สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 20 ก.ค.65 ไฮไลท์ศึกซักฟอกวันแรก-เด็ก ม.6 ขายกัญชาใน รร.-เปิดดวงเศรษฐี ยิ่งเมายิ่งรวย

โดย thichaphat_d

20 ก.ค. 2565

57 views

-นาทียื้อชีวิต ช่างอาคารลงไปดูระบบปั๊มน้ำในบ่อบำบัดน้ำเสียคอนโดฯ หมดสติ รปภ.ลงไปช่วยน็อกด้วย รวม 4 ราย กู้ภัย เร่งหามส่ง รพ. สิ้นใจแล้ว 2 ศพ อีก 2 คน อาการยังน่าเป็นห่วง คาด ถูกไฟดูด หรือ ขาด อากาศหายใจจากก๊าซพิษ ด้านกู้ภัยเผยจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่อับ อาจมีก๊าซไข่เน่า

-ผู้ว่าฯ กทม หารือกลุ่มอาสาสมัครช่วยโควิด ยืนยันสถานการณ์กรุงเทพไม่น่าห่วง บริหารจัดการ ทั้งเตียงและยาได้ ไม่จำกัดจำนวนต่อวัน แนะผู้ป่วย 608 สีเขียว ให้ญาติมารับยาแทนได้ส่วนผู้ป่วย สีเหลือง ให้โทร 1669

ขณะที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ มีนักเรียนติดเชื้อสะสม 910 คน เบื้องต้น สั่งเรียนออนไลน์ 25 – 27 กรกฎาคม

-สุดสลด ชายปริศนา อุ้มเด็กชาย วัย 5 ขวบ วิ่งตามหาแม่ ถูกจับคดียาเสพติด โดนรถชนสะโพกหัก คู่กรณีนำมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาล    ล่าสุดคนขับรถกระบะ ยอมรับขับชนเด็กจริง แต่ประกันรถหมดอายุ จึงเอาเด็กมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาล

-สุดอึ้ง พบเด็กหญิง ม.6 ขายกัญชาในโรงเรียน เพื่อนติดงอมแงม บางคนอ่อนเพลียหลับเกือบทั้งวัน ล่าสุด พ่อของเด็กยอมรับผิด จะให้ลูกสาวย้ายโรงเรียน เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองท่านอื่นๆ

-ผู้ปกครองร้อง ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้หญิง ตบหัว ตบหลัง เด็กจนเซ แทบจะล้มทั้งยืน เพียงเพราะเด็ก ไม่เอาจอบไปปลูกต้นไม้ตามคำสั่งโรงเรียน ล่าสุด ผู้อำนวยการถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการโรงเรียนอื่นแล้ว

-เคน ยูโฟร์ และเพื่อนสนิทซันนี่ คาใจเจ้าหน้าที่กู้ชีพ นำร่างซันนี่ ไว้บนพื้นถนน โดยไม่นำส่งโรงพยาบาล แพทย์เผยผลชันสูตร พบระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ด้านครอบครัวสุดเศร้า จัดงานศพวันแรก ไม่เคยรู้ว่าป่วยหนักขนาดนี้

-วิจารณ์สนั่น พิธีสุดแปลก เปิดดวงเศรษฐี สาวกต้องดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ห้ามหยุด ยิ่งเมายิ่งรวย ด้านพระอาจารย์แจงเป็นพิธีกรรมทางโลก เรื่องของความเชื่อ ไม่ได้บอกว่าทำแล้วต้องรวย แต่ต้องขยัน ทำงาน ขณะที่ชาวบ้านหวั่นงมงาย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ


เรื่องเล่าการเมือง

-เริ่มวันแรกก็ดุเดือดแล้ว สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เริ่มต้นด้วยการอภิปรายภาพรวมโดยผู้นำฝ่ายค้าน ที่พุ่งเป้าเข้าใส่นายกฯเป็นหลัก

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายเป็นคนแรก เริ่มด้วยการอ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ก่อนจะอภิปรายภาพรวมโดยพุ่งเป้าไปที่นายกฯโดยตรง

นพ.ชลน่านใช้เวลาอภิปรายประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งด้วยถ้อยคำที่ดุเดือด โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายนั่งฟังอยู่ในห้องประชุมตลอด และทันทีที่ นพ.ชลน่าน อภิปรายจบ นายกฯได้ลุกขึ้นมาชี้แจงทันที นายกฯใช้เวลาเพียงประมาณ 15 นาที แต่ถือได้ว่าเป็นการตอบโต้กลับอย่างเผ็ดร้อนไม่แพ้กัน แทบจะเรียกได้ว่า เป็นตอบโต้แบบชอตต่อชอต

