วันหยุด แต่ไม่หยุดหาเสียง - 'ชัชชาติ-ดร.เอ้' ลุยเรื่องฝุ่น - 'อัศวิน-สกลธี-วิโรจน์' ชูนโยบายเอาใจคนรากหญ้า

แม้จะเป็นวันหยุด แต่บรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม.ก็ยังลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างเข้มข้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม.เบอร์ 8 ลงพื้นที่เขตดอนเมือง พร้อมคุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยขึ้นขบวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 หาเสียงในพื้นที่เขตดอนเมือง-บางเขน-สายไหม ตอกย้ำแนวคิด "หาเสียงแบบรักเมือง"

ชัชชาติ ระบุว่า ปัญหา PM 2.5 เป็นเรื่องใหญ่ที่ ผู้ว่าฯกทม. ต้องดูแล เพราะอากาศบริสุทธิ์เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน กทม.ต้องเร่งกำจัดมลภาวะทางอากาศที่ต้นตอ เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคน นอกจากนี้ยังมีนโยบายจัดทีม นักสืบฝุ่น เพื่อศึกษาที่มาและต้นกำเนิดของฝุ่นในกรุงเทพฯ เพื่อการจัดการอย่างตรงจุด และโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่น PM 2.5 ทั่วกรุงเทพฯ อีกด้วย
-----

ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครเบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่วัดมังกรกมลาวาส ย่านเยาวราช ไปดูโครงการแก้มลิงใต้ดิน ซึ่งตรงกับนโยบายแก้น้ำท่วมที่จะทำทั่วกทม. พร้อมเสนอแนวคิด "เสาไฟ 4 มิติทั่ว กทม." ดูแลคนกรุงเทพ ซึ่ง 4 มิติที่ว่านี้ คือ จะมีทั้งแสงสว่าง / ความปลอดภัยระบบกล้องอัจฉริยะ ตรวจจับด้วยระบบ AI / นอกจากนี้ ยังมีเซนเซอร์วัดฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ / รวมถึงการให้บริการอินเตอร์เน็ตด้วย

นอกจากนี้ ในอนาคต ยังจะเตรียมพร้อมระบบเซนเซอร์วัดระดับน้ำท่วม ฟังก์ชันตรวจสอบความหนาแน่นของจราจร และติดตั้งปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินที่เสาไฟ กรณีเกิดอุบัติเหตุ อาชญกรรม หรือแจ้งขอความช่วยเหลือเร่งด่วน

-----

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม. เบอร์ 6 ลงพื้นที่ตลาดเช้าวัดรวกบางบำหรุ เขตบางพลัด รับฟังปัญหาพร้อมขอโอกาสเป็นผู้ว่า ฯ กทม.อีกครั้ง ซึ่งมีประชาชนมาคล้องพวงมาลัยดาวเรืองให้กำลังใจจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่นี้ เคยมีปัญหาการระบาดของโควิด ทาง กทม.ได้ทำศูนย์พักคอย โรงพยาบาลสนาม และจัดทีมแพทย์พยาบาลไปฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงถึงบ้าน

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงไฟฟ้าส่องสว่าง ปรับปรุงทางเท้า เป็นต้น ระหว่างการเดินหาเสียง มีผู้นำชุมชนมาเล่าปัญหาในพื้นที่ เช่น ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวินได้รับฟังปัญหาต่างๆ และรับเรื่องไว้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ชาวชุมชนต่อไป

-----

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่า ฯ กทม. เบอร์ 3 ลงพื้นที่ตลาดมีนบุรี เสนอยกระดับการคมนาคมกรุงเทพฝั่งตะวันออก โดยผลักดันรถเมล์ไฟฟ้า เชื่อมต่อ ล้อ ราง เรือ ให้มีความสะดวกมากขึ้น พร้อมชูนโยบายแก้ปัญหาขยะ ให้เอกชนเข้ามาประมูลขยะแทน กทม. ดำเนินการเอง ซึ่งจะประหยัดงบประมาณได้ปีละ 4-5 พันล้านบาท

สกลธี ยังระบุว่า ให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม และการลงพื้นที่ตามตลาดต่างๆ ก็ทำให้ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน โดยเฉพาะการปรับปรุงเรื่องการค้าขายบนทางเท้า แผงลอย ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าต้องการค้าขาย จึงต้องนำไปพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งผลกระทบต่อคนเดินเท้า ผลกระทบต่อการจราจร และความเป็นระเบียบของบ้านเมือง

-----

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เดินตลาดเช้าริมโขง เขตดอนเมือง ชูนโยบายการจัดสรรงบประมาณใหม่ ให้กระจายตรงไปสู่ชุมชน โดยจัดสรรงบตามขนาดและปัญหาของแต่ละชุมชน ให้นำงบประมาณไปออกแบบแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะเชื่อว่า คนที่เข้าใจปัญหาดีที่สุด คือประชาชนในพื้นที่

วิโรจน์ยังแสดงความมั่นใจว่า การเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กทม.ครั้งนี้ พลังที่จะเปลี่ยนกรุงเทพไม่ได้มีแค่คนชั้นกลาง แต่ยังรวมถึงคนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผ่านมา