เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 5 ก.ค.65 ชัยวุฒิเคลียร์ใจชัชชาติ-โควิดระลอกใหม่-เบรก ถ.ข้าวสาร เป็นฮับกัญชา

-ปลัด สธ. ร่อนหนังสือด่วนที่สุด ให้สถานพยาบาล เตรียมพร้อมรับ โควิดระลอกใหม่ มีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น ในหลายพื้นที่ ขณะที่กรมควบคุมโรค ส่งสัญญาณเตือนโควิดขาขึ้น ส่อพีคกันยายนนี้ ย้ำไม่ควรถอดหน้ากาก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608

ด้านหมอนิธิพัฒน์ ศิริราช จี้ภาครัฐบอกความจริง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยจริงสัปดาห์ก่อน ทะลุวันละ 5 หมื่นคนแล้ว ส่วนที่ลำปาง โรงเรียนชื่อดังประกาศปิดโรงเรียน เรียนออนไลน์ 100 % หลังโควิดลุกลาม

-ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ เผย พบเด็กป่วยจากกัญชาเพิ่มอีก 3 คน / เด็กวัย 6 ขวบ กินขนมผสมใบกัญชา คึกกว่าปกติ และหลับนาน 11 ชั่วโมง / ส่วนเด็ก 15 ปี สูบบุหรี่ผสมกัญชา 2 มวน มีอาการหูแว่ว คลุ้มคลั่ง ถือมีดไล่แทงชาวบ้าน พร้อมออกแถลงการณ์ ฯ เสนอ 4 มาตรการคุมกัญชา ห้ามใช้ทำอาหาร-ขนม-เครื่องดื่ม หวั่นเข้าถึงโดยไม่ตั้งใจ

ขณะที่ รองผู้ว่าฯ กทม.เบรกข้าวสาร ฮับกัญชา ชี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะอยู่ใกล้ทั้งวัดและโรงเรียน ย้ำขายกัญชาถนนข้าวสาร ผิดกฎหมายทั้งหมด เหตุต้องขึ้นทะเบียนผู้ค้าและต้องขายสินค้าตามที่ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น

-พ่อตาสุดทน ลูกเขยเมาเหล้าทะเลาะเมียจะเข้าไปทำร้าย คว้ามีดไล่แทงปักหลัง ก่อนวิ่งมาขาดใจตายกลางถนนหน้าบ้าน ล่าสุดเข้ามอบตัว อ้างเก็บกด ลูกเขยเกเร เสพยา ดื่มเหล้า และชอบทำร้ายลูกสาว และแม่ยาย

-สุดเวทนา เด็กกำพร้าวัย 15 ถูกป้าใจร้าย ทำร้ายร่างกาย บังคับกินข้าวบูด สั่งห้ามออกนอกบ้าน เจ้าหน้าที่ เข้าช่วยเหลือ พร้อมคุมตัวป้าสอบสวน เจ้าตัวอ้างทำไปเพราะรัก กลัวท้องไม่มีพ่อ

-เผยภาพนาทีชีวิต คลื่นยักษ์ซัดโป๊ะทุ่นลอยน้ำกลางทะเล นักท่องเที่ยวต่างชาติหวิดถูกคลื่นซัดลงทะเล ไกด์หนุ่มวิ่งเข้าช่วยไม่คิดชีวิต

อีกจุด ทะเลคลั่ง คลื่นสูงซัดเรือสินค้าแตก ล่มจมกลางทะเลกระบี่ ลูกเรือ 7 ชีวิตลอยคอ ตำรวจน้ำรุดช่วย ฝ่าคลื่นลมพากลับเข้าฝั่งปลอดภัย ลูกเรือเผย คลื่นซัดหัวเรือ จนตัวเรือแตก ทะลักเข้าอย่างรวดเร็ว ทำเรือจมไม่กี่นาที

-รวบทันควันไอ้หื่น อนาจารเด็กวัย 4 ขวบ แม่เด็กเห็นคาตา ลูกสาวถูกล่วงละเมิด ขณะนอนหลับอยู่ในเปล ใต้ถุนบ้าน หลังก่อเหตุ หนีกบดานบ้านเพื่อน ก่อนจนมุม อ้างเมาเหล้า ใช้มือลูบคลำตามเนื้อตามตัวเด็ก ตำรวจหิ้วฝากขังศาลวันนี้

