เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 27 มิ.ย.65 คะแนนนิยมอุ๊งอิ๊งพุ่ง-ไฟไหม้สำเพ็ง-เด็ก ป.6 ขืนใจ ป.5

-สลดกลางกรุง ไฟไหม้สำเพ็ง พนักงานร้านถุงพลาสติก ดับ 2 ศพ เจ็บ 11 ราย เผยคลิปก่อนเกิดเหตุ มีควันขึ้นมาจากหม้อแปลง ไม่ทันขาดคำ เกิดระเบิดไฟลุกท่วม เจ้าของร้านเผย หม้อแปลงระเบิดซ้ำซาก ซ่อมแล้วซ่อมอีก จ่อฟ้องการไฟฟ้า มูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

-ผู้ว่าฯชัชชาติ รุดตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้สำเพ็ง เผยสาเหตุเบื้องต้น หม้อแปลงด้านนอกระเบิด ก่อนลุกลามเข้าด้านใน รับ เป็นบทเรียนราคาแพง ต้องปรับปรุง เตรียมคุยเข้มการไฟฟ้านครหลวง ขอให้เร่งตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้า กทม.ชั้นใน 400 ลูก พร้อมสั่งทุกเขตสำรวจจุดเสี่ยง เร่งนำสายไฟลงดิน - ตัดสายสื่อสารที่ไม่ใช้งาน

ขณะที่การไฟฟ้านครหลวง ยังไม่ระบุ สาเหตุมาจากหม้อแปลงระเบิดหรือไม่ เผยหม้อแปลงในจุดเกิดเหตุ มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอัตโนมัติ และพบการแสดงผลป้องกันแล้ว แต่ขอตรวจสอบระบบทำงานสมบูรณ์หรือไม่

-สุดช็อก เด็กป.6 ขืนใจ เด็กป.5 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.เพชรบูรณ์ ผอ. สั่งห้ามเด็กบอกผู้ปกครอง หวั่นเสียชื่อ บอกไม่ท้องขณะที่ชาวบ้าน สุดทน ฮือขับไล่พ้นโรงเรียน ล่าสุดพบ เก็บของบางส่วนออกจากบ้านพักโรงเรียนแล้ว

-เย้ยนครบาล เปิดบ่อนกลางกรุง ตำรวจ 191 บุกรวบนักพนัน 52 คน พร้อมเงินสด 4.3 ล้านบาท ลักลอบเปิดชั้นใต้ดินของอาคารแห่งหนึ่ง ซอยรัชดา 18 เป็นบ่อนบาคาร่า อัจฉริยะอ้าง เป