เลือกตั้งและการเมือง

ย้อนรอยคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา เปิดใจ 'พล.ต.ต.ปวีณ' หลังลี้ภัยไปออสเตรเลีย 6 ปี

โดย pattraporn_a

19 ก.พ. 2565

97 views

พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังลี้ภัยไปประเทศออสเตรเลีย กว่า 6 ปี ยอมรับว่า เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจขอลี้ภัย เป็นไปตามที่นายรังสิมันต์ โรม ได้นำไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแม้จะเสียใจกับการไม่ได้ทำหน้าที่ตำรวจตามอุดมการณ์ที่ตั้งใจไว้ได้ และเชื่อว่าหากได้ใช้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา จะสามารถสาวถึงปลาตัวใหญ่ได้อย่างแน่นอน


พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ ยอมรับว่านี่เป็นวันที่มีความสุขที่สุดนับจากลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 หลังมีคำสั่งย้ายจากรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไม่ให้เขาได้ทำคดีนี้ต่อไป แต่เหตุผลสำคัญที่ถูกนำมาเปิดเผยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ว่าเป็นเพราะใบสมัครให้เข้าสังกัดหน่วยงานพิเศษ แต่สุดท้ายถูกบีบให้ลาออกจากข้าราชการตำรวจและตัดสินใจลี้ภัยไปในคืนวันนั้นเมื่อกว่า 6 ปีก่อน


ทำไมการทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาของพลตำรวจตรี ปวีณ ในเวลานั้น ต้องทำให้นายตำรวจตงฉินคนนี้ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ เพราะจากคดีที่มีการพบหลุมศพชาวโรฮิงญา 35 หลุม ศพ 36 ศพ บนเทือกเขาแก้ว ตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อปี 2558 กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ พลตำรวจตรี ปวีณ ได้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุด เป็นเอกสาร จำนวน 699 แฟ้ม 271,300 แผ่นกระดาษ ออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 103 คน ในจำนวนนั้นเป็นนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 4 พลโท มนัส คงแป้น รวมถึงตำรวจ และ นักการเมืองท้องถิ่น


ซึ่งศาลรับฎีกา หลังจากศาลอุทธรณ์​มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ในความผิดค้ามนุษย์ และมีส่วนร่วมในอาชญากรรมข้ามชาติ และลักษณะการกระทำเช่น กักขังหน่วงเหนี่ยว และร่วมกันเรียกค่าไถ่ ซึ่งจำเลยคนสำคัญ ถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 82 ปีสำหรับพลโท มนัส คงแป้น และ 75 ปี สำหรับนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ อดีตนายกอบจ.สตูล รวมถึงนายซอเนียงอานู นายหน้าชาวเมียนมา ถูกจำคุกสูงสุด 94 ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่ พลตำรวจตรี ปวีณ ยอมรับว่า หากมีโอกาสได้ทำต่อก็เชื่อว่าจะสาวถึงปลาตัวใหญ่ได้แน่นอน


ก่อนต้องลี้ภัย พลตำรวจตรี ปวีณ ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี เขาจึงเสียดายโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจที่จะทำคุณประโยชน์กับประเทศชาติ ระหว่างลี้ภัย แม้ต้องไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาล แต่เขาก็ยอมรับที่จะต้องต่อสู้เพื่อรอวันพิสูจน์ความจริง และมีโอกาสได้กลับบ้าน กลับประเทศไทย


กว่า 6 ปีของคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา แม้ขบวนการค้ามนุษย์รายสำคัญในเวลานั้น ถูกตัดสินจำคุก แต่กลับพบว่า การค้ามนุษย์ยังมีอยู่ พลตำรวจตรี ปวีณ จึงหวังว่า ผู้เกี่ยวข้องจะทำหน้าที่ของตนเองไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก


พลตำรวจตรี ปวีณ ยืนยันว่า แม้ขณะนี้เขายังลี้ภัยอยู่ประเทศออสเตรเลีย แต่ขอใช้ความสามารถของตนเองในการหน้าที่หยุดยั้งขบวนการค้ามนุษย์ต่อไปเท่าที่ทำได้ 

คุณอาจสนใจ

Related News