รื้อแล้ว ป้าย 'สะพานท่าราบ' แจ้งความมือดี ติดป้ายทับชื่อ 'สะพานพิบูลสงคราม'

มีประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียล กรณีสะพานพิบูลสงคราม ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองบางซื่อ ถูกมือดีเปลี่ยนชื่อเป็นสะพานท่าราบ โดยการทำป้ายใหม่ทับของเดิม


จนมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นความพยายามลบเลือนประวัติศาสตร์ของคณะราษฎรหรือไม่ เนื่องจากชื่อสะพานแห่งนี้ ตั้งชื่อตามนามสกุลของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม สมาชิกคณะราษฎร แต่กลับถูกมือดีเปลี่ยนเป็นสะพานท่าราบ ซึ่งเป็นนามสกุลของนายทหารคนสำคัญในเหตุการณ์กบฏบวรเดช


เมื่อวันที่ 2 ก.ค.65 นายธานินทร์ เนียมหอม ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจ และตำรวจสายตรวจ สน.บางโพ ไปตรวจสอบสะพานดังกล่าว พบว่าเป็นป้ายอะคริลิก ทากาวติดทับชื่อเดิมไว้ ซึ่งผู้อำนวยการเขตดุสิต ระบุว่า ช่วงเที่ยงมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาที่แอปพลิเคชั่นทราฟฟี่ ฟองดูว์ ของ กทม. จึงมาตรวจสอบพร้อมตำรวจ สน.บางโพ โดยสะพานอยู่ในพื้นที่สำนักงานเขตดุสิต แต่เป็นความรับผิดชอบของสำนักการโยธา กทม. พร้อมยืนยันว่า ทางเขตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนชื่อดังกล่าว โดยหลังจากนี้จะร่วมกับตำรวจ สน.บางโพ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาตัวคนก่อเหตุต่อไป


ด้าน นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา สั่งให้เจ้าหน้าศูนย์ก่อสร้างและบูรณะ เร่งรื้อป้ายดังกล่าวออก ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ป้ายสะพานเดิมได้รับความเสียหาย เศษปูนหลุดลอกออกมาเป็นจุด ๆ ดูจากลักษณะกาวแล้ว คาดว่านำป้ายใหม่มาติดทับไว้ไม่นาน เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา ไปแจ้งความกับตำรวจ สน.บางโพ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้ว


ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมาย เพราะทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กทม.มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน หากจุดไหนเสียหายก็ต้องปรับปรุงแก้ไข ส่วนจะเอาผิดคนเอาป้ายมาติดหรือไม่ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนการกระทำดังกล่าวจะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายชัชชาติตอบว่า รู้ ๆ อยู่ แต่อย่าไปพูดถึง ประเด็นคือทำผิดกฎหมาย


ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำดังกล่าวมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะว่า ก็รู้ ๆ อยู่ แต่อย่าไปพูดถึง ประเด็นคือการกระทำที่ผิดกฎหมาย กทม.มีหน้าที่ต้องดูแลทรัพย์สินของทางราชการ