ส.ส.ก้าวไกล ร่วมกันชูภาพ ‘ผักบุ้ง - ใบปอ’ เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษ ม.112

ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมกันชูภาพใบหน้าของผักบุ้ง และใบปอ 2 นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เรียกร้องคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนทุกคนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ชี้นายกฯใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือปราบปรามผู้เห็นต่าง ลงโทษตามอำเภอใจ โดยไม่รอคำพิพากษา

นางสาวเบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวหามีการบิดผ่านกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการปราบปรามประชาชนผู้เห็นต่างและปิดกั้นการใช้เสรีภาพของประชาชนพร้อมเสนอคืนความยุติธรรมให้กับนักโทษทางการเมืองทุกคนรวมถึงคดี 112

โดยมีช่วงหนึ่งได้อภิปรายถึงกรณีกับจับกุมและคุมขังนักเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่าง ณัฐนิจ ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ และนางสาวนิติพร เสน่ห์สังคม หรือผักบุ้ง จำเลยในความผิดมาตรา 112 และ 116 ที่ถือป้ายให้คนติดสติกเกอร์แสดงความคิดเห็นในการสนับสนุนยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งยังไม่ให้ประกันตัว



นางสาวเบญจากล่าวว่าการกระทำของทั้งสองคนเป็นการเคลื่อนไหวของสามัญชนคนธรรมดาที่มีความกล้าหาญ ซึ่งหากใช้สามัญสำนึกไตร่ตรองจะเห็นว่าไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมายปกติ แต่เป็นการลงโทษล่วงหน้าตามอำเภอใจ ให้สาสมโดยการตีให้ทั้งสองหมอบกราบราบคาบ ลงโทษโดยไม่รอคำพิพากษา

และบางคนที่ได้รับการประกันตัวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระหว่างที่รอต่อสู้คดีตามหลักที่ระบุว่าหากยังไม่มีคำพิพากษาถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ในขณะที่รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ถูกกล่าวหา ว่ากระทำความผิดร้ายแรง แต่พลเอกประยุทธ์ยังอุ้มชูและให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไปได้ แต่เหตุใดนักกิจกรรม ที่เป็นอนาคตของชาติถึงกลับไม่มีสิทธิ์แม้แต่กลับไปเรียนหนังสือ

เรื่องนี้เป็นเศษเสี้ยวของความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรมภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ และคดีการเมืองที่เป็นไปตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และปัจจุบันมีผู้ถูกคุมขังในเรือนจำจากการแสดงออกทางการเมือง โดยไม่รับการประกันตัวระหว่างต่อสู้คดี อย่างน้อย 30 คน ซึ่งมีข้อมูลจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่ เดือนกรกฎาคมปี 2563 ถึง มิถุนายน 2565 มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากการชุมนม และแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแล้วอย่างน้อย 1,832 คน และเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีกว่า 200 คน

การบิดเบือนกฎหมายลักษณะนี้เป็นการค้ำจุนและรักษาอำนาจ ของผู้นำอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน และกลายเป็นยุทธศาสตร์ของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อวิกฤตตุลาการตุลาการและ สถาบันทางการเมือง และจะกลายเป็นวิกฤติทางโครงสร้างของสถาบันทางการเมืองที่กำลังรอวันพังทลายในอนาคต

ตนและพรรคก้าวไกลคิดว่าหากไม่ทำอะไรซักอย่างก็สังคมไทยจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีก จึงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผักบุ้งและใบพอ รวมถึงนักต่อสู้ทางการเมืองทุกคนเพื่อคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความยุติธรรมให้ประชาชน และสังคม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดจึงไม่สามารถฝากอนาคตเยาวชน และประชาชนไว้ที่พลเอกประยุทธ์ต่อไปได้ ซึ่งระหว่างนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ร่วมกันโชว์รูปใบหน้าของผักบุ้งและใบพอ 2 นักกิจกรรมทางการเมือง ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และยังไม่ได้รับปล่อยตัว กว่า 3 นาที จนนางสาวเบญจาอภิปรายจบ



พร้อมกันนี้เชิญชวน ส.ส.ในสภายืนตรงอย่างทนงองอาจ เพื่อทำหน้าที่ผู้แทนที่เป็นกระดูกสันหลัง ปลดล็อคชนวนระเบิดในระบบที่พลเอกประยุทธ์สร้างขึ้นมา ด้วยการเริ่มต้นเอาพลเอกประยุทธ์ออกไป ซึ่งจะเป็นภารกิจสำคัญทางประวัติศาสตร์ของผู้แทนที่มาจากประชาชนที่จะร่วมกันรับฟังเสียงของประชาชน