สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 1 ก.ค.65 ชัชชาติหนักใจปม รฟฟ.-จนท.ราชทัณฑ์ ลากิจบุกเดี่ยวชิงทอง-เล็งดัน ถ.ข้าวสารเป็นฮับกัญชา

โดย thichaphat_d

1 ก.ค. 2565

47 views

-เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ลากิจบุกเดี่ยวชิงทอง 15 บาท ถูกรวบตัว อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ ต้นสังกัดสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบ

-รวบ 3 โจ๋ ชิงพระเกี้ยวเด็กบดินทรเดชา สารภาพทำไปเพราะคึกคะนอง อยากได้พระเกี้ยวไปติดกับเสื้อนักเรียนเก่า ถ่ายลงสตอรี่โชว์พรรคพวก ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ชัชชาติ ลงจุดเกิดเหตุ ประสานเขต – ตำรวจ ดูแลความปลอดภัยนักเรียน

-กลุ่มนักเรียน ผู้ปกครอง และชาวบ้าน ฮือประท้วงขับไล่ ผอ. หลังสั่งงานเพียบ กดดันหนัก แชตคำพูดแรง จนครูหญิงวัย 42 รับไม่ไหวผูกคอดับ ทิ้งจดหมายลาตาย จนน้องชายออกมาแฉ หวังสังคมกดดันไล่ ผอ.จากตำแหน่ง

-หนุ่มขับกระบะ จอดรถลานจอดหอพัก ซอยรัชดา 36 แล้วโดนล็อคล้อ รปภ.วัย 66 แจ้งทำผิดกฎ เสียค่าปรับ 1 พันบาท ฉุนจัดคว้าดาบซามูไรไล่ฟันแหลก ถูกตำรวจตั้ง 3 ข้อหา ก่อนควัก 7 หมื่น 5 ประกันตัวในชั้นสอบสวน

-ผอ.โรงพยาบาลประโคนชัย เตรียมลงโทษ เจ้าหน้าที่รีดเงินค่าชันสูตรศพ ญาติลุงวัย 75 ที่ถูกลูกทรพีฆ่า ระบุทำเป็นครั้งแรก อ้างจำเป็นต้องใช้เงินรักษาพ่อป่วย เลยไม่มีทางออก

-โซวเฮงไถ่ อาคารจีนเก่าแก่อายุ 260 ปี ตั้งอยู่กลางชุมชนตลาดน้อย ทรุดตัวถล่ม เคราะห์ดีไม่มีคนเจ็บ เจ้าของคาด ความเก่าแก่ของสิ่งปลูกสร้าง ทำให้เกิดร้าว และไม่มีคานรับทำทรุดตัว เจ้าหน้าที่ประสานกรมศิลปากรจ่อขึ้นทะเบียนโบราณสถาน

-ผู้ประกอบการ เล็งเปิดถนนข้าวสาร เป็นฮับกัญชา ตั้งกฎเข้มห้ามขายให้เด็กต่ำกว่า 20 เปิดห้องสูบเป็นกิจจะลักษณะ หวังดึงดูดนักเสพทั่วโลก ด้าน ชัชชาติ กังวล ร้านกัญชาพันลำ ตั้งโต๊ะขายโจ่งแจ้งริมถนน กระทบสังคมโดยรวม ย้ำ กทม.ไม่มีอำนาจคุมขายกัญชา เป็นหน้าที่ตำรวจจับปรับแจ้งข้อหา

-นักตบลูกยางสาวไทย ต้านไม่ไหว พ่าย โดมินิกัน 3 ต่อ 1 เซต ศึกเนชันส์ลีก 2022 สนามที่ 3 รอลุ้นโปรแกรมหน้าเจอ บราซิล วันที่ 2 ก.ค.นี้


เรื่องเล่าการเมือง

-ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เมื่อวานคณะกรรมาธิการคมนาคม เชิญผู้ว่าชัชชาติ ไปหารือแนวทางการทำงานด้านระบบคมนาคม ซึ่งก็มีการถามไปถึงเรื่องอื่นด้วย และที่สุดมีการตั้งคณะทำงานมาทำงานร่วมกัน

ที่สภาผู้แทนเมื่อวาน คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าหารือ ถึงแนวทางการทำงานของกรุงเทพมหานคร ใน 4 ปี ต่อจากนี้ ว่ามีแนวทางบริหารจัดการคมนาคม ในกทม. อย่างไร กรรมาธิการจะได้สนับสนุน

ซึ่งในช่วงแรก นายโสภณ ซารัมย์ ประธานกรรมาธิการ (ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย) ได้กล่าวติดตลกว่า กว่าจะตัดสินใจเชิญนายชัชชาติมา มีการคุยกันพอสมควร เพราะนายชัชชาติกำลังดัง กังวลว่าจะเป็นการหาแสงจากผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ ซึ่งนายชัชชาติ ก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่าไม่ใช่ ๆ

นายโสภณ ระบุว่า ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ อยากฟังวิชั่นของท่านผู้ว่าฯ และจะดูว่าในการทำงานยังมีข้อกฎหมายใดที่ติดขัด ควรให้สภาแก้ไข

ขณะที่นายชัชชาติ ยืนยันว่าเห็นจดหมายก็รีบตอบรับทันที ตนเองให้ความสำคัญกับงานของสภาฯ พร้อมกับย้ำว่า เรื่องคมนาคม เป็น 1 ใน 9 ด้าน ของนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ และช่วงหนึ่งนายชัชชาติ ได้รับว่า ปัญหาหนักอก คือ เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายชัชชาติ ยังได้พูดถึงโครงการสร้างรถไฟฟ้าอีก 2 สาย คือ สายสีเทา เส้นเรียบด่วนรามอินทราไปพระราม 3 และสายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ ว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่จึงอยากให้รัฐบาลมาเป็นผู้ลงทุนและบอกว่า กำลังพิจารณาขยายเส้นทางวิ่งรถเมล์บางเส้นทางเพื่อเสริมกับรถเมล์ของ ขสมก.

