เลือกตั้งและการเมือง

เดือดต่อเนื่อง! สรุปประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันที่ 2

โดย paweena_c

20 ก.ค. 2565

55 views

นอกจากการอภิปรายรัฐมนตรี 4 คนที่เหลือแล้ว ยังมีการชี้แจงของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเมื่อวานนี้ และมีการตอบโต้จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน กลายเป็นประเด็นร้อนในสภาผู้แทนราษฏร



เริ่มที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายในข้อกล่าวหาการทุจริตถุงมือยาง ภาค 2 โดยระบุว่า นายจุรินทร์ มีพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต เพราะผู้ทุจริตป็นคนใกล้ชิดที่ได้แต่งตั้งขึ้นมา จึงไม่อายัดเงินให้ทันเวลา จนในที่สุดผู้ทุจริตได้นำเงินกระจายไปฟอกเงินยังจุดต่างๆ จนไม่อาจนำกลับมาได้


ซึ่งเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตถุงมือยาง โดยองค์การคลังสินค้า ทำสัญญากับบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมจ่ายเงินมัดจำไป 2 พันล้านบาท แต่ไม่ได้รับมอบถุงมือยางตามสัญญา และมีการเปิดหลักฐานเส้นทางการฟอกเงิน 2 พันล้านบาท ซึ่งยังมีการสร้างหลักฐานเท็จ และตัดตอนไม่ให้มาถึงตัวเอง นายประเสริฐ จึงเรียกร้องให้ ป.ป.ช. สืบสวน พล.อ.ประยุทธ์ และ นายจุรินทร์ พร้อมดำเนินคดีกับฝ่ายการเมืองอีกครั้ง



ขณะที่นายจุรินทร์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตตามที่กล่าวหา เพราะ ป.ป.ช. ไม่เคยเรียกไปชี้แจง และไม่ใช่เพียงกรณีทุจริตถุงมือยาง 2 พันล้านบาท เท่านั้น ที่ อคส. มีภารกิจต้องไปทวงคืน แต่ยังมีกรณีทุจริตจำนำข้าว 5 แสนกว่าล้านบาท ในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ซึ่งยังไม่จบเหมือนกัน รวมถึงกรณีทุจริตมันสำปะหลัง 3 หมื่นกว่าล้าน จึงถามกลับว่าทำไมพรรคเพื่อไทยไม่ติดตามบ้าง จนทำให้ ส.ส.เพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงหลายครั้ง



คู่ที่ 2 เป็นการอภิปรายนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายประด็นความไม่โปร่งใสในโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ที่อ้างว่าจะแก้ปัญหาความล่าช้าในการออกโฉนดที่ดินให้ประชาชน แต่กลับมีการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในเครือข่ายของตนเอง คล้ายนโยบาย สปก.4-01 ในปี 2537 โดยมีการเปิดคลิปเสียง ที่ระบุว่าเป็นอมินีถือที่ดินแทน นักการเมืองท้องถิ่น ที่จะเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคการเมืองของรัฐมนตรีด้วย



ขณะที่นายนิพนธ์ ได้ตอบโต้ทันที โดยระบุว่าข้อกล่าวหาเป็นการมโนไปเอง ยืนยันว่าไมีมีนโยบายออกโฉนดที่ดินของรัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ใคร รวมถึงกรณีที่ดินเขากระโดง ยังมีประเด็นโต้แยงเรื่องแผนที่ท้ายที่ดิน ระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงทำให้ล่าช้า และกรณีนโยบายให้ต่างชาติถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ ก็ให้เพื่อการอยู่อาศัย และต้องมีเงินลงทุน 40 ล้านบาท ต้องลงทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เปิดให้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ขายชาติ โดยนายนิพนธ์ ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการชี้แจงคดีเก่าสมัยเป็นนายกอบจ.ด้วย



