'ชัชชาติ' เปิดตัวดรีมทีม ไม่กังวลงบ กทม.เหลือเพียง 94 ล้านบาท

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครวันแรก หลัง กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง พร้อมเปิดตัวทีมรองผู้ว่าฯและที่ปรึกษา ย้ำไม่กังวลงบประมาณ กทม.เหลือเพียง 94 ล้านบาท

การเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการวันแรกของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประกาศพร้อมทำงานร่วมกับข้าราชการ กทม.ในฐานะเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่นาย และขอบริหารงานภายในก่อนพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรี ตามสายงานที่กำกับดูแล กทม. พร้อมเป็นตัวทีมรองผู้ว่าฯและที่ปรึกษา เป็นทีมทำงานที่หลากหลาย และไม่กังวลกรณีมีงบประมาณเหลือให้ทำงานเพียง 94 ล้านบาท จะวางแผนจัดการให้ทำงานได้แน่นอน 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คิกออฟนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพมหานคร ที่สวนเบญจกิติ โดยได้ร่วมปลูกต้นไม้ 100 ต้นแรก ตามนโยบายที่จะหลูกต้นไม้ 400 ต้นต่อเขตต่อสัปดาห์ ตั้งเป้าภายใน 4 ปีให้ได้ 100 ล้านต้น และได้ดูนกเค้า และนกหลากลายชนิดที่สะท้อนความสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าในเมือง ตามนโยบาย กทม. 15 นาที เพิ่มพื้นที่สีเขียว ซึ่งถือเป็นโครงการที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ และไม่เป็นกังวลที่มีรายงานว่า เหลืองบประมาณ กทม.เพียง 94 ล้านบาท เพราะต้องไปดูว่าจะบริหารจัดการอย่างไร เชื่อว่าไม่ใช่การวางยาจากอดีตผู้บริหาร กทม.แต่เป็นเพราะยังจัดเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้าหมายด้วย

การรับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 มีขึ้นที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หลังจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับหนังสือรับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จาก กกต.พร้อมกับ ส.ก.ที่รับรองแล้ว 45 คน ก็สามารถเปิดประชุมสภากรุงเทพมหานครได้ในสัปดาห์หน้า และได้รับมอบหน้าที่จากนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้า ก่อนจะเปิดตัวทีมรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ประกอบด้วยนายจักกพันธุ์ ผิวงาม ที่ดูแลด้านการเงิน รศ.ดร.วิศนุ ทรัพย์สมพล ดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและจราจร ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวช ดูเรื่องการจัดการภัยพิบัติและสาธารณสุข และนายศานนท์ หวังบุญสร้าง ดูเรื่องสังคม ถือเป็นทีมที่นายชัชชาติ มองว่ามีควมเชี่ยวชาญหลากหลายและผสมคนทุกรุ่น เช่น นายศานนท์ อายุเพียง 33 ปี ที่มีประสปการณ์เครือข่ายภาคประชาสังคมในการพัฒนาเมือง และทำงานกับคนจนเมือง เช่นชุมชนป้อมมหากาฬ มาก่อน

นอกจากนี้ยังมีทีมที่ปรึกษา 9 คน ประกอบด้วย นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ดร.เกษรา ธัญลักษ์ณ์ภาคย์ พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก พลอากาศเอกนายแพทย์ อนุตตร จิตตินันท์ พลตำรวจเอก อดิศร์ งามจิตสุขศรี ดร.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี นายภาณุมาศ สุขอัมพร นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ​ และนายภิมุข สิมะโรจน์ เป็นเลขานุการ โดยนายเอกวัญญู อัมระปาล เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และโฆษกทม.ถือเป็นทีมเวริ์คที่นายชัชชาติ เชื่อมั่นว่าจะทำงานร่วมกับข้าราชการกทม. ซึ่งระหว่างการรับตำแหน่งมีข้าราชการกทม.เปิดหน้าต่างมาปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้นายชัชชาติ ขอบคุณ และยืนยันว่า เขาไม่ใช่นาย แต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่จะทำงานไปด้วยกัน ส่วนการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาไทยและนายกรัฐมนตรี คงจะเข้าพบหลักจากบริหารจัดการงานภายในให้ลงตัวเสียก่อน

นายชัชชาติ ยังได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง และหารือกับผู้อำนวยการสำนักการโยธา ขอให้เปิดพื้นที่ให้ชาวดินแดงเข้ามาออกกำลังกายและใช้ประโยชน์ ส่วนแผนการย้ายศาลาว่าการกทม.มาที่ดินแดง อาจต้องดำเนินการอย่างค่อยไปค่อยไป เพื่อพัฒนาศาลาว่าการกทม.เสาชิงช้าให้เป็นพิพิธภัณฑ์และพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของเกาะรัตนโกสินทร์

ปิดท้ายภารกิจวันแรกของนายชัชชาติ ได้ร่วมเปิดงานเทศการ PRIDE Month เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ ที่สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งถือเป็นงานเทศกาลเดือนแรกตามนโยบาย 12 เดือน 12 เทศกาล ท่ามกลางปรากฏการณ์ ชัชชาติ ฟีเวอร์ ที่นายชัชชาติมองว่าไม่ได้แย่งซีนนายกรัฐมนตรี แต่ขอเป็นแค่ผู้บริหารกรุงเทพที่สร้างความหวังให้กับเมืองทีดีได้ ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ข่าว 3 มิติรายงาน