สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 18 ส.ค.65 โหมกระแสยุบสภา-สั่งย้ายหมอตบเด็ก-ไฟไหม้ปริศนาย้ายบ้านอีกรอบ

โดย thichaphat_d

18 ส.ค. 2565

48 views

-กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ชี้เหตุลอบวางระเบิด 17 จุด 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นการเริ่มปฐมบท ในการก่อเหตุรอบใหม่ขึ้น เพราะคนร้ายพุ่งเป้าไปที่กลุ่มไทยพุทธ และสถานที่ท่องเที่ยว หมายเอาชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ยังไม่สรุปปัจจัยก่อเหตุ

-คุมตัวพ่อเลี้ยงโหด วัย 21 ชี้จุดทำร้ายลูกเลี้ยง 2 ขวบเสียชีวิต อ้างพลั้งมือทำร้าย เพราะโมโหที่ลูกเลี้ยงเล่นปลั๊ก ตำรวจนำตัวฝากขังพร้อมค้านการประกันตัว หวั่นหลบหนี ส่วนอาการลูกเลี้ยงวัย 6 เดือน พบกระดูกต้นแขนขวา และหน้าแข้งขวาหัก ต้องใส่เฝือก ส่วนผิวหนังพบโรคเชื้อราในหลายจุด  

-ศาลจังหวัดพัทยาให้ประกันตัว "เสี่ยยศ" พ่อ “เสี่ยบี” เจ้าของผับ Mountain B แล้ว ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 ล้านบาท พร้อมกับให้ติดกำไล EM ด้านผู้เชี่ยวชาญ จากวิศวกรรมสถานฯ ลงที่ตรวจสอบผับ พบก่อสร้างไม่ตรงแปลนที่ขออนุญาต มีปัญหาเรื่องทางเข้าออก – วัสดุก่อสร้างเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี

-ครอบครัวไฟไหม้ปริศนา ตัดสินใจย้ายกลับขอนแก่นบ้านเกิด หลังเจอไฟไหม้ปริศนาที่บ้านเช่าหลังใหม่อีกรอบ ด้านอาจารย์อ๊อด ยืนยันคำเดิม การติดไฟเกิดจากมนุษย์ ย้ำติดวงจรปิดรู้คำตอบแน่นอน

-สั่งย้าย หมอตบเด็ก 3 ขวบ ไปประจำสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกำแพงแสนชั่วคราว 15 วัน เปิดทางกรรมการสอบข้อเท็จจริง เจ้าตัวย่องให้ปากคำตำรวจ หลังแม่เด็กแจ้งความ ด้านอดีตผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไปด่า และล็อกคอยายเด็กก็เข้าไปขอโทษครอบครัวเด็กแล้ว

-ไม่รอด! รวบคนร้ายชิงทรัพย์ หวังขืนใจ เจ้าของร้านเสริมสวย หลานตลกดัง หม่ำ จกม๊ก พบตระเวนเพิ่งชิงทรัพย์ ภายในวัดสิงห์ ย่านบางขุนเทียน มาก่อนตอนเช้า ส่วนจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุก็ขโมยมาอีกที

-เขตพื้นที่โร่แจง ดรามา โรงเรียนนารีนุกูล 2 เมืองอุบลราชธานี ไม่มีไฟฟ้าใช้ เร่งจัดงบ 4 แสนกว่าบาท เปลี่ยนหม้อแปลงที่ชำรุด  และไม่ได้ทิ้งปัญหานาน 2 เดือนตามที่เป็นข่าว แต่ใช้เวลาเพราะต้องทำตามระเบียบราชการ และภาพที่มีการใช้มือถืออ่านหนังสือเป็นวันที่ฝนตกท้องฟ้ามืด

-ปตท.และบางจาก ปรับลดราคาเบนซิน – โซฮอลล์ทุกชนิด และ ดีเซลพรีเมี่ยม B7 ลิตรละ 50 สตางค์ ส่วน E85  ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร เริ่มวันนี้ ด้านรมว.พลังงาน เตรียมออกมาตรการช่วยค่าไฟกลุ่มเปราะบาง ยาวถึงสิ้นปี



เรื่องเล่าการเมือง

-กระแสการยุบสภาก่อน ครบวาระ8ปีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังที่จับตา หลังจากที่ กกต. ออกระเบียบเงื่อนไข การทำหน้าที่ของ ครม.รักษาการ ระหว่างยุบสภาขึ้น

เรื่องนี้กลายเป็นที่ฮือฮา หลังจากเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ราชกิจจานุเบกษาได้ เผยแพร่ระเบียบ กกต. ว่าด้วยว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ.2563

สาระสำคัญ ของระเบียบฉบับนี้เป็นการกำหนดเงื่อนไข การทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรักษาการ ไม่ว่าจะเป็นกรณีสภาหมดวาระ หรือมีการยุบสภา เพื่อให้เกิดความเสมอภาค ป้องกันการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง

โดยกำหนดห้ามห้ามไม่ให้ ครม.รักษาการ ใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ ที่มีผลต่อการเลือกตั้ง

ห้ามจัดประชุม ครม.สัญจร นอกสถานที่

ห้ามสั่งการหรืออนุมัติ เกี่ยวกับงบประมาณของหน่วยงาน เป็นต้น

หลังมีการประกาศระเบียบดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะตัวระเบียบ ประธาน กกต. ลงนามไว้ตั้งแต่ปี2563 แต่เพิ่งมาประกาศให้มีผลตามกฎหมาย 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งฝั่ง กกต. เองก็ยืนยันว่า ได้ส่งระเบียบดังกล่าว ไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีให้ประกาศแล้วตั้งแต่ปี 2563 แต่ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมเพิ่งนำมาประกาศ