ส่วนประเด็นที่มีการจับตามากที่สุดคือการชี้แจงของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ยืนยันว่ามีความบริสุทธ์ใจ ไม่เคยแทรกแซงกับการประมูลงานในหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมในทุกกรณี รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดง ก็ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ทำตามกฏหมายอย่างเท่าเทียม ซึ่งต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์และไม่อยากให้ก้าวล่วงการพิจารณาของศาล และที่ดินของครอบครัวที่ถูกกล่าวหาก็เป็นคนละแปลง ส่วนประเด็นที่กล่าวหามีการซุกหุ้นให้นอมินี นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่ามีการซื้อขายจริง และโอนเงินเรียบร้อย แต่เกิดขึ้นก่อนมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ไม่ต้องชี้แจง ป.ป.ช. และยืนยันไม่มีการฮั้วประมูลเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เช่นเดียวกับโครงการ MR-Map ยืนยันว่าได้ประโยชน์ และพร้อมให้ผู้อภิปรายไปรับฟังคำชี้แจงด้วยตัวเอง



ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงตอบโต้ว่า นายศักดิ์สยาม ชี้แจงไม่ชัดเจน ในประเด็นการซุกหุ้นให้นอมินี แม้มีหลักฐานการขายหุ้น 120 ล้านบาทมายืนยัน แต่ไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สิน และยังปรากฏจำนวนหนี้ 69 ล้านบาทเหมือนเดิม จึงเชื่อว่ามีการทำธุรกรรมอำพราง ที่พรรคก้าวไกล จะจับมือพรรคประชาติ ยื่น ป.ป.ช.เอาผิดเรื่องนี้แน่นอน



นอกจากนี้ยังมีการชี้แจงของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า ไม่ได้ตั้งนักปั่นหุ้นมาเป็นคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต และไม่เคยแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อทำโครงการ เพราะไม่ใช่พรรคที่เคยมีคดีล้มล้างการปกครองหรือล้มเจ้า รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งบริษัทเพื่อมาสูบทรัพย์สินของการเคหะแห่งชาติ



ทำให้นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายเรื่องนี้ลุกมาตอบโต้ว่า สิ่งที่นายจุติ ชี้แจง ไม่ตรงประเด็น จึงคิดว่าควรเอาเวลา 20 ชั่วโมงที่เตรียมตัวมาชี้แจงวันนี้ ไปเก็บของออกจากกระทรวงดีกว่า ทำให้ประธานที่ประชุมต้องสั่ง ให้จบการอภิปรายและชี้แจงทั้งสองฝ่าย



ส่วนการอภิปรายที่ดูเหมือนจะไม่ดุเดือด แต่กลับใช้เวลาชี้แจงมากที่สุดคือ การอภิปรายนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายในประเด็นการคัดเลือกโครงการท่อส่งน้ำ โครงการ EEC ไม่โปร่งใส ทำให้นายสันติ ชี้แจงว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์กับบริษัทที่ทำการประมูล พร้อมถามกลับนายยุทธพงษ์ ถึงเบื้องหลังการอภิปรายเรื่องนี้มีผลประโยชน์ด้วยหรือไม่



ปิดท้ายก่อนจะถึงคิวอภิปรายรัฐมนตรี 3 ป. และกลายเป็นการอภิปรายที่มีการประท้วงมากที่สุด เมื่อ นางสาวชนก จันทราทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทางดีอี มีพฤติการณ์เสื่อมเสียทางศีลธรรมและฝ่าผืนจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีปัญหาชู้สาว ทำร้ายจิตใจภรรยาตนเอง ยกย่องหญิงอื่น และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการได้ประโยชน์จากโครงการในกระทรวงดีอีด้วย โดยนายชัยวุฒิ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่คิดว่าจะนำเรื่องแบบนี้มาอภิปราย ซึ่งผู้กล่าวหาต้องพร้อมยอมรับหากจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทด้วย



คุณอาจสนใจ

Related News