-ร้อยเวร งง! อุ้มไก่แจ้งความ ลุงวัย 66 อุ้มไก่ชนมากฝีมือขึ้นโรงพัก แจ้งความจับคนยิงหนังสติ๊กใส่ขาไก่ จนบาดเจ็บ ทำขึ้นสังเวียนไม่ได้ อีกฝ่ายอ้าง เล็งกระรอก แต่พลาดไปโดนไก่ สุดท้ายจบด้วยดี คู่กรณียอมชดใช้ค่าเสียหายจาก 5 พัน เหลือ 3 พันบาท



เรื่องเล่าการเมือง

-หลังจากเพิ่งเกิดดราม่าจากกรณีที่รัฐมนตรีชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลทำงานหลายอย่าง แต่พีอาร์ไม่เก่ง ไม่เหมือนผู้ว่าชัชชาติที่พีอาร์เก่ง ล่าสุดเมื่อวานมีดราม่าใหม่อีกแล้ว เมื่อรัฐมนตรีอีกท่าน ออกมาให้ความเห็นถึงกระแสชัชชาติฟีเวอร์

คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ด้วย โดยบอกว่า กระแสชัชชาติฟีเวอร์ เป็นฟีเวอร์เฉพาะพื้นที่เท่านั้น ถ้าไปที่ จ.ชลบุรี บ้านของตน เชื่อว่าตนฟีเวอร์กว่า หรือถ้าไปที่ จ.ตรัง ก็เชื่อว่านายชวน หลีกภัย ฟีเวอร์กว่า

นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังกล่าวถึงกระแสวิจารณ์เปรียบเทียบการทำงาน 1 เดือนของผู้ว่าฯกทม.กับการทำงานของผู้นำรัฐบาล โดยนายสุชาติ ถามกลับว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมา นายชัชชาติทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ผู้นำรัฐบาลมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า และแจกแจงถึงผลงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายสุชาติ กล่าวด้วยว่า ต้องดูว่าเราเลือกผู้นำเป็นผู้ว่าฯหรือจะเลือกเป็นผู้นำประเทศ เพราะผู้นำเป็นผู้คิดนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มองไปข้างหน้า ไม่ได้ผู้นำแบบที่ประชาชนมองว่าทุ่มเทมาก ฝนตกน้ำท่วมแล้วผู้ว่าฯไปเปิดท่อ มันไม่ใช่

ถ้าเป็นตนจะบอกว่า น้ำห้ามท่วม ขยะห้ามตัน ภายในหนึ่งสัปดาห์จะไปดู อย่างนี้เป็นนโยบายที่ผู้นำจะต้องทำ จึงขอให้ทุกคนเปลี่ยนความคิด ย้ำว่าที่พูดไม่ใช่ว่าจะไปแตะต้อง เพราะรู้ว่าไปแตะก็มีปัญหา

แกนนำพรรคพลังประชารัฐอีกคนที่พูดถึงกระแสชัชชาติฟีเวอร์ คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่บอกว่า “สื่อตีข่าวไปเอง" หลังจากผู้สื่อข่าวถามว่า จากปรากฎการณ์ชัชชาติฟีเว่อร์ ทำให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะต้องลงพื้นที่เพื่อเรียกคะแนนเสียงด้วยตัวเองหรือไม่

ส่วนอีกคนที่ให้ความเห็นความเห็นเรื่องกระแสชัชชาติฟรีเว่อร์ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดยบอกว่า นายชัชชาติ เป็นเหมือนตัวแทนความหวังของสังคม และให้กำลังใจนายชัชชาติในการทำงาน



-ส่วนรัฐมนตรีชัยวุฒิ ที่ให้สัมภาษณ์เรื่องกระแสชัชชาติฟีเวอร์เมื่อวันก่อนว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติที่พีอาร์เก่ง เมื่อวานทั้งคู่เจอกันแล้ว ระหว่างมาหารือเรื่องจัดระเบียบสายสื่อสาร

ก่อนการประชุม นายชัยวุฒิ ธนาคามานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ปิดห้องพูดคุยกันในห้องรับรองประมาณ 10 นาที ท่ามกลางการเฝ้าติดตามของสื่อว่าจะเป็นการเคลียร์ใจกันหรือไม่

หลังหารือเสร็จนายชัชชาติและนายชัยวุฒิ ได้เดินมาพร้อมกัน สื่อมวลชนจึงถามทันที ว่าเคลียร์ใจกันหรือยัง

นายชัชชาติ กล่าวว่า รักกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเลย ตนไม่ได้รู้สึกอะไร และต้องขอขอบคุณรัฐมนตรี ที่เชิญมาหารือกันในวันนี้

