เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 26 ม.ค.66 บิ๊กตู่ฉุนสื่อถามปมทักษิณ-รร.ปลดล็อกทรงผม-ห้ามตร.สวมเครื่องแบบรับจ็อบ

-ผบ.ตร.ย้ำสวนเครื่องแบบรับจ็อบนอกเวลาราชการไม่ได้ สั่งสอบย้อนหลัง 10 ปี ล่าขบวนการรถนำขบวนทัวร์จีน VIP ห้ามโฆษกให้ข่าว หวั่นข้อมูลสับสน รอผลสอบจเรทีเดียว ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิ ร่อนหนังสือ 3 หน่วยงาน ยกเลิกแต่งนอกเครื่องแบบ-ติดบัตร ให้ผ่านเข้า-ออก เฉพาะผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แก้ปัญหาบริการ VIP

-อิคคิว ควงบุ๋ม ให้ปากคำกองปราบฯ ปมครูบาไก่ พร้อมเปิดคลิปเด็ด ชายหัวโล้นมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายในรีสอร์ท แจงต้องการให้เจ้าตัวออกมารับความจริง ในสิ่งที่ก่อขึ้น หากยังเงียบเตรียมเดินหน้าแฉต่อ อุบมีหลักฐานเด็ดอีกเพียบ ด้านครูบาไก่ยังเก็บตัวเงียบ ไม่พบสื่อ ขณะที่โซเชียลถกสนั่นใช่หรือไม่

-แม่น้องไตตั้นวัย 6 เดือน ร้องฝากลูกให้ 2 สามีภรรยาเพื่อนรักดูแล เพราะต้องแอดมิดผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผ่าไป 2 วัน ลูกถูกส่งเข้าไอซียู เพราะสมองบวม กะโหลกร้าว มีรอยช้ำโหนกแก้มซ้าย ถึงกกหู เพื่อนรักอ้างเดินชนตู้เย็น แต่แม่ไม่เชื่อเพราะลูกยังเล็กอยู่ระหว่างหัดคลานเท่านั้น ตำรวจคุมตัว 2 สามีภรรยามาสอบปากคำ เบื้องต้นยังปฏิเสธ กัน จอมพลัง หวั่นแม่เด็กไม่ปลอดภัย ประสาน ตำรวจและ พม.เข้าดูแล

-หลายโรงเรียน ขานรับนโยบายกระทรวงศึกษา ให้แต่ละที่กำหนดระเบียบทรงผมตัวเอง ขอนแก่นวิทยายน เตรียมเปิดโหวต ทรงผมนักเรียน ถ้าเสียงโหวตชนะอาจได้เห็นเสรีทรงผมทุกระดับชั้น ส่วนนักเรียน รร.ทัพทันอนุสรณ์ อุทัยธานี หวั่นใจอาจต้องตัดสั้นเกรียนเหมือนเดิม จนครูต้องมาเคลียร์ว่าจะใช้กฎเดิม ด้านนักเรียนชาย โรงเรียนบุญวัฒนา โคราช เฮได้ไว้ทรงผมที่ชอบ ตอนนี้ เทรนด์ทรงผมพระเอกเกาหลีกำลังมาแรง ผอ. ขอหารือร่วมกัน จะได้แก้ระเบียบได้ข้อสรุปที่โดนใจทุกฝ่าย

-กระบะหัวร้อนเบียดแซงซ้ายรถเมล์สาย 138 บนทางด่วนไม่ได้ ขว้างของแข็ง – ทุบกระจกแตก โชเฟอร์ถูกเศษกระจกบาดมือเจ็บ ผู้โดยสารกรี๊ดลั่นรถ ประสาน ขสมก.ลุยแจ้งความเอาผิด

อีกกรณี กรมขนส่งทางบก เรียกเจ้าของสัมปทานรถเมล์สาย 680 ชี้แจงกรณีคนขับกร่าง อาการคล้ายคนเมา ขับรถชนมอเตอร์ไซค์ แล้ว ปิดประตูงับผู้โดยสาร โดยลงโทษปรับผู้ประกอบการ 5,000 บาท พร้อมสั่งกำชับ - อบรมคนขับรถทุกคนไม่ให้เกิดเหตุอีก ส่วนโชเฟอร์ต้นเรื่องที่หลบหนี ได้บันทึกประวัติความผิดไว้แล้ว



เรื่องเล่าการเมือง

-คดีใหญ่ ตำรวจรับงานนำขบวนนักท่องเที่ยวจีน เมื่อวานมีคำถามมาถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนายกฯ ชี้ว่า มีความผิด ต้องลงโทษ

โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกล่าวถึง การเผยแพร่ข้อมูลของนักท่องเที่ยวจีนว่า มีการรับนักท่องเที่ยวแบบวีไอพี มีรถนำขบวนว่า ได้บอกไปในที่ประชุมแล้วว่า ผิด ต้องลงโทษ ได้เตือนไปแล้ว ยืนยันว่าสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้

