สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 30 พ.ย.65 สุชาติกราบลาบิ๊กป้อม-ทลายแก๊งจีนสีเทาโยงตู้ห่าว-เบิกตัวอภิรักษ์/พิ้งกี้

โดย thichaphat_d

30 พ.ย. 2565

45 views

-เปิดปฏิบัติการล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน ปูพรม 11 จุด โยงกลุ่มทุนจีนสีเทา ค้นบ้านหรูย่านลาซาล บ้านหรูย่านราชพฤกษ์ และ ห้องชุดมูลค่ากว่า 100 ล้าน ยึดเงินสด ตู้เซฟ รถสปอร์ต เครื่องประดับ จากการเข้าค้น ไม่เจอคนจีนที่เป็นเจ้าของบ้าน แม้แต่หลังเดียว เผยเผ่นแน่บ ทิ้งบ้าน เหลือเพียงคนรับใช้ แม่บ้านชาวไทย แฉพฤติกรรม ใช้เงินอู้ฟู่ ซื้อบ้าน-คอนโดหรู เกือบทั้งโครงการ เป็นเงินสด ผ่านบริษัทที่เป็นนอมินี รวมแก๊งจัดปาร์ตี้ สร้างความเดือดร้อน จนคนไทยต้องย้ายหนี

-เบิกตัวจำเลยคดีฟอร์เร็ก ตรวจพยานหลักฐานและสอบคำให้การ ด้านทนาย พิ้งกี้-แม่ แถลงศาล ยันเป็นนักลงทุนไม่เคยชวนใครร่วมด้วย รับปันผลจากการลงทุนเท่านั้น ส่วนพี่ชายพิ้งกี้ แถลงมีรายชื่อเป็นกรรมการจริง แต่ไม่ได้มีการร่วมบริหาร ส่วน ทนายของอภิรักษ์ แถลงว่า ตอนนี้ได้ว่าจ้างให้โบรกเกอร์ของต่างประเทศ ให้หาเงินจากผลการลงทุนนำมาชดใช้ให้กับผู้เสียหาย โต้ ทำธุรกิจซื้อขายเงินต่างประเทศจริง แต่ไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ขณะที่ ดีเอสไอ เรียกนักแสดงหนุ่ม กระทิง เข้าให้ข้อมูลในฐานะพยานในวันนี้

-แม่ลูกอ่อนวัย 18 อัดคลิปโหด หิ้วคอลูกวัย 6 เดือนทิ้งหน้าบ้านประชดผัวที่ไม่ยอมเหลียวแล หลังเป็นข่าว แม่เด็กหอบลูกหนี ตำรวจประสานพี่ชายเกลี้ยกล่อมก่อนยอมพบเจ้าหน้าที่ เจ้าตัวอ้างไม่ได้โยนลูก แค่ถือมาวางเฉยๆ ยันคลิปนั้นเป็นคลิปเก่า รับเครียดมาก หวังสังคมให้โอกาส ส่วนพ่อเด็ก รู้สึกผิดที่ปล่อยให้แฟนอยู่คนเดียวจนเครียด

-สุดงง หนุ่มใหญ่โวยสนั่นบน BTS หลังเจอต่างชาติ ไม่สวมแมสก์ ลั่นใช้ไม่ได้ เอาเชื้อโรคมาแพร่ในประเทศ ก่อนด่าซ้ำคนอื่นเค้าสวมกันหมดแล้วคุณไม่สวมอยู่คนเดียว ล่าสุด BTS แจงชัดสวมแมสก์ เป็นการขอความร่วมมือ ตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด

-นาย ณภัทร ยืดอก สารภาพรัก ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ก้าวแรกข้ามเส้นเพื่อนหลังกลับจากมิลาน อยากให้เขามาอยู่ในชีวิต ฝากสื่อถามใบเฟิร์นชอบตนบ้างหรือเปล่า



เรื่องเล่าการเมือง

-ส่วนการเมือง ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ ว่า "ใครจะอยู่-ใครจะไป" เมื่อวานนี้มีความชัดเจนจาก รัฐมนตรีสุชาติ ชมกลิ่น ที่ก่อนหน้านี้ส่งสัญญาณจะไปต่อกับ ท่านนายกฯ ได้กราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อลาออกจากผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐแล้ว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ระบุว่า ได้เข้ากราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และถือโอกาสลาออกจาก ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐด้วย

