เลขาฯ ป.ป.ช. ยันเร่งดำเนินการทุกขั้นตอนแล้ว ปมอายุความคดีรุกป่า ‘พ่อ รมช.ศึกษา’

เลขาฯ ป.ป.ช. ยันเร่งดำเนินการทุกขั้นตอนแล้ว ปมอายุความคดี นายสุนทร วิลาวัลย์พ่อ รมช.ศึกษาฯ รุกป่า หมดอายุวันนี้ รับต้องปรับการทำงานให้เร็วขึ้น 


13 มิ.ย.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ ปปช. ชี้มูล นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี และพวกรวม 10 คน ออกโฉนดทับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ขณะนี้ยังมีผู้ยังไม่มารายงานตัวต่ออัยการจำนวน 5 คน รวมถึงนายสุนทร ซึ่งคดีจะหมดอายุความภายในวันนี้ จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม



โดยเลขาธิการ ปปช. ระบุว่า ยังไม่รับรายงานว่านายสุนทรเข้ามารายงาน ซึ่งวันนี้ (13 มิ.ย.65) ปปช. ก็ยังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าแม้อายุความคดีออกโฉนดทับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะสิ้นสุดลง แต่ยังมีกรณีบุกรุกป่าที่สามารถดำเนินคดีได้



เมื่อถามว่าเมื่อนายสุนทรไม่มารายงานตัววันนี้ โทษจะเบาลงหรือไม่ เลขาธิการ ปปช. ไม่ตอบ แต่ระบุเพิ่มเติมว่านอกจากคดีบุกรุกที่สามารถดำเนินการได้ ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ดินข้างเคียงอีกหลายแปลง ซึ่งคาดว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของนางกนกวรรณ และนายสุนทร เชื่อว่าขนาดที่ดินประมาณ 100 ไร่ หากตรวจสอบพบว่ามีความผิดก็จะมีการชี้มูลเพิ่ม ขณะนี้ ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบ



“กำลังตรวจสอบอยู่ครับว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ในลักษณะเช่นนี้หรือไม่นะครับ ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์แค่แปลงเดียวนะครับ เพราะฉะนั้นในแต่ละกรรม มันเป็นความผิดสำเร็จ เราก็จะไปดูว่ามีคดีไหนเที่ยงอยู่ภายใต้อายุความที่ดำเนินคดีได้ครับ”



เลขาธิการ ป.ป.ช. ยังระบุอีกว่า ป.ป.ช. จะประสานงานไปยังต้นสังกัดของนายสุนทร เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรม ทั้งการชี้มูลและพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งกรณีนี้ ถือเป็นเรื่องการขาดคุณสมบัติ ที่ต้องดำเนินการสอบสวน หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เหมาะสม อาจต้องดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรีได้



ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของ ป.ป.ช. ล่าช้า ต้องรอให้ใกล้หมดอายุความ เลขาธิการ ป.ป.ช. ยืนยันว่ามีการเร่งดำเนินการทุกขั้นตอนแล้ว แต่เรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรเนื่องจากเป็นเรื่องทรัพยากร ต้องมีการแปลภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงศึกษาและวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบว่ามีการบุกรุกจริงหรือไม่ ยอมรับว่าต้องปรับปรุงกระบวนการทำงาน ซึ่งกฎหมายใหม่ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ขยายเวลาไปได้อีก 1 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าดำเนินการต่อไม่ได้ โดยหากล่าช้าจะต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