เปิดใจ 'อัศวิน' ลงสนามชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ครั้งแรก มั่นใจผลงานเก่า ขอสานต่อ

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นเวทีปราศัยครั้งแรกสนามกีฬาข้างโรงเรียนศาลคู้ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ถือเป็นการเปิดเวทีปราศัยใหญ่คนแรกในบรรดาผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการปราศัยครั้งแรกในการหาเสียงเลือกตั้งของพลตำรวจเอกอัศวิน ที่ยอมรับว่า ตั้งใจลาออกเพื่อมาลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย พิสูจน์ข้อครหาเป็นผู้ว่าฯจากการแต่งตั้ง



พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ในวัย 71 ปี ยังปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อทิ้งภาพอัศวิน ผู้ว่ามาตรา 44 ด้วยการเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้ดูทันสมัยขึ้นทั้งเสื้อผ้า และกางเกงที่ดูคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งพลตำรวจเอกอัศวิน ยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้ทำงานมีผลงานมากมาย แต่เป็นคนพูดไม่เก่ง ทำให้คนดูเหมือนว่ามีผลงานน้อย แต่ในช่วงเวลา 5 ปี 5 เดือน 5 วันของการเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ทำงานสำเร็จหลายอย่าง ที่เป็นงานคั่งค้างมานาน เช่น การก่อสร้างอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ที่ล่าช้ามากว่า 20 ปี ก็เร่งรัดให้แล้วเสร็จในสมัยของตนเอง และผลงานที่ประทับใจที่สุดคืองานพระราชพิธีที่มีคุณค่ามากในชีวิต



พลตำรวจเอกอัศวิน ยอมรับว่าพอใจกับหมายเลข 6 เพราะจะได้ทำงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซึ่งที่ผ่านมาได้แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากของกรุงเทพมหานคร จาก 24 จุดแก้ได้ 15 จุดแล้ว และไม่มีปัญหาน้ำรอระบายนานเหมือนก่อน จึงขอให้ลืมวาทกรรม น้ำมากรอการระบาย



ในด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม พลตำรวจเอกอัศวิน เปิดเผยด้วยว่า ได้แก้ปัญหาน้ำเสียในลำคลอง และการพัฒนาคลองกรุงเทพให้น่าอยุ่อย่างเช่นคลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และการเปลี่ยนสวนในกรุงเทพให้เป็นปอดของกรุงเทพอย่างแท้จริง เช่น สวนเบญจกิตติ จึงเป็นงานที่รู้และเข้าใจกรุงเทพดีในฐานะนักปฏิบัติ จึงทำงานต่อได้ทันที



พลตำรวจเอกอัศวิน ยอมรับว่า คู่แข่งต่างเป็นคนมีความสามารถจึงขอหาเสียงอย่างเต็มที่ในการนำเสนอนโยบาย ซึ่งแม้จะลงสมัครอิสระในนามกลุ่มรักษ์กรุงเทพ แต่ในทางการเมือง พลตำรวจเอกอัศวิน มีแรงหนุนจากรัฐบาลและอดีต กปปส.และฐานเสียงใน กทม.ที่ทำให้นาย

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งมีผลโพลคะแนนเต็ง 1 ประมาทไม่ได้จริงๆ