โต้เดือด! ผู้นำฝ่ายค้าน-ผู้นำรัฐบาล อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันแรก

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันแรก เริ่มต้นอย่างเข้มข้น นอกจากการเปิดญัตติอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 11 คนโดยผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นตอบโต้ จนกลายเป็นวาทะเด็ดประจำวัน การอภิปรายนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นนโยบายกัญชาเสรี ก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่ต้องออกมาชี้แจงกันนอกห้องประชุม

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันแรก เข้มขั้นตั้งแต่ช่วงต้นในการเปิดญัตติอภิปรายรัฐมนตรีทั้ง 11 คน โดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่เน้นเหตุผลที่ไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะบริหารงานล้มเหลว

ทั้งการเป็นผู้นำที่ไร้ความชอบธรรม ตั้งแต่ที่มาของการรัฐประหาร และการรักษาอำนาจด้วยการตั้งกองกำลังในสภา เพื่อสืบทอดอำนาจ และเป็นผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ทั้งการไม่มีแผนบริหารสถานการณ์โควิด 19 ตั้งบุคคลากรไม่เหมาะสม จนกลายเป็นรัฐทหาร ไร้จิตสำนึกในการปกป้องดินแดน เป็นยุคมืดมีการคุกคามสิทธิเสรีภาพของเยาวชน ประชาชนผู้เห็นต่าง และบริหารเศรษฐกิจจนเสียหาย เกิดวิกฤตพลังงาน ทำลายระบอบประชาธิปไตย จงใจกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะจากกรณีมติเห็นชอบสูตรหาร 500 ในกฏหมายเลือกตั้ง ที่มุ่งเห็นประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นตรวจสอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน



พลเอกประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงในทันที ยืนยันว่าไม่ได้คิดจะอยู่ต่ออีก 2 ปี และไม่ได้เป็นคนที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่เข้ามาเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และยืนยันว่านับแต่เข้ามาบริหารประเทศ ได้พลิกโฉมประเทศไทย ด้วยการประกาศวิสัยทัศน์ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่งเสริม 12 อุตสาหกรรม และสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC พร้อมเชิญชวนให้ร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ โดยยึดหลัก 3 ดี คือหลักการดี ข้อมูลดี และน้ำใจดี ก่อนจะทิ้งท้ายท้านายแพทย์ ชลน่านว่า หากคิดว่าใครดีกว่า ก็หาทางให้กลับมาให้ได้แล้วกัน จนกลายเป็นวิวาทะของวันนี้



ส่วนรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกอภิปรายคือนายอนุทิน ชาญวีกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกเปิดประเด็นนโยบายกัญชาเสรี โดยนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เปิดคลิปเมื่อครั้งนายอนุทิน ปราศัยหาเสียงนโยบายกัญชาเสรี ที่ระบุว่านอกจากจะใช้เพื่อการแพทย์แล้ว แต่ละบ้านสามารถปลูกได้ไม่เกิน 6 ต้น สามารถสูบในบ้านได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ผิด เป็นการจัดทำนโยบายที่ไม่สุจริต ละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติให้โทษ ขององค์การสหประชาชาติ ที่ขึ้นบัญชีให้ไทยเป็นประเทศที่ละเมิดกฎคณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ นอกจากนี้การออกฎหมายปลดล็อคกัญชาเสรี โดยที่ไม่มีหลักเกณฑ์ควบคุมกัญชาให้นำไปใช้เป็นยาเสพติด ยิ่งเป็นการบริหารที่ไร้จิตสำนึกทางจริยธรรม



นอกจากนี้นายแพทย์ วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายนโยบายกัญชาเสรี ที่นายอนุทิน จงใจสร้างสูญญากาศทางกฎหมายในการควบคุมกัญชา จนทำให้เกิดความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชน เสี่ยงมีปัญหาทางการทูต การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ และการปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์เป็นเพียงข้ออ้าง ที่พบว่ามีโฆษณาชวนเชื่อกับประชาชนว่าทุกคนจะปลูกกัญชาได้จนร่ำรวย สามารถนำกัญชาไปผสมอาหารหรือเสพได้ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของกัญชาทางการแพทย์เลย และยังพบการผูกขาดในการปลูกกัญชา ที่เสี่ยงต่อการนำไปใช้เพื่อสันทนาการและเป็นอันตรายกับเด็กและเยาวชน



ขณะที่นายอนุทิน ได้ลุกขึ้นชี้แจง ขอโทษคำพูดในคลิปเป็นการพูดติดตลกในช่วงหาเสียง โดยยืนยันว่าเป้าหมายของกัญชาเสรีเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และเศรษฐกิจ ไม่ได้มีเพื่อสันทนาการที่ผ่านมามีการออกกฏหมายของคณะกรรมการหลายชุดและเป็นไปตามความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ผิดกติกาโลก มีการให้ความรู้ กำหนดโทษชัดเจน ขณะนี้กฏหมายอยู่ระหว่างการพิจารณา ขอให้ทั้งสภาผู้แทนราษฏร และวุฒิสภา พิจารณาให้ผ่านโดยเร็ว



นอกจากนี้ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย นำนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ชี้แจงนโยบายกัญชาเสรี ที่ยืนยันว่า บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่สามารถแปรรูปสมุนไพรจากกัญชา ขณะนี้จึงยังไม่ใช่สูญญากาศทางกฏหมาย และนายศุภชัย ชี้แจงกรณีมีการกล่าวหาว่า นายอนุทินเอื้อผลประโยชน์ตนเอง ไม่เป็นความจริง เพราะบริษัทที่ถูกล่าวอ้างได้ยกเลิกการปลูกไปแล้ว