เริ่มตั้งแต่ชื่อ "ยุทธการเด็ดหัวผู้นำ สอยนั่งร้าน" ที่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า " นั่งร้าน" เหมือนเห็บเหา ปรสิต ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการสูบเลือดสูบเนื้อกับประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็โต้ กลับว่า ท่านไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด แต่คนที่ฉลาดตอนนี้อยู่ที่ไหน

ต่อมา นพ.ชลน่าน ได้อภิปรายถึงผลงานของนายกฯว่าผิดพลาดล้มเหลวในทุกด้าน เข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบธรรม เสพติดอำนาจ ขาดวิสัยทัศน์ และระบุว่าเวลา พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในเมืองไทยตัวใหญ่มาก แต่พอไปต่างประเทศกลับจ๋องๆ เจี๋ยมๆ ซึ่งนายกฯก็มาโต้กลับทันที

อีกท่อนที่ นพ.ชลน่าน อภิปรายอย่างดุเดือด คือ ช่วงที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นโรคหลงตัวเอง โอหังคลั่งอำนาจ ไม่รักษาและปล่อยให้อาการกำเริบมากขึ้นจนสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ

ขณะที่นายกฯมาโต้กลับว่า ที่ว่าท่านมีอาการทางสมอง ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้รักษากับ นพ.ชลน่าน

ช่วงหนึ่ง นพ.ชลน่านได้เปรียบเทียบรัฐบาลนี้ว่าเป็นรัฐบาล 608 คือ ทั้งแก่และไร้ความสามารถ และช่วงท้ายได้บอกว่าแม้รัฐบาลจะชนะเสียงในสภา ไม่ตายในสภา แต่จะตายในสนามเลือกตั้งแน่นอน

ซึ่งนายกฯ ได้โต้กลับประเด็นกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาล 608 โดยระบุว่าควรให้เกียรติให้ความสำคัญกับคนกลุ่มนี้ และในช่วงท้ายนายกฯได้ย้ำว่า ขอให้ฝ่ายค้านฟังด้วยสาตา 2 ข้าง หู 2 หู แล้วจะได้เห็นสิ่งดีๆ รู้ดีว่าฝ่ายค้านพยายามทำให้ตนโมโห สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ใช่ข้อเท็จจริง 100%

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "ท่านคงชื่นชมหลายคนที่ทำงานมาก่อนว่าดี ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน"



-การอภิปรายเมื่อวานนี้ รัฐมนตรีคนแรกที่ถูกอภิปราย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งฝ่ายค้านกล่าวหาว่า นายอนุทิน มีประโยชน์ทับซ้อนจากนโยบายกัญชาเสรี

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยชี้ว่า นโยบายกัญชาเสรีที่เกิดขึ้น เป็นการเอื้อให้เกิดผลประโยชน์ทางการเมือง เพื่อหวังคะแนนเสียงโดยไม่ใส่ใจผลกระทบทางสังคม

นอกจากนี้ยังพบว่า ธุรกิจในตระกูลของนายอนุทิน ยังเข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจกัญชงจากนโยบายเดียวกันด้วย จึงสะท้อนให้เห็นถึงความทับซ้อนของผลประโยชน์

เช่นเดียวกับ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เปิดคลิปการหาเสียงเลือกตั้ง ของ นายอนุทิน โดยมีการประกาศว่า ต้องการปลดล็อกกัญชา เพื่อเพิ่มเสียงหัวเราะให้กับประชาชน และประชาชนสามารถนำมาพี้สูบกันเองได้

โดยหมอวาโย มองว่าเป็นความคิดที่ผิดวัตถุประสงค์ของกัญชาทางการแพทย์

ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนยันว่า นโยบายกัญชาเสรี มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่มีการใช้ เพื่อสันทนาการ ส่วนประเด็นคลิปที่ตนเองพูดถึงการนำไปใช้พี้สูบ นายอนุทิน บอกว่า เป็นเรื่องที่สามารถตัดต่อได้

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ได้นำทีมทีมหมอของกระทรวงสาธารณสุข ระดับอธิบดีและรองปลัดสาธารณสุข มาแถลงชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่ถูกอภิปราย

และนายศุภชัย ได้ชี้แจงแทน นายอนุทิน ถึงการดำเนินธุรกิจของครอบครัว โดยยอมรับว่ามีการแจ้งขอดำเนินธุรกิจกัญชงจริง แต่ได้ยกเลิกไปแล้ว



