เลือกตั้งและการเมือง

ไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพ ประชุม APPFครั้งที่30 ชูบทบาทการฟื้นตัวหลังโควิด-19 กับการพัฒนาที่ยั่งยืน

โดย JitrarutP

29 ก.ย. 2565

86 views

ที่อาคารรัฐสภา วันนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แถลงข่าวแก่ คณะทูตานุทูต ในโอกาสการเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 ซึ่ง รัฐสภาไทยจะเป็นเจ้าภาพจัด  การประชุมระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2565  ณ อาคารรัฐสภา ภายใต้หัวข้อ "บทบาทของรัฐสภาในการเร่งรัดการพัฒนาที่ยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  : Parliaments and the Post – COVID – 19 Sustainable Development"

ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้มีประเทศสมาชิก และผู้สังเกตการณ์ตอบรับเข้าร่วมการประชุมแล้วกว่า 20 ประเทศ จาก ทั้งหมด 28 ประเทศ ที่มีสำนักงานในประเทศไทย  โดยจะเป็นครั้งแรกของรัฐสภา ที่จะใช้อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นสถานที่จัดการประชุม และรองรับคณะทูตานุทูตจากต่างประเทศ

ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ประเทศไทยจะหยิบยกบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการเดินหน้าหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด รวมถึงการเผชิญหน้ากับปัญหาอื่น ๆ ที่แม้การระบาดโควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นโรคติดต่อ และการรับมือกับโรคติดต่ออื่น ๆ ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตด้วย




การประชุมครั้งนี้ มีวาระการประชุมครอบคลุมประเด็นหลากหลายต่าง ๆ จึงเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะผลักดันวาระที่มีความสำคัญและเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประเทศ ประชาชน ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญของรัฐสภาไทยที่จะแสดงบทบาทการเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในเวทีรัฐสภาระหว่างประเทศ และช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศจากวิกฤต การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งไม่เพียงส่งผลในด้านสาธารณสุข แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจและการพัฒนา รวมทั้งวิถีชีวิตของประชาชนในทุกระดับ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการดำเนินการของประเทศต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้ความก้าวหน้าในการดำเนินการในหลายประเทศประสบปัญหา และอาจส่งผลให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ รัฐสภาไทย ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และเห็นว่าการประชุม APPF ครั้งที่ 30 ควรนำประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน มาหารือในกลุ่มประเทศสมาชิกของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็น และประสบการณ์ของสมาชิกรัฐสภาจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จากการหารือร่วมกันเพื่อนำเสนอแนวทางในบริบทของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยคาดหวังว่าแนวทางการดำเนินการด้านนิติบัญญัติจะมีส่วน  ช่วยสนับสนุนการดำเนินการของประเทศสมาชิกให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ทันภายในปี 2573



หัวข้อสำหรับการประชุมทั้ง 4 ด้านของการประชุมประจำปี APPF ครั้งที่ 30 ได้แก่



- ด้านสตรี หัวข้อ “การเสริมสร้างศักยภาพของสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”



- ด้านการเมืองและความมั่นคง หัวข้อ “บทบาทการทูตเชิงรัฐสภาในการส่งเสริมความมั่นคง ในภูมิภาค / การส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาค รัฐสภาและการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย สันติภาพ และความมั่นคง”



- ด้านเศรษฐกิจและการค้า หัวข้อ “การส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุม การเพิ่มความเชื่อมโยงและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก”



- ด้านความร่วมมือระดับภูมิภาคภายในเอเชีย-แปซิฟิก หัวข้อ “บทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็น กลางทางคาร์บอนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การพัฒนาและการขยายการเข้าถึงสาธารณสุขมูลฐานอย่างเท่าเทียม/การส่งเสริม การท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและการสนับสนุนความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม”


ทั้งนี้การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ประกอบด้วย 4 อนุภูมิภาค ได้แก่


1. เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (5 ประเทศ) ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มองโกเลีย และรัสเซีย

2. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (9ประเทศ) ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และบรูไนดารุสซาลาม

3. โอเชียเนีย/หมู่เกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ตะวันตก และตอนใต้ (6ประเทศ) ได้แก่ ออสเตรเลีย ฟิจิ ไมโครนีเซีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะมาร์แชลล์

4. อเมริกา (8 ประเทศ) ได้แก่ แคนาดา ชิลี โคลัมเบีย เม็กซิโก เปรู สหรัฐอเมริกา เอกวาดอร์ และคอสตาริกา  

การจัดการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum : APPF) ครั้งที่ 30 ของรัฐสภาไทยในปีนี้ เป็นการประชุมที่เน้นรูปแบบการจัดประชุมสีเขียว   (Green Conference) ซึ่งคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญในขั้นตอนต่าง ๆ ของการจัดประชุมตั้งแต่การจัดเตรียมสถานที่ และอุปกรณ์ เช่น กระเป๋าเอกสารสำหรับแจกให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม ตัดเย็บจากผ้าดิบเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และมีความทนทาน ปากกาทำจากการนำเอาวัสดุที่ใช้แล้วมาแปรใช้ใหม่ (Recycle) ในที่นี้คือกระดาษและฟางข้าวสาลี  ที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้พลาสติก การใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น เป็นต้น รวมถึงการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มยังคำนึงถึงแนวคิดขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) เพื่อลดปริมาณขยะ


คุณอาจสนใจ

Related News