เลือกตั้งและการเมือง

'ปารีณา' ขอเวลาทำใจ ถูกประหารทางการเมือง ฐานรุกป่า

โดย panwilai_c

7 เม.ย. 2565

38 views

กรณีครอบครองที่ดินของรัฐ 665 ไร่ ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ หลังศาลฎีกาพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งส.ส. และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต โดยศาลเห็นว่านางสาวปารีณา มีเจตนาไม่นำที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูป กีดกันไม่ให้ประชาชนผู้ยากไร้ ได้มีโอกาสรับประโยชน์จากการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. ถือว่าเสื่อมเสียเกียรติและผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งผลจากคำพิพากษานี้ จะทำให้นางสาวปารีณา ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส. / ส.ว. หรือผู้บริหารท้องถิ่นได้



ข่าว 3 มิติ พบว่าคดีที่ศาลตัดสินนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยนางสาวปารีณา ยังมีคดีที่อยู่ระหว่างยื่นฟ้องศาล อีกอย่างน้อย 2 คดี ทั้งกรณีถูกกล่าวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ และคดีบุกรุกป่าสงวนฯ ในอ.จอมบึง จ.ราชบุรี ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้ ในรายงาน คุณสถาพร ด่านขุนทด



ผู้พิพากษาศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาในคดี ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง ต่อ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินของรัฐในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 665 ไร่



โดยเห็นว่า น.ส. ปารีณา มีพฤติกรรมครอบครองที่ดินโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ดินของรัฐ ที่จะต้องเข้าสู่การปฏิรูปของ ส.ป.ก. และมีหน่วยงานแจ้งให้ทราบแล้ว แต่กลับไม่นำเข้าสู่กระบวนการ โดยอ้างว่าครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการประกาศเป็นเขตปฏิรูป ในขณะที่พื้นที่ของประชาชนโดยรอบ มีการนำที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปทั้งหมดแล้ว



จึงเชื่อว่า น.ส.ปารีณา มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยง เนื่องจากมีพื้นที่ครอบครองเกินกว่าที่กฎหมายปฏิรูปที่ดินกำหนด หลาย 10 เท่า ดังนั้นหากเข้าสู่การปฏิรูปที่ดิน ก็จะทำให้ สูญเสียที่ดินจำนวนมาก ประกอบกับ น.ส.ปารีณา ไม่ได้มีคุณสมบัติครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. เพราะไม่ได้เป็นเกษตรกรโดยแท้จริง และเป็นผู้ที่มีรายได้หลักมาจากเงินประจำตำแหน่ง ส.ส.



จึงถือเป็นการกีดกันประชาชนผู้ยากไร้ ที่ควรได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน ทำให้เสียโอกาสและเกิดความเคลือบแคลงใจ ทั้งที่คนเป็น ส.ส. ควรประพฤติตนเป็นแบบอย่าง ไม่กระทำการขัดต่อกฎหมาย จึงเชื่อได้ว่า น.ส.ปารีณา กระทำการที่สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ส.ส. อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมกลาง



พิพากษาให้ พ้นจากความเป็น ส.ส. นับตั้งแต่วันที่ศาลมีการรับคำร้อง คือ วันที่ 25 มีนาคม 2564 และ ตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามรัฐธรรมนูญนี้ พร้อมทั้งตัดสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 10 ปี



การถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะหมายถึงทั้ง ส.ส./ ส.ว./ และสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และจะไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย น.ส.ปารีณา ไม่ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ได้มอบหมายให้ทนายความทำหน้าที่ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวการเมืองช่อง 3 หลังทราบคำพิพากษา



ก่อนหน้านี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรีพย์สินของ น.ส.ปารีณา ในปี 2562 และขอให้ตรวจสอบการถือครองที่ดิน ที่ น.ส.ปารีณา แจ้งว่ามีการครอบครองมากถึง 1,700 ไร่ ในพื้นที่ อ.จอมบึง จ. ราชบุรี จนเป็นที่มาที่ทำให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง กระทั่งมีคำพิพากษาศาฎีกาในวันนี้





น.ส.ปารีณา ยังมีคดีค้างอยู่อีกอย่างน้อย 2 เรื่อง คือ คดียื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่ง ป.ป.ช.เพิ่งชี้มูลความผิดเมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านมา กำลังอยู่ในขั้นตอนยื่นเรื่องต่อศาลฎีกานักการเมือง หากศาลตัดสินว่าผิด จะมีโทษทางอาญา คือ จําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ



นอกจากนี้ยังมีคดีที่ถูกกล่าวหาบุกรุกป่าสงวนฯ บริเวณ ม.6 ต.รางบัว เรื่องอยูในชั้นอัยการ ซึ่งคาดว่าจะยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาตามมาอีกหนึ่งคดี





นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. บอกว่าเรื่องนี้ ยังมีคำร้องในประเด็นที่ใกล้เคียงกัน อีก 10 กว่าราย มีทั้ง ส.ส. ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล แจ้งบัญชีทรัพย์สินถือครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิชัดเจน ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบ



น.ส.ปารีณา ถือเป็นนักการเมืองคนแรก ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่เพิ่งกำหนดไว้เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญนี้ หลังจากนี้ กกต. จะมีการจัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 แทน น.ส.ปารีณา ภายใน 45 วัน

คุณอาจสนใจ

Related News