เลือกตั้งและการเมือง

กลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้า วอน ‘ไทยสร้างไทย’ ช่วยดูแลกลุ่มคนตัวเล็ก ถูกตัดสิทธิ์ขายสลาก

โดย attayuth_b

1 ก.ค. 2565

193 views

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยน.ส.เกณิกา ตาปสนันท์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย รับหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มผู้ค้าสลากเสรีรากหญ้าทั่วประเทศ นำโดยนายสำอาง ซ่อนกลิ่น นายสุมิตร เลอเกียรติวรกุล  ซึ่งนำตัวแทนยื่นหนังสือระบุถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการเปลี่ยนนโยบายขายสลากกินแบ่งรัฐบาล

โดยตัวแทนผู้ค้าสลาก เปิดเผยถึงปัญหาในการค้าสลาก ซึ่งคนตัวเล็กถูกรังแกจากมาตรการต่างๆของทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าผู้ค้าสลากขายเกินราคาไม่ทำตามกฎระเบียบ แม้ผู้ค้าจะพยายามดำเนินการตามมาตรการต่างๆแต่คนตัวเล็กก็ยังถูกตัดสิทธิ์ ทั้งจากสถานการณ์โควิด และระเบียบต่างๆ จึงอยากถามไปยังกองสลากว่าเหตุใดจึงต้องตั้งธงในการมาตัดสิทธิ์ ผู้ค้ารายย่อย ที่มีสลากไปอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตมีสาเหตุมากมายทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ  รวมถึงกลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุผู้พิการทั้งหลายที่ถูกตัดสิทธิ์โดยไม่สนใจความเดือดร้อน




ทั้งนี้สิ่งที่กองสลากเคยรับปากโรดแมปดังกล่าวไว้กลับไม่ดำเนินการ ทำให้ผู้ค้าสลากรายย่อยถูกตัดสิทธิ์ประมาณ 5 หมื่นราย หรือถ้าในครัวเรือนก็เกือบ 2 แสนคน จึงมาร้องเรียนกับพรรคไทยสร้างไทยให้ช่วยประสานงาน ดูแลกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้มีเจตนาในการกระทำความผิด ไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริง จึงขอให้ผู้มีอำนาจช่วยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย พร้อมยืนยันด้วยว่าสลากแพงเกินราคาไม่ได้มาจากผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีกำไรเพียงเดือนละสี่พันถึงห้าพันบาทที่จะมาเป็นผู้กำหนดราคา ซึ่งรัฐบาลก็ทราบถึงปัญหาและต้นตอที่จำเป็นต้องไปจัดการ แต่ที่ผ่านมากลับไม่เป็นเช่นนั้น ผู้มีอำนาจมาไล่กดดันกับผู้ค้าคนตัวเล็ก ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง





ด้านน.ส.เกณิกา กล่าวว่าตน ไม่ได้คัดค้านการออกสลากดิจิทัลเพราะถือว่าผู้บริโภคได้ประโยชน์ แต่ต้องการให้ รัฐบาลและกองสลากเห็นใจกลุ่มเปราะบาง ทั้งเรื่องการยืนยันตัวตน กลุ่มไกลปืนเที่ยงที่ห่างไกลเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ทันเวลา พร้อมย้ำด้วยว่า ยังมีผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นกลุ่มที่ติดโควิด เช่นหมู่บ้านหนึ่งซึ่งติดโควิด 1 หรือ 2 คนแต่ต้องถูกกักบริเวณทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทำให้ผู้ค้าสลากได้รับผลกระทบไม่สามารถออกไปค้าขายได้ จึงเป็นช่องทางให้ผู้ที่สามารถขายได้นำสลากไปขายต่อ ซึ่งคนที่ปล่อยสลากหลุดมือไปแล้วนั้น ไม่สามารถทราบได้เลยว่า สลากดังกล่าวปลายทางจะไปอยู่ที่ใด หรือจะไปโผล่แพลตฟอร์มใด ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลหรือกองสลากควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

"ยืนยันว่ากลุ่มผู้ค้าสลากรากหญ้าไม่ได้คัดค้านการทำสลากดิจิทัล ถ้าอยู่กับกลุ่มเปราะบางคนแก่ผู้สูงอายุคนพิการ หรือรายย่อยอย่างแท้จริงเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน แต่สิ่งที่เจอกลับพบว่าสลากเหล่านี้ไปอยู่ในมือนายทุน ปล่อยให้นายทุนมาเป็นเสือนอนกินในสลากดิจิทัล 5 ล้านใบเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะขั้นตอนการจัดสรรไปถึงมือกลุ่มผู้ค้าต่างๆ เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจต้องทบทวนให้เกิดความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ค้า โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง" น.ส.เกณิกา กล่าว



คุณอาจสนใจ

Related News