“ไตรรงค์” เผย คนลาออกประชาธิปัตย์ ระบาย หัวหน้าพรรค ใจแคบเอาแต่พวกพ้อง มีคนชักใย

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์หลายสมัย ร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ “คุยกับ ดร.ไตรรงค์” ในการสัมมนา ส.ส.กรรมการบริหารพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า การรวมกลุ่มของนักการเมือง หากไม่มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ มั่นคง ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติ ก็เป็นแค่กลุ่มการเมือง ที่หวังผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่พรรคการเมือง ดังนั้น อุดมการณ์ของพรรคถือเป็นสิ่งสำคัญ และคนจะมารวมกันได้ต้องมีอุดมการณ์ที่ตรงกันก่อน ต้องเห็นพร้องต้องกันถึงจะมารวมกัน ไม่ใช่เห็นแก่ประโยชน์หรืออามิสสินจ้าง อย่างนี้ไม่ใช่พรรคการเมือง

โดยวันนี้ ขอพูดความจริงที่เกิดขึ้นภายในพรรคว่า คนที่ลาออกไปหลายคน ได้โทรศัพท์มาหาตน และระบายความรู้สึกว่า การบริหารพรรคใจแคบ ดูแลแต่พวกตัวเอง แต่ละคนมีความระแวงในตัวหัวหน้าพรรค ทั้งยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยุคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มีคนชักใยข้างหลัง ไม่มีอำนาจที่แท้จริง ทั้งนี้ สิ่งที่ตนรับฟังมา อาจจะจริงหรือไม่ก็ได้

ทั้งนี้จากปัญหาที่สะสมมานาน หากรักและเหนียวแน่นในพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่ลาออกทิ้งพรรคไป ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ จำเป็นต้องรับฟังให้ความสำคัญ และนำมาแก้ไขปรับปรุงภายในพรรคของเรา โดยยกสมัยหัวหน้าพรรคของนายควง อภัยวงศ์ และได้เชิญ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรค มาหารือกัน โดย ม.ร.ว.เสนีย์ บอกว่า พรรคการเมืองตั้งขึ้นโดย 3 อ.คือ 1. อำนาจ ที่สั่งโดยนักการเมือง 2. อามิส คือ การให้เงินไปซื้อส.ส.มารวมกัน 3. อุดมการณ์ ดังนั้น ถ้าพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นไม่มีอุดมการณ์ มีแค่อำนาจและอามิส ที่สุดแล้วพรรคนั้น ก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อหมดอำนาจหรืออามิส พรรคเหล่านั้นก็ต้องสูญสลายไปเหมือนผึ้แตกรัง ซึ่งเป็นรังผึ้วที่ไม่มีนางพญาอยู่ แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ดังคำพูด ม.ร.ว.เสนีย์พูดเอาไว้ เมื่อประชาธิปัตย์อายุ 12 ปี ซึ่งปัจจุบันประชาธิปัตย์มีอายุถึง 76 ปีแล้ว