นายกฯ หารือทวิภาคีผู้นำนานาชาติ ยกระดับความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี ยังได้หารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และแขกพิเศษของรัฐบาล เพื่อสานต่อความสัมพันธ์และร่วมมือในด้านสำคัญต่างๆ ทั้งกับ จีน สหรัฐอเมริกา และซาอุดิอาระเบีย ที่กลับมาเริ่มความพันธ์กันในรอบกว่า 30 ปี



เมื่อเวลา 22.40 น.วันที่ 18 พฤศจิกายน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ หารือทวิภาคีกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และ ในฐานะแขกพิเศษของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของไทยและซาอุดิอาระเบียให้แน่นแฟ้นขึ้น ซึ่งไทยพร้อมที่จะสนับสนุนในด้านความมั่นคงทางอาหาร สาธารณสุข อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 ซาอุดีฯ สีเขียวและตะวันออกกลางสีเขียว และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG ของไทยและซาอุดิอาระเบียยังให้ทุนการศึกษากับนักศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง



พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ทำเนียบรัฐบาล อย่างสมเกียรติกับการเดินทางเยือนไทยในรอบ 11 ปี และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนจะร่วมหารือระดับทวิภาคี ที่ประธานาธิบดีจีน ขอบคุณในมิตรภาพจีน-ไทย ที่สืบทอดกันมาหลายพันปี ประชาชนมีความสัมพันธ์เหมือนพี่น้องกัน



โดยจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทย เพราะจีนและไทยไม่ใช่อื่นไกลคือพี่น้องกัน จีนพร้อมร่วมมือกันสรรค์สร้างความเจริญรุ่งเรืองและอนาคตร่วมกันกับไทย



นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีจีนยังขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางราง รวมถึงการดำเนินการโครงการรถไฟไทย-จีน ให้เป็นไปตามที่กำหนด รวมถึงจะเร่งความร่วมมือสามฝ่ายไทย-จีน-ลาว ในเรื่องการเชื่อมโยงระบบรถไฟ โดยไทยและจีนควรส่งเสริมการเชื่อมโยงตั้งแต่ EEC ของไทยไปยังรถไฟจีน-ลาว ต่อไปจนถึงมณฑลยูนนานของจีน และเชื่อมไปยังเส้นทางขนส่งสินค้าทางบกและทางน้ำสายใหม่ของจีน



นายกรัฐมนตรีและภริยา ยังได้เดินทางไปยังท่าอากศยานสุวรรณภูมิ เพื่อส่งประธานาธิบดีจีนเดินทางกลับ หลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจเอเปค



นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ หารือทวิภาคีกับ นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ซึ่งไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์มายาวนาน 190 ปี และจะเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แบบใจถึงใจ



ในขณะที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC 2022 ของนายกรัฐมนตรีและไทย ที่ประสบความสำเร็จด้วยดี โดยสหรัฐฯ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีหน้า พร้อมสานต่อประเด็นและผลลัพธ์สำคัญจากการประชุมฯ ในครั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ BCG ที่สหรัฐฯให้ความสำคัญ มุ่งสู่การเป็นสังคมปลอดคาร์บอน รวมถึงความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่ม Net Zero World ที่ไทยยังเป็นประเทศแรกที่เข้าร่วมข้อริเริ่มความต้องการพลังงานสะอาดของสหรัฐฯ อีกด้วย