-ต่อจากนายอนุทิน ก็เป็นคิวของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยอีกคน ซึ่งถูกอภิปรายในหลายประเด็น โดยเฉพาะมีการเปิดประเด็นใหม่ ว่ามีการซุกหุ้น และใช้นอมินีมารับงานในกระทรวงคมนาคม

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวหาว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปกปิดทรัพย์สินส่วนตัว โดยใช้ลูกจ้างเป็นนอมินี นำบริษัทรับงานกระทรวงคมนาคม

โดยไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทแห่งหนึ่งในปี 2539 โดยมี ตระกูลชิดชอบ ถือหุ้น 80% และที่ตั้งสำนักงานก็คือบ้านของศักดิ์สยาม ที่จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อมีตำแหน่งทางการเมืองก็ออกจากการเป็นผู้ถือหุ้น แต่พบว่า นายศักดิ์สยาม ก็กลับมาเป็นผู้ถือหุ้นเกือบทั้งหมดในปี 2558 โดยเพิ่มทุนเป็น 120 ล้านบาท และย้ายที่ตั้งสำนักงานมาที่บ้านหลังใหม่ของตัวเอง

กระทั่งในปี 2561 นายศักดิ์สยามก็โอนหุ้นทั้งหมดไปให้นอมินี และย้ายที่ตั้งสำนักงานออกจากบ้านของตัวเอง ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรีในปี 2562 เพียง 23 วัน

นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อคนถือหุ้นให้ลูกจ้างมาเป็นนอมินี หรือมีการซื้อขายหุ้นจริง นายศักดิ์สยาม หรือ ผู้ถือหุ้นคนใหม่ ก็จำเป็นต้องยื่นมูลค่าหุ้นส่วนเกินเป็นรายได้เพื่อเสียภาษีหรือหากซื้อขายเท่าราคาทุน นายศักดิ์สยาม ก็ต้องระบุเงินที่ได้จากการขายหุ้นเป็นทรัพย์สินต่อ ปปช. แต่ก็ไม่ปรากฏเงิน 120 ล้านก้อนนี้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่น ปปช. ในปี 2562 จึงเท่ากับยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ

และยังพบว่า บริษัทแห่งนี้ มาเป็นคู่สัญญาในการรับงานของกระทรวงคมนาคมที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท และมีพฤติกรรมฮั้วประมูล

นอกจากนี้นายศักดิ์สยาม ยังถูกอภิปรายถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดสรรงบประมาณของกรมทางหลวง ในความรับผิดชอบของนายศักดิ์สยาม ให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ มากเป็นพิเศษ รวมถึงประเด็นการบุกรุกที่ดินเขากระโดง และ ความไม่ชอบมาพากลในแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง หรือ MR-Map งบประมาณ 5.7 ล้านล้านบาท

ขณะที่นายศักดิ์สยาม ยังไม่ได้ใช้สิทธิชี้แจง โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากรัฐสภาว่า ที่ยังไม่ได้ตอบคำถาม เพราะติดช่วงเวลาของข่าวในพระราชสำนัก จึงจะขอชี้แจงในวันนี้ (20 ก.ค.) ยืนยันว่า พร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด



-อีกหนึ่งรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายอย่างดุเดือด คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยรัฐมนตรีสุชาติ ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการอนุมัตินำเงินประสังคมไปลงทุนในธุรกิจของพวกพ้อง

คนที่อภิปรายเรื่องนี้ คือ นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย เปิดเผยข้อมูลว่า นายสุชาติมีความใกล้ชิดกับนักปั่นหุ้นรายหนึ่ง และต่อมา พบว่าบอร์ดประกันสังคม ของกระทรวงแรงงาน ได้อนุมัติงบประมาณ ไปซื้อหุ้นบริษัทพลังงานของนักปั่นหุ้นคนดังกล่าว ที่มีความใกล้ชิดกับนายสุชาติ เพื่อปั่นให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นจนได้กำไร

นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่าบริษัทลูกของนักปั่นหุ้น 3-4 บริษัท นำกำไรที่ได้มาซื้อ หุ้น ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ของนายสุชาติ ชมกลิ่นด้วย จึงเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์เข้าตรวจสอบเรื่องนี้

ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงยืนยันว่าตนเองทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด ทำทุกอย่างตามกฎหมาย

และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนหุ้น ของบอร์ดประกันสังคม ตามที่ถูกกล่าวหา เพราะบอร์ดประกันสังคม มีตัวแทนมาจากทุกภาคส่วน ทำหน้าที่ด้วยความโปร่งใส


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lsTasOADoes

คุณอาจสนใจ

Related News