แต่คนที่ออกมาเฉลย เรื่องนี้ คือรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย อ.วิษณุ เครืองาม บอกว่า ตนเองเป็นคนตัดสินใจยังไม่ประกาศระเบียบดังกล่าวตั้งแต่แรกเอง เพราะกลัวจะเกิดความแตกตื่นเหมือนที่กำลังเป็นอยู่

ซึ่งสาเหตุที่เพิ่งมาประกาศ เพราะเหลือเวลาอีก 6-7 เดือน สภาก็จะหมดวาระแล้ว



-เมื่อวานท่านนายกฯไม่ให้สัมภาษณ์ทั้งวัน ช่วงเช้าดูเหมือนท่านอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก แต่ช่วงเย็นท่านไปงานมอบรางวัลการประกวด "บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์" ท่านบอกเป็นวันที่ท่านมีความสุขมาก

นี่เป็นบรรยากาศช่วงที่ท่านนายกฯมาถึงบริเวณงาน ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาถึง ได้มีการเปิดเพลง"สู้เพื่อแผ่นดิน" ต้อนรับ ซึ่งเป็นเพลงที่ประพันธ์คำร้องโดยนายกฯเอง ซึ่งท่านก็ได้โบกมือทักทายผู้มาร่วมงานที่มีอยู่แน่นฮอลล์ และ ชูสัญลักษณ์ ไอเลิฟยู พร้อมเอามาทุบที่หน้าอกตามสไตล์ของท่าน

และหลังจากมอบรางวัลให้ผู้ชนะการประกวด "บทเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์" นายกฯก็ได้กล่าวกับผู้ร่วมงาน ท่านบอก รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มามอบรางวัลในวันนี้ โดยเฉพาะได้เห็นนิสิต นักศึกษาและประชาชนมีความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้ดนตรีเป็นสื่อกลาง

ท่านนายกฯ บอก เคยมาที่นี่หลายครั้งแต่วันนี้ถือว่าคนเยอะที่สุด แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีอนาคตอีกไกล เมื่อพูดมาถึงช่วงนี้ท่านนายกฯ ก็มีน้ำเสียงสะอื้น ก่อนจะหยุดพูดไปชั่วหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายช่วงที่นายกฯพูดไปสะอื้นไป ท่ามกลางเสียงปรบมือให้กำลังใจ ซึ่งท่านก็บอกว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่างไรก็ตามก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีปฎิเสธตอบคำถามสื่อ โดยโบกมือแทน

ย้อนกลับไปช่วงเช้า ท่านนายกฯค่อนข้างจะมีสีหน้าเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวพยายามทักทายท่านนายกฯ และพยายามจะสอบถามท่านเกี่ยวกับกระแสข่าวการยุบสภา แต่ท่านนายกฯก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์



-ฝ่ายค้านยื่นเรื่องต่อประธานชวน หลีกภัย เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายค้านขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ

1.เรื่องการสิ้นสุดจากตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ฝ่ายค้านเห็นว่าจะต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นนายกฯเมื่อ 24 สิงหาคม 2557

2.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนรษฎร ระบุว่า คงใช้เวลาในการตรวจสอบรายชื่อและความถูกต้อง 1-2 วัน จากนั้นก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที

สำหรับประเด็นเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวานฝ่ายค้านหลายคนอย่างออกแสดงความเห็นอย่างดุเดือด

เริ่มตั้งแต่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตั้งคำถามว่า พลเอกประยุทธ์ อ่านภาษาไทยไม่ออกหรืออย่างไร หากตีความตามรัฐธรรมนูญก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าครบ 8 ปีแล้ว

คนต่อมา คือ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ระบุว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในการกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 8 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดอำนาจ จึงอยากถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการผูกขาดอำนาจไว้หรือไม่



-ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล คุณธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล ออกมาตอบโต้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แทนนายกรัฐมนตรีอย่างดุเดือด

นายธนกร ระบุว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า นายกฯอ่านภาษาไทยไม่ออก ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง ทำให้ประชาชนสับสนนั้น

นายธนกร ย้อนกลับว่า "เพราะท่านนายกฯ อ่านภาษาไทยออก จึงไม่เคยคิดตอบโต้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่มักจะออกมาให้สัมภาษณ์เหมือนคนไม่เข้าใจภาษาไทย แม้ว่าจะอธิบายชัดเจนอย่างไร ประชาชนเข้าใจและหายสับสนอย่างไร แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ไม่เคยเข้าใจอยู่ดี จึงไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้ที่อ้างว่าสับสนนั้น คนที่สับสนคือประชาชนหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กันแน่"

ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ถ้าเป็นศาลรัฐธรรมนูญ จะสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่และรีบพิจารณาข้อร้องเรียนนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนนั้น นายธนกร กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องโชคดีมากเรื่องหนึ่งของประเทศไทย ที่ไม่มีชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นศาลรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ก้าวล่วงอำนาจ หรือกดดันการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และหากศาลวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็ควรเคารพคำวินิจฉัยของศาลด้วย

ส่วนเรื่องกระแสข่าวยุบสภา โดยนายธนกร ให้สัมภาษณ์แทนนายกฯ ยืนยันว่าท่านนายกฯ จะไม่ยุบสภาตามที่มีกระแสข่าว แต่จะอยู่ทำหน้าที่จนครบวาระ



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/UVX4pnaX22M

คุณอาจสนใจ

Related News