และนอกจากสอบถามเกี่ยวกับเรื่องระบบคมนาคม กรรมาธิการบางคนยังสอบถามไปถึงเรื่องอื่นด้วย เช่น จะจัดการกับสายไฟที่รกรุงรังในพื้นที่ กทม.อย่างไร

รวมไปถึงนายคารม พลพรกลาง กรรมาธิการพรรคก้าวไกล (ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย) ได้ถามว่า ตนเป็น ส.ส.อีสาน จะสามารถแสดงความเห็นเกี่ยวกับ กทม. ได้หรือไม่ ซึ่งคุณชัชชาติ ก็ตอบประเด็นนี้ด้วย

ต่อมายังมีกรรมาธิการถามนายชัชชาติ ถึงไอเดียในการหางบประมาณมาใช้ในโครงการต่างๆ กระทั่งประธานกรรมาธิการ ต้องปรามว่าถ้าถามแบบนี้ 3 วันก็ไม่จบ

หลังจากประชุมซักถามนายชัชชาติ อยู่เกือบ 1 ชั่วโมง นายโสภณ ประธานคณะกรรมาธิการได้เสนอให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กทม.และกรรมาธิการ เพื่อมาดูว่ายังมีข้อกฎหมายใดที่เป็นอุปสรรคในการทำงานของ กทม. เพื่อนำข้อสังเกตเข้าสภาให้ทันก่อนสภาหมดวาระ ซึ่งหากที่ประชุมเห็นชอบก็จะผูกพันกับ ครม.และหน่วยงานอื่น เป็นการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติที่สามารถไปต่อรองกับฝ่ายบริหารได้ ซึ่งนายกชัชชาติ ก็ไม่ขัดข้อง

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตถึงการเชิญนายชัชชาติ มา เนื่องจากปกติผู้ที่คณะกรรมาธิการจะเชิญมา จะเป็นกรณีที่มีประเด็นปัญหาเกิดขึ้น แต่กรณีของนายชัชชาติ เหมือนจู่ ๆ ก็เชิญมาซักถาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายนิกร จำนง รองประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า การเชิญผู้ว่าฯชัชชาติมาครั้งนี้ไม่ได้เชิญมาเพื่อให้กรรมาธิการซัก เพื่อตรวจสอบใดๆ แต่เชิญมาให้ความเห็นเพื่อที่จะได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งตน และ นายโสภณ คุ้นเคยกับนายชัชชาติ อยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เหมือนกัน



-กรณีต่อเนื่อง หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศท่าทีในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวไปสอบถามกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งท่าน ก็พยายามเลี่ยงที่จะตอบ ระบุเพียงว่า “ไม่รู้” และยังเชื่อว่าไม่มีอะไร

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ถึงท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยระบุเพียงว่า “ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัสเอง ว่าเขาคิดอย่างไร”

ส่วนเมื่อถามย้ำว่า ร.อ.ธรรมนัส เขย่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่ช่วย พล.อ.ประวิตร นั้น ส่วนตัว ไม่ทราบ และเชื่อว่า นายกรัฐมนตรี จะไม่หวาดระแวงในเรื่องนี้

ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน 1 ในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายครั้งนี้ พูดถึงท่าทีของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ออกมา ว่า ส่วนตัวไม่ได้สนใจ และไม่ทราบคนที่พูดอยู่ฝ่ายไหน พร้อมมั่นใจว่าบารมีของ พล.อ.ประวิตร จะเอาอยู่ และทิ้งท้ายว่าใครทำการเมืองความสะใจ สุดท้ายบทลงโทษจะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป

ขณะที่เมื่อวานในระหว่างการประชุมสภา ปรากฎมีภาพของ ร.อ.ธรรมนัส นั่งล้อมวงพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเล็ก กลุ่ม 16 อาทิ คุณพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 และ คุณพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางกระแสข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล



-พูดถึงการประชุมสภาเมื่อวานนี้ ส.ส.รังสิมันต์ โรม ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี กรณีที่ยังคงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ท่านนายกฯ ไม่ได้มาตอบเอง โดยมอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ชี้แจงแทน

ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ช่วงการถามในกระทู้ถามสด คุณรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท้วงติงนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่กล้ามาเผชิญหน้ากับสภา ว่า “ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน”

จากนั้น ได้อภิปรายตั้งคำถาม กรณีที่รัฐบาลยังคงประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรคโควิด 19 แม้สถานการณ์จะคลี่คลายและเตรียมเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว โดยตั้งข้อสังเกตว่าการยื้อคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ เพื่อจำกัดสิทธิการแสดงออกผู้เห็นต่างทางการเมือง ดังนั้น หากไม่มีความคิดจะเลิกใช้ ก็ช่วยตอบ “ประชาชนจะได้ตัดสินในสิ่งที่ท่านทำ”

ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจง ย้ำว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน วัตถุประสงค์หลักคือการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ และที่คงไว้เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

ยืนยันไม่ได้มุ่งหมายควบคุมเรื่องการแสดงออกทางการเมือง ส่วนจะยกเลิกหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ ศบค.กำลังพิจารณา ไปฟังเสียงบรรยากาศบางช่วง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jaRvWd9HI0c

คุณอาจสนใจ

Related News