ขณะที่นายชัยวุฒิ บอกว่า นายชัชชาติเป็นรุ่นพี่วิศวะจุฬา รู้จักกันมานานแล้ว นับถือกัน ส่วนที่บอกว่า PR เก่ง ถือเป็นการชมรุ่นพี่ ที่ทำเรื่องประชาสัมพันธ์เก่ง เราก็จะต้องไปศึกษาทำตามแบบ ส่วนคำพูดที่หลายคนนำไปตีความว่า เป็นการแขวะ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนพูดดี จิตใจผมดีนะ แต่สื่ออาจจะไม่เข้าใจ


-เมื่อวานนายชัชชาติ ไม่ได้เจอแค่รัฐมนตรีชัยวุฒิ แต่ได้ไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ทั้งคู่ไม่ได้มาแถลงร่วมกัน

โดยนายชัชชาติ ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ "เบญจกิติ กับสวนลุมพินี" ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

ภายหลังการประชุม นายกฯ ได้แถลงข่าวที่โพเดี่ยมด้านข้างตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอยู่อีกด้านหนึ่ง

นายกฯ ได้แถลงสั้นๆ ถึงความคืบหน้าของโครงการเชื่อมสวนสาธารณะเบญจกิติ กับสวนลุมพินี ที่คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยทันวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และ บอกว่าได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายชัชชาติ ที่เสนอแนวคิดต่างๆในการร่วมมือกัน ซึ่งท่านนายกฯก็แถลงด้วยสีหน้าปกติ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถึงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค ช่วงนี้ก็ทำให้ท่านนายกฯมีท่าทีหงุดหงิดขึ้น โดยเฉพาะคำถามสุดท้ายของนักข่าว ที่ถามระหว่างท่านเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ที่ถามว่า จะดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงการประชุมระดับผู้นำเอเปคหรือไม่ เพราะอาจจะถูกให้พ้นจากตำแหน่งหลังดำรงตำแหน่งวาระครบ 8 ปี



-ปัญหาการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ที่ยังมีภาพฝนตก น้ำรั่วอยู่บ่อยครั้ง ปรากฎว่า เมื่อวานนี้ฝ่ายของผู้รับจ้าง ได้มีการส่งมอบงาน อ้างว่าสร้างเสร็จ 100% ทั้งโครงการแล้วให้กับสภา

ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวานนี้ มีการประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้าง การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังผู้รับจ้างมีการส่งมอบงาน 100%ให้ ผู้ควบคุมงานได้พิจารณาตรวจรับงาน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากฝ่ายต่างๆ เนื่องจากยังพบการก่อสร้างหลายจุดมีปัญหา

โดยฝ่ายที่ตรวจสอบปัญหานี้ อย่าง นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และนายวัชระ เพชรทอง 2 อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา คัดค้านการตรวจรับงานดังกล่าว พร้อมนำสื่อมวลชน สำรวจจุดบกพร่องในการก่อสร้าง อาทิ

ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยืนต้นตายและถูกตัดออกไป จำนวนมาก ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา

พื้นอาคารโซนกลาง มีการผสมไม้ชนิดอื่น โดยไม่ได้ใช้ไม้ตะเคียนทองทั้งหมดตามสัญญา อีกทั้งเสาไม้สัก จำนวน 4,200 ต้น ขึ้นรา มากถึง 2,400 ต้น และอีกจำนวนมากที่มีรอยแตกร้าว เพราะอบไล่ความชื้นไม่ได้ประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังพบแผ่นฝ้าอลูมิเนียมที่หลุดลงมาหลังเจอพายุฝนถล่มเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมาด้วย

นายวิลาศ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเห็นชัดเจนว่า การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จครบถ้วนตามข้อกำหนดในสัญญา แต่กลับเร่งส่งมอบงาน เพราะ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะเริ่มมีการปรับค่าก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด จากการที่สภา ไม่มีการขยายเวลาก่อสร้างเพิ่มให้

ด้าน ว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ผู้รับจ้างมีการส่งมอบงาน 100%ให้กับผู้ควบคุมงานจริง แต่ทางผู้ควบคุมงานพิจารณาไม่รับมอบ เพราะยังพบการก่อสร้างที่ไม่สมบูรณ์ 100% จริง

โดยพบว่ามีงานที่ยังไม่ได้ดำเนินการ / งานที่ยังดำเนินการไม่ครบถ้วน / และงานที่ดำเนินการไปแล้ว แต่ต้องปรับปรุงแก้ไข อีก

ส่วนจะมีปัญหาในพื้นที่ใดบ้างนั้น หลังจากนี้ ผู้ควบคุมงานจะทำรายงานสรุปเพื่อรายงานต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/nLk3coJUj-g