นายกฯ สั่งสางปัญหาวงการสงฆ์ ย้ำหน่วยงานที่ตรวจสอบต้องแข็งแรง

นายกรัฐมนตรี กำชับให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาพระสงฆ์ โดยให้เกิดการตรวจสอบ ตามกระบวนการที่มีอยู่ ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดีหมอปลา กรณีบุกตรวจสอบวัด 8 วัดก่อนหน้านี้

พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ได้กับชับให้นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะการปกครองสงฆ์ มีระเบียบพระสงฆ์ ถือเป็นการบริหารงานของเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ หรือจังหวัดเป็นต้น ซึ่งประชาชนต้องไม่ไปทำให้พระสงฆ์เสียหาย และพระสงฆ์ก็ต้องไม่ทำให้เสียหายเองด้วย และต้องมีการตรวจสอบตามกลไกที่มีอยู่

ส่วน นายอนุชา ระบุว่า พระพุทธศาสนามีองค์กรที่ปกป้อง และกลไกกำกับอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งใครที่กล่าวอ้างว่าจะปกป้องศาสนา เพราะการกระทำบางอย่างเหมือนจะเป็นการทำดี แต่ศาสนาถูกมองไปอีกด้าน ซึ่งเชื่อว่าคนที่ทำมีจิตใจไม่ปกติ

ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่เข้มแข็งมากพอที่จะปราบปรามพระนอกรีตได้นั้น นายอนุชา ระบุว่ามีความเข้มแข็ง และดำเนินการมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้ เผยแพร่เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องอ่อนไหว และกรณีพฤติกรรมของหมอปลา นายอนุชา ระบุว่าให้เป็นตามกฏหมาย โดยเฉพาะกรณีที่เป็นอาญาแผ่นดิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้่นจะเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่

วันนี้ ที่ประชุมร่วมระหว่างผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและฝ่ายนิติกร มีความเห็นว่าจะเร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา กรณีบุกไปตรวจสอบวัด 8 แห่งโดยพละการ เพื่อดูว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายฉบับใดบ้าง ทั้งประมวลกฎหมายอาญา , พ.ร.บ.คณะสงฆ์ , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งนิติกร อยู่ระหว่างตรวจสอบฐานความผิดให้ละเอียด

สำหรับ 8 วัด ดังกล่าว เช่นกรณีหมอปลา ตามหาพระสงฆ์รูปหนึ่งที่มีข่าวพัวพันกับสตรี ที่วัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอโนนไทย จ.นครราชสีมา แต่ได้พบกับพระภิกษุ รูปอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง จนเกิดการรุมถ่ายภาพ ทำให้พระภิกษุตกใจ และเป็นข่าวคึกโครม และอีกกรณีคือเหตุการณ์ที่ตามหาพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีภาพหลักฐานว่าขโมยชุดชั้น ในสตรี แล้วหลบไปอาศัยวัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา แต่ระหว่างบุกเข้าตรวจค้น พระรูปดังกล่าวได้หลบหนีไปก่อน ส่วนเจ้าอาวาสวัด ระบุว่าการเข้าตรวจค้น โดยพละการ ทำให้วัดเสียหาย หากแจ้งให้เจ้าอาวาสทราบล่วงหน้าก็มีโอกาสจับพระรูปดังกล่าวไว้ได้

และวันนี้เช่นกัน นายพงศกร จันทร์แก้ว อดีตพระกาโต๊ะ เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ป เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาความผิดยักยอกทรัพย์ โดยยอมรับสารภาพว่าเบิกเงินวัดจริง 6 เเสนบาท เพื่อใช้แก้ปัญหาส่วนตัว โดยมีเจ้าหน้าที่วัดอีกคนเซ็นต์ร่วม แต่ยืนยันไม่มีเจตนา ยักยอกเงิน จึงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ส่วนรองผู้บังคับการตำรวจ ป.ป.ป. ระบุว่าอยู่ระหว่างสอบสวนและรอหลักฐานทางการเงินจากธนาคาร มาเพื่อพิจารณาด้วย