เลือกตั้งและการเมือง

ทาง 2 แพร่ง “บิ๊กป้อม - บิ๊กตู่”

โดย JitrarutP

12 ก.ย. 2565

191 views

หนึ่งประเด็นร้อนที่ช่วงชิงพื้นที่ข่าวช่วงนี้ จะต้องมี เรื่อง “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” ที่ต้องจับตายาวๆ ไปจนถึงสิ้นเดือน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเก้าอี้นี้แทนชั่วคราว 


รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ให้สัมภาษณ์ "รายการใต้เตียงการเมือง" รายการออนไลน์ของทีมข่าวการเมือง วิเคราะห์ถึงพี่น้อง 2 ป. ลุงตู่และลุงป้อม

อาจารย์สิริพรรณ บอกว่า สิ่งที่สะท้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ "รักษาการนายกรัฐมนตรี" ของ พล.อ.ประวิตร ในช่วง 2 สัปดาห์เศษที่ผ่านมา คือ  เรื่องความกระชุ่มกระชวย กระฉับกระเฉง สามารถพูดประโยคยาวๆ ได้ นอกจาก “ไม่รู้ๆ” สามารถแสดงความสามารถในการบริหารการบ้านการเมืองได้ดี เช่น โทรหานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. หรือแม้กระทั่งลงพื้นที่ไปแล้วถูกขโมยจูบ ซึ่งเราไม่เคยเห็นบุคลิกภาพ Pro-Active จากลุงป้อมแบบนี้มาก่อน



เรื่องที่ 2 ที่อาจารย์สิริพรรณวิเคราะห์เป็นส่วนของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล เราจะเห็นความสดชื่นขึ้นมาภายในพรรคทันที รอยร้าวจะสงบลงไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมด้วย แต่จริงๆ สภาก็เพิ่งประชุมผ่านไป แต่ก็จะเห็นการเข้าประชุมกันแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เรื่องสุดท้าย อาจารย์สิริพรรณ มองว่าการสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ถือเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อไม่มีนายกฯ พล.อ.ประวิตร ก็กลายเป็นรักษาการนายกฯ และดูเหมือนว่ามีโอกาสที่จะได้ทำหน้าที่นี้ยาวกว่าที่หลายคนคาดคิด ประเมินว่าจังหวะที่จะมีคำวินิจฉัยได้จะลากยาวไปถึงปลายเดือนกันยายน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็จะรักษาการนายกรัฐมนตรีได้ไปถึงประมาณสิ้นเดือนเป็นอย่างน้อย


***ไม่มี “ลุงตู่” ประเทศก็ไปต่อได้

อาจารย์สิริพรรณ วิเคราะห์ว่า ถึงแม้ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศก็ดำเนินไปได้ และดูเหมือนจะมีความสดชื่นด้วยซ้ำไป ซึ่งประโยคหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ชอบพูดก็คือ “ผมไม่ได้อยากอยู่หรอก ตำแหน่งนี้ แต่ว่าบ้านเมืองไม่มีผมเหมือนจะอยู่ไม่ได้” แต่พอศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ก็ดูเหมือนว่าการจัดการทั้งหลายทั้งปวงก็ดำเนินต่อไปได้ ดังนั้นในแง่นี้ไม่ว่าจะกลับมาหรือไม่ แต่ก็ทำให้เห็นว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งขาดไปได้


“พูดง่ายๆก็คือ ใครก็สามารถขึ้นมาแทนได้ แม้แต่ พล.อ.ประวิตรที่ดูเหมือนสุขภาพไม่แข็งแรง”


***น้องไม่อยู่ พี่ไปต่อได้


อาจารย์สิริพรรณ บอกว่า มีความชัดเจน ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ยังมีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมืองในอนาคตแน่นอน



ถ้าศาลรัฐธรรมนูญให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับมา โอกาสที่จะมีบทบาททางการเมืองริบหรี่มาก โดยเฉพาะถ้าบอกให้นับที่ปี 2560 ก็จะกลับมาได้อีกแค่ 2 ปี อนาคตถือว่าหมดแล้วหลังจากเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีใครเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน


ตรงกันข้าม สำหรับ พล.อ.ประวิตร โลกนี้ดูจะสดใสซาบซ่า เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลับมาก็จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่ โอกาสที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ ก็มีค่อนข้างสูง เพราะแม้ไม่มีรายชื่อในบัญชี แต่ข้อเท็จจริงที่เราทราบกัน พล.อ.ประวิตรเป็นคนคุมเสียง ส.ว.จำนวนมากที่จะมาร่วมโหวตด้วย และอีกอย่าง ชื่อของ พล.อ.ประวิตรจะต้องติด 1 ใน 3 ของบัญชีพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน จะเห็นว่าโอกาสทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร ชัดแจ้ง แจ่มแจ๋ว และการรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็เป็นการพิสูจน์ให้สาธารณชนได้เห็นว่า “นี่ไง ผมทำได้ ผมทำได้ดีไม่น้อยกว่าใครๆ”


อาจารย์สิริพรรณ มองว่า จากนี้ไป พล.อ.ประวิตร จะใช้กระบวนการเลือกตั้งเข้าสู่อำนาจทาง ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นว่าไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค หรือ ผู้แทน ที่ผ่านมาใช้ระบบบริหารประเทศผ่านระบบราชการเป็นหลัก แต่ พล.อ.ประวิตรจะใช้วิธีการผ่านการบริหารการเมือง ทั้งคู่ต่างกันสิ้นเชิง


***ทางแยก 2 แพร่ง “ลุงตู่ - ลุงป้อม” สะเทือนทั้งวงการเมือง


อาจารย์สิริพรรณ ยังทิ้งปริศนาเรื่องความสัมพันธ์ของ 3 ป. โดยเฉพาะ 2 พี่น้องบิ๊กตู่-บิ๊กป้อม ที่เริ่มมีรอยร้าว จากบุคลิกและวิธีการใช้อำนาจที่ต่างกัน  แม้ทั้งคู่จะไม่ได้ทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก หรือจะกลายเป็นศัตรูขั้วตรงข้าม แต่อาจารย์มองว่ามุมมองการบริหารการเมืองต่างกัน พอถึงจุดหนึ่งที่เป็นจุดเสื่อมมนต์ขลังของ พล.อ.ประยุทธ์ อำนาจจึงถูกถ่ายไปยัง พล.อ.ประวิตร ที่ใช้พรรคพลังประชารัฐกุมความสัมพันธ์นักการเมืองทั้งฝั่งรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ดีมาโดยตลอด ซึ่งถ้ามองในแง่นี้ เหมือนจะปูทางให้ พล.อ.ประวิตร ได้มีพื้นที่ทางการเมือง แล้วความสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ค่อยๆหมดลง


“เส้นทางถึงทางแยกแน่ๆ ยากที่จะบรรจบแล้ว อาจจะไม่ได้ทะเลาะกัน แต่จะเป็นทาง 2 แพร่ง”


คุณอาจสนใจ

Related News