เลือกตั้งและการเมือง

'ชัชชาติ' ขอเวลา 1 เดือน หาทางออกสัญญา รฟฟ.สายสีเขียว เดินหน้าเคลียร์หนี้กทม.

โดย panwilai_c

2 มิ.ย. 2565

71 views

วันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มเดินทางถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตอนตี 4 นาฬิกา เพื่อวิ่งออกกำลังกาย ก่อน โดยบอกว่า เป็นการเปลี่ยนสถานที่วิ่งจากปกติไปวิ่งที่สวนลุม วันนี้ไปวิ่งลานคนเมือง เสาชิงช้า วัดพระแก้ว และปากคลองตลาด บอกว่าจากนั้นจะได้ทำงานต่อเลย ซึ่งภาระกิจสำคัญวันนี้เป็นอีกวาระที่หลายคนเฝ้าจับตา คือ การหารือร่วมกับผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม เกี่ยวกับประเด็นการจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการต่อสัมปทาน



นายชัชชาติ กล่าวภายหลังร่ว​มหารือกับบริษัทกรุงเทพธนาคม​นานกว่า​ 1​ ชั่วโมง เพื่อดูรายละเอียด​สัญญาการเดินรถ​และสัมปทาน​รถไฟฟ้าสายสีเขียว ​โดยระบุว่า ส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1 เดือน ซึ่งการหารือกับกรุงเทพธนาคมวันนี้ ทำให้ได้เห็นสัญญาการเดินรถส่วนต่อขยาย ที่จะสิ้นสุดในปี 2585 ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดภาระหนี้สิน ​จึงต้องนำข้อมูลมาตรวจสอบว่าภาระหนี้สินเกิดจากอะไรและสัญญาได้รับการอนุมัติ​จากสภา กทม.หรือ​ไม่​



ทั้งนี้ ไม่อยากให้เอาหนี้สิน มาเป็นตัวเร่งรัดการตัดสินใจระยะยาว​ แม้ว่าจะมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน​ หากมีความจำเป็น​ กทม.ยังมีข้อบัญญัติ​ในการกู้เงินที่จะนำมาชำระหนี้สินได้ โดยเป็นข้อบัญญัติ​ที่ต้องผ่านสภากทม.ก่อน​ และเป็นการกู้เงินจากรัฐจะได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงกว่าเอกชนกู้ ซึ่งย้ำว่าต้องดูรายละเอียด​ให้รอบ​คอบ​ก่อน​



ส่วนการขยาย​สัญญาสัมปทาน​ที่จะหมดในปี 2572 นั้น​ นายชัชชาติ​ระบุว่ายังไม่ได้มีการหารือ เพราะยังมีส่วนที่เกี่ยวข้อง​ สำนักการจราจร​และขนส่ง​กรุงเทพ​มหานคร​ หรือ​ สจส.​ และสภากทม.​ เข้ามาพูดคุยกัน​ ข้อมูลและทบทวนการต่ออายุสัญญาโดยให้สภากทม.ดูเนื้อหาอย่างละเอียด​ตามแนวทางปฏิบัติ​ เพราะสัญญาเดิมที่ค้างอยู่ใน ครม. ขณะนี้เกิดขึ้นจากการพิจารณา​ของคณะกรรมการ​ที่ถูกตั้งขึ้นโดยใช้ ม.44​



ทั้งนี้ หากศึกษารายละเอียดเชื่อว่าจะมีจุดที่ทำให้สัญญา​ถูกลงได้​ เพราะที่ผ่านมาไม่มีการใช้ พรบ.ร่วมทุนเข้ามาแข่งขัน​ ส่วนจะทำราคาค่าโดยสารถูกลง​จะเป็นไปได้หรือไม่ จะอยู่ในราคา 25 บาทหรือไม่นั้น​ นายชัชชาติระบุว่า​ เป็นเป้าหมายที่ตั้งใจจะทำ และมีความเป็นไปได้​ แต่ยอมรับว่าก็มีปัจจัย​อื่นที่ควบคู่​ไปด้วย เช่น โครงสร้างหนี้พื้นฐานที่จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงกำไรและขาดทุน​ พร้อมมองว่าอีกหนึ่งแนวทางที่จะลดภาระหนี้สิน​ คืออาจจะเริ่มเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย​ทั้งสองส่วน​ เพราะปัจจุบัน​การให้บริการฟรีอาจจะไม่สมเหตุสมผล​ และส่งผลกระทบต่ออาชีพการให้บริการรถขนส่งสาธารณะ​ที่จะขาดรายได้​ ทั้งนี้ต้องดูความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น​ประชาชนและเอกชนด้วย​



นาย​ชัชชาติ​ ระบุต่อว่า หลังจากได้ข้อสรุป​จะต้อง​รายงานต่อ​ พลเอกอนุพงษ์ เผ่า​จินดา​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ โดยจะรีบสรุปข้อมูลเพื่อเข้าหารือให้เร็วที่สุดและยังไม่เข้าไปรายงานที่ประชุมครม.​ และย้ำว่า​ สิ่งที่กทม.อยากทำมากที่สุด​ คือการเร่งคืนหนี้สินให้รัฐบาลให้เร็วที่สุดและอยากขอให้กทม.มาดูแลเรื่องการเดินรถเองเพราะถือเป็นสมบัติของเมือง

คุณอาจสนใจ

Related News