‘ก้าวไกล’ ชี้ พปชร.แยกพรรค อย่าคิดประชาชนไม่รู้ หวัง ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯต่อ

วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่จั้ม สเปซ ริม ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยแกนนำพรรคก้าวไกล และสมาชิกพรรคก้าวไกล นำโดยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม และ นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง จัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์ที่ จ.ขอนแก่น ด้วยการพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยระหว่าง แกนนำคณะก้าวหน้า แกนนำพรรคก้าวไกล กับสมาชิกพรรคก้าวไกล ในเขต จ.ขอนแก่น โดยมีสมาชิกก้าวไกลและผู้ที่ชื่นชอบและสนใจทางการเมืองเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

นายชัยธวัช กล่าวว่า สำหรับ สูตรหาร 100 ที่เกิดขึ้นนั้นพรรคก้าวไกลไม่มีความกังวลใดๆ เนื่องจากพรรคก้าวไกลมีความชัดเจนว่าไม่ว่าระบบการเลือกตั้งจะเป็นแบบใด หรือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนเป้าหมายหลักของพรรคคือการได้ ส.ส.เขต ที่มากกว่า ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ พรรคก้าวไกล จะได้ ส.ส.เขตในจำนวนที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เพราะจากการทำงานของพรรคที่ได้พิสูจน์มาแล้วกว่า 3 ปี ซึ่งแม้เราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคก็ได้รับการยอมรับตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล เราเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานได้ดีที่สุด ประกอบกับนโยบายที่ชัดเจนว่าในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่โดดเด่นและตอบโจทย์ประชาชน รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคและสมาชิกพรรคมีการทำงานที่เข้มแข็ง ดังนั้นสูตรหาร 100 ที่เกิดขึ้นพรรคไม่ได้มีความกังวลใดๆ

“จะเห็นว่าขณะนี้การเมืองไทยเริ่มขยับขึ้น ซึ่งจะต้องมุ่งไปที่พรรคหลักของรัฐบาลคือพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการแยกพรรคเป็น 2 พรรคคือพรรคพลังประชารับกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเงื่อนไขที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับ คสช.ที่จะต้องควบคุม บริหารความพอใจและไม่พอใจของกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆที่มารวมกันเป็นพรรคทหาร อีกทั้งยังคงมีความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงเป็นสภาพที่พรรคพลังประชารัฐและ คสช. จึงจะต้องใช้กลยุทธิ์ที่รักษาความเป็นพวกเดียวกันแต่คนละพรรค ดีกว่าเป็นพรรคเดียวกันแต่คนละพวก เพราะเป้าหมายสูงสุดคือแน่นอนคือแม้ว่าจะเป็นพวกเดียวกันแต่คนละพรรค คือการสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธิ์ จันโอชา มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง”

นายชัยธวัช กล่าวว่า แต่ถ้าเป้าหมายแรกไม่ประสบผลสำเร็จก็จะเป็นเป้าหมายต่อมาคือรักษาให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นเป็นผู้จัดการรัฐบาลชุดใหม่ให้ได้ แม้จะต้องสลับขั้วทางการเมืองกันบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการเมืองแบบเก่าที่ย้ายพรรคกันไปมาเพียงเพื่อได้เป็นรัฐบาลหรือต้องการเป็น ส.ส.ต่อ โดยไม่ได้คิดถึงเป้าหมายหรืออุดมการณ์ที่ชัดเจน ซึ่ง รัฐบาล คสช.มีความชัดเจนในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลไม่กังวลก็ยังคงทำงานในแบบของก้าวไกลต่อไป เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มากที่สุดเพื่อให้ได้เสียงเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้