'ชัชชาติ' ยัน! รายงานผู้เสียชีวิตจากเสพกัญชา ไม่มีเจตนาขัดนโยบายรัฐบาล

'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' ผู้ว่าฯกทม.แจง เหตุชาย 51 ปี เสียชีวิตจากเสพกัญชาในโรงพยาบาลสังกัดกทม. ขอชันสูตรให้ชัดเจนก่อน ยืนยัน สิ่งที่กทม.เฝ้าระวังหลังปลดล็อกกัญชาเสรี ทำตามกฎหมาย ไม่ขัดขวางนโยบายรัฐบาล

จากที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เปิดเผย หลังการประชุมผู้บริหารกทม.ว่า มีผู้เสพกัญชาเข้ารักษาในโรงพยาบาลสังกัดกทม. 4 ราย ในจำนวนนี้ 1 ราย อายุ 51 ปี เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลว โดยมีประวัติเสพกัญชาร่วมด้วย ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์

ซึ่งสำนักการแพทย์ ได้สรุปรายงานว่า มีผู้ป่วยที่โรงพยาบาลตากสิน เป็นชาย 2 คน อายุ 17 ปี และ 25 ปี มีอาการใจสั่น

และที่โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ ย่านหนองแขม เป็นชายอายุ 16 ปี 6 เดือน ญาติบอกว่า เสพกัญชาร่วมกับยาเสพติด แต่ภายหลังผลตรวจแอมเฟตามีน(ยาบ้า)ผลเป็นลบ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ ICU ใส่ท่อหายใจ

ต่อมาสำนักการแพทย์ได้ประชุมสรุปข้อเท็จจริง ก่อนที่นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผอ.สำนักการแพทย์ บอกว่า ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เสพกัญชาเกินขนาดหรือไม่ เพราะมีข้อมูลจากญาติแค่เสพกัญชาเท่านั้น พร้อมบอกว่า มีผู้ป่วยกัญชาเพิ่มอีก 1 รายที่เข้ารักษา สรุปจึงมีผู้ป่วยกัญชาถึง 5 ราย ในพื้นที่กทม.

ประเด็นนี้ ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีฯสาธารณสุข ซึ่งเดินหน้านโยบายกัญชาเสรี ก็ตอบด้วยท่าทีค่อนข้างดุเดือด ย้ำว่าได้เตือนมาตลอดเรื่องการเสพกัญชา ไม่ใช่เจตนารมณ์ของการทำให้กัญชาเสรี เพราะเป้าหมายคือการนำไปใช้เพื่อทางการแพทย์

และย้อนถามว่า "กรณีนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เหตุใดจึงรายงานเพียงแค่เคสที่เกิดขึ้น ต้องการอะไร" และยืนยันว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองยึดประชาชนเป็นที่ตั้งทุกคน

และเมื่อเช้านี้ ระหว่างที่ นายชัชชาติไปตรวจปัญหาจราจรที่แยกลำสาลี ย่านรามคำแหง ผู้สื่อข่าวได้ถาม นายชัชชาติ ก็ชี้แจงว่า ชาย 51 ปีที่เสียชีวิต มีประวัติเสพกัญชา นั้น เป็นการรายงานเบื้องต้นจากทางสำนักการแพทย์ กทม. ที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ และมีการรายงานเบื้องต้น

แต่การชันสูตร ยังไม่ชัดเจนว่า เสียชีวิตจากโรคประจำตัวร่วมด้วยหรือไม่ ต้องไปดูสาเหตุ และบอกด้วยว่า สิ่งที่ กทม.ทำคือ ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งต้องทำตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ได้ขัดข้องนโยบายจากรัฐบาล ในฐานะผู้ปฏิบัติ ต้องระวังตัว เตรียมการด้านสาธารณสุขให้พร้อม

ขณะเดียวกัน กรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เตรียมเร่งออกประกาศกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ในระหว่างที่รอพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่ทางสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในขั้นตอนคณะกรรมาธิการอยู่ในขณะนี้ โดยเน้นจำกัดครอบครองช่อ ดอกกัญชา ทั้งในระดับบุคคลและวิสาหกิจชุมชน

ส่วนโรงพยาบาลหลายจังหวัดก็ขึ้นป้ายเตือน ใช้กัญชาอย่างปลอดภัย อย่างที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า จ.พังงา ขึ้นป้ายขนาดใหญ่ เตือนใช้กัญชา เพื่อรักษาโรคควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่สูบเพื่อสันทนาการหรือความบันเทิง และผิดพ.ร.บ.สาธารณสุข มีโทษจำคุกและปรับ ที่สำคัญ หากใช้กัญชาเกิน จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

ซึ่งทางเพจชมรมแพทย์ชนบท ก็โพสต์ ป้ายโรงพยาบาลเตือนใช้กัญชา พรึบ ในหลายแห่งพร้อมกันทุกภูมิภาค