ส่วนที่ยังมีสื่อออนไลน์ของจีนโฆษณาการเปิดวีไอพีให้นักท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่

นายกฯ ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีนายตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีนด้วยว่า หลายหน่วยงานกำลังดำเนินการอยู่ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม การทำคดีต้องรอบคอบ จึงอาจจะไม่ทันใจ ยืนยันว่าหากใครเกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการโยงว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้อง และมีการระบุถึง คนที่ชอบนาฬิกา ทำให้นายกฯมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา


-อีกคำถามที่ทำให้นายกฯหงุดหงิด คือ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พาดพิงถึง ทั้งนี้ นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นทางการเมือง ผ่านรายการ Care Talk เมื่อคืนวันอังคาร โดยมองว่า จะมีการดึงเกมการยุบสภาฯให้ช้าที่สุด เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่สามารถตั้งสาขาพรรคได้ทั่วทั้งประเทศ

และช่วงหนึ่งมีการพูดถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และบอกว่า นายกฯควรจะกลับไปเลี้ยงหลานดีกว่า และไปเที่ยวด้วยกันเมื่อตนได้กลับบ้าน

เมื่อวาน ผู้สื่อข่าวพยายามถามนายกฯ ถึงกรณีที่คุณทักษิณ พาดพิงถึง ตั้งแต่ตอนที่นายกฯเดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งท่านก็ได้แค่ชำเลืองมองนักข่าว แต่ไม่ได้ตอบ แต่หลังท่านประชุมเสร็จและมาแถลง ซึ่งเมื่อนักข่าวถามเรื่องนี้ขึ้นมา นายกฯก็สวนกลับและเดินออกจากโพเดี้ยม เดินทางกลับทันที



-ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวานนี้ไม่ได้เจอผู้สื่อข่าว แต่เคลื่อนไหวผ่านโซเชียล โดยโพสต์เปิดใจฉบับที่ 2 ก็มีประโยคสำคัญ ที่ย้ำ "ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง และ เป้าหมายคือการนำพาประเทศฝ่าวิกฤต

เมื่อวานนี้ เพจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์จดหมายเปิดใจฉบับที่ 2

โดยเนื้อหา ก็เริ่มด้วยการขอบคุณสื่อมวลชน และประชาชน ที่ให้ความสนใจ จดหมายเปิดใจ เมื่อ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา มียอดสืบค้นทางกูเกิล ทะลุ 1.5 ล้านครั้งในวันที่ 2 "ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกสำหรับผมและพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากสังคม ตรงตามเจตนารมณ์ที่ผมต้องการสื่อสาร 2 ทาง เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่"

โดย พล.อ.ประวิตร บอกว่า "ผมอาจจะเป็นมือใหม่บนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง

วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่านักการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่จะต้องคิดเก่ง และที่สำคัญคือต้องหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย นอกจากนั้น นักการเมืองต้องสามารถประสานกับทุกฝ่าย ประนีประนอมกับทุกพรรค เพื่อลดความขัดแย้ง

นอกจากนี้ พูดถึงเป้าหมายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ โดยนโยบายแรกที่ประกาศไปแล้ว คือ การเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็นเดือนละ 700 บาท

ก่อนจะทิ้งท้าย ว่าจากนี้ จะเปิดเวทีเสวนาหาข้อสรุปนโยบายต่างๆ พร้อมทั้งไลฟ์สด ทางเพจอย่างสม่ำเสมอด้วย



-เมื่อวานนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ยื่นคำร้องถอดถอนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีและ ส.ส. โดยกล่าวหาว่ามีการใช้นอมินีถือหุ้นแทนในบริษัทเอกชน เข้ามาประมูลงานในกระทรวงคมนาคม

เมื่อวานนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องไปถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

โดยกล่าวหาว่ามีการใช้นอมินีถือหุ้น ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง ทั้งที่ตามพฤตินัย นายศักดิ์สยาม เป็นเจ้าของบริษัทตัวจริง รับงานภายในกระทรวงคมนาคม มูลค่าหลายพันล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นการเอื้อผลประโยชน์

นพ.ชลน่าน ก็ยืนยัน เรื่องนี้เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้าน ไม่ใช่การหวังผลในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

ขณะที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายศุภชัย ใจสมุทร แถลงตอบโต้ทันที ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ และ นายศักดิ์สยาม เคยชี้แจงไปแล้วว่าได้พ้นจากการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวแล้ว จึงมองว่าเป็นการดิสเครดิต พร้อมระบุว่า เตรียมพิจารณาฟ้องกลับฝ่ายค้าน ถึงขั้นการยุบพรรค

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/4_EXYDhCYLo