ก็ชี้แจงเหตุผลที่ลาออก ว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนอนาคตทางการเมือง บอกว่า ยังพูดตอนนี้ไม่ได้ แต่ย้ำเป็นจุดยืนเดียวกับท่านนายกฯ ไปไหนไปด้วย

ช่วงหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์ รัฐมนตรีสุชาติ ยอมรับว่าลำบากใจ เพราะทั้ง 2 คน เปรียบเหมือนพ่อแม่ที่ต้องแยกกัน

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวานนี้ก็ถูกถามเรื่องนี้ ก็ยืนยัน ไม่มีการปลด นายสุชาติ ตามที่มีกระแสข่าว แต่เป็นการยื่นหนังสือลาออกเอง

พูดถึงพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ มีรายงานว่าได้เช็กชื่อ ส.ส.กลุ่มต่างๆ โดยมี ส.ส.ที่ตัดสินใจย้ายพรรค เข้ากราบลา พล.อ.ประวิตร เช่นเดียวกับ ส.ส.ที่จะอยู่พรรคต่อ ก็ได้ทยอยเข้าพบ อาทิ ส.ส.กลุ่มภาคใต้ / ส.ส.สามมิตร และ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ยังอยู่กันครบ เพราะชัดเจนแล้วว่า ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยที่กลับเข้ามาอยู่ในพรรคจะไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา

อีกทั้งยังมีรายงานว่า การสู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ จะใช้ยุทธศาสตร์ “รักตู่ อยู่กับป้อม พลังประชารัฐพร้อมเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ โดย พล.อ.ประวิตร ขณะที่ภาพรวมยังคงวางเป้าหมาย ส.ส. ที่ 150 คน



-ส่วนนายกรัฐมนตรี หลังประชุมครม. ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ท่านอารมณ์ดี มีสีหน้ายิ้มแย้มให้ผู้สื่อข่าว แต่ยังคงเลี่ยงตอบคำถาม ถึง “อนาคตทางการเมือง”

ทั้งนี้ มีรายงานว่าก่อนการประชุมครม. นายกรัฐมนตรี / พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าไปนั่งพูดคุยกันในห้องรับรองเหมือนทุกสัปดาห์ แต่เมื่อวานนี้ใช้เวลาในห้องรับรองนานกว่าทุกครั้ง ขณะที่บรรยากาศเมื่อวาน มีรายงานว่า ท่านนายกฯ ได้กล่าวท้ายการประชุมครม.ว่า “ขอบคุณที่อยู่กันมา 3 ปีกว่า ขอให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำกันได้ ต่อไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดต่อไป ไม่สร้างภาระ ปัญหาซึ่งกันและกัน

พูดถึง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเวลานี้เป็นนายกฯ ในนามพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าจะสามารถไปสมัคร สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติได้เลยหรือไม่ ซึ่งอาจารย์วิษณุ ยืนยันว่า สามารถสมัครได้ เพราะตามกฎหมาย ไม่ได้บอกไว้ ว่าคนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น

นอกจากนี้ ยังตอบคำถามกรณีคำพูดของ พล.อ.ประวิตร ที่ออกมาระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ กับพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคเดียวกัน ว่าจะถูกนำไปร้องเข้าข่ายครอบงำพรรคได้หรือไม่ ซึ่งอาจารย์วิษณุ บอกว่า ได้ฟังอยู่ และมองว่า เป็นการพูดเล่นมากกว่า ก็ ยืนยันว่า "การพูดแค่นี้ ไม่สามารถครอบงำกันในทางกฎหมายได้"



-เมื่อวานนี้ ที่รัฐสภามีการคัมแบก ของอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการกลับมาใน รอบ4 ปี แต่มาในนามคณะก้าวหน้า ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น

นี่เป็นภาพบรรยากาศการคัมแบกกลับเข้าสภาอีกครั้ง ของทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ / นายปิยบุตร แสงกนกกุล / น.ส.ช่อ พรรณิการ์ วาณิช เป็นการกลับมาในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเข้าสู่ ที่ประชุมรัฐสภา ในวันนี้

โดยเมื่อวานนี้ นายธนาธร มาอธิบาย หลักการของร่างกฎหมาย ให้สื่อมวลชน รับทราบ ว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ต้องยกเลิกระบบรัฐรวมศูนย์ ใน 3 ประเด็น ด้วยกัน คือ

1. กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น สามารถบริหารจัดการรายได้ของตัวเอง ได้ ลดการส่งรายได้เข้าส่วนกลาง จาก ร้อยละ 70 เหลือเพียง ร้อยละ50 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณในการดูแลการบริการสาธารณะในพื้นที่ มากขึ้นไม่ต้องวิ่งของบจากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ส.ส. จนเกิดระบบอุปถัมภ์

2.ปลดล็อกอำนาจท้องถิ่น ออกจาก คำสั่ง หรือ ประกาศ กระทรวงส่วนกลาง ที่ปิดกั้นไม่ให้ท้องถิ่น พัฒนาพื้นที่ของตัวเอง

และ 3.เสนอจัดทำประชามติ ยุบระบบราชการส่วนภูมิภาค ควบรวมข้าราชการ และงบประมาณไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริหารจัดการตนเองได้

อีกคนที่คัมแบกมาสภาเหมือนกัน คือ อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวานนี้ วันนี้ถูกเชิญให้ไปร่วมงาน เสวนา เรื่อง "กติกาเลือกตั้งใหม่..ใครได้ประโยชน์" ที่รัฐสภา แล้วก็ให้สัมภาษณ์ กับสื่อถึงทิศทางทางการเมือง โดยบอกว่าตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจอะไร เพราะยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ส่วนที่มีภาพ ไปกินข้าวกับ นายอนุทินนั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่าว่าเป็นเพราะนายอนุทิน ติดค้างเลี้ยงข้าวคืน และก็ยอมรับว่ามีการพูดคุยเรื่องการเมืองกันบ้าง



-วันนี้จับตาการวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงความชัดเจน เกี่ยวกับร่างกฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่า ที่สุดแล้ว จะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดก็อาจจะกระทบกับไทม์ไลน์การจัดเลือกตั้งด้วย

วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงคดีด้วยวาจา และลงมติ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ใน เวลา 09.30น. โดยศาลจะพิจารณาว่าเนื้อหาของร่างกฎหมาย ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังรัฐสภาแก้ไขกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2ใบ สูตรหาร 100 แบบปี40

โดยพรรคเล็กมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบ และเป็นขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ต้องการใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม

ขณะที่เวที เสวนากติกาเลือกตั้งใหม่ ใครได้ประโยชน์ เมื่อวานนี้ ก็มีการพูดถึงประเด็นกันอย่างมาก อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า จุดเริ่มต้นของการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรื้อระบบเลือกตั้ง นั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะระบบปี 60 มีปัญหา แต่ในขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อกลับไปใช้ระบบปี 40 นั้น สภายังคงมีเนื้อหาของปี 60 ผูกไว้ ทำให้รัฐธรรมนูญขัดกันเอง ดังนั้นเมื่อร่างกฎหมายลูกก็จะมีส่วน ที่ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ

ทางด้าน อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต. มองว่าหาก ร่างกฎหมายเลือกผ่านไปได้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น โดยที่พรรคการเมืองใหญ่จะได้เปรียบ แต่ถ้าไม่ผ่าน สังคมจะมีความตื่นตระหนก จำเป็นที่รัฐบาลต้องหาทางออกเพื่อแก้สถานการณ์

ขณะที่ อ.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มองว่า การพิจารณาของศาล เป็นไปได้ 3 แนวทาง คือ 1. ศาลอาจบอกว่าขัดเป็นรายมาตรา ส่งกลับให้รัฐสภาแก้ไขใหม่ หรือ 2. ศาลตีตกไปทั้งฉบับให้ไปยกร่างใหม่ และ 3 .คือให้ผ่านไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าศาลจะให้ผ่าน



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/RvhHv-QomDU

คุณอาจสนใจ

Related News