า เก็บมิด ปิดเงียบ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ฉายา "รมต.แรงลิ้น"

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ฉายา "วันทอง 2 ป."

ด้วยรักและเคารพพี่น้อง 2 ป. ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ถึงวันที่แยกทาง จึงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ ว่าจะไปต่อกับใครดี

ส่วน วาทะแห่งปี 2565 ของท่านนายกฯ : "เกลียดหรือไม่เกลียดก็ช่างคุณเถอะ เพราะผมไม่รู้"

เช้านี้ ท่านนายกฯ มีภารกิจไปประชุมองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งมีการแจ้งว่าหลังประชุมเสร็จ จะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่เมื่อนายกฯ ลงจากตึก เพื่อขึ้นรถกลับ สื่อมวลชนได้สอบถามว่านายกฯ จะไปสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในวันที่ 29 ธ.ค. 65 หรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่บอกว่า ขอบคุณฉายาสื่อนะ ขอบคุณมาก ก่อนขึ้นรถแล้วปิดประตูเอง เหมือนไม่พอใจ ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงฉายาทีได้ ท่านนายกฯ ก็ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ประเพณีบ้าๆบอๆ อย่างนี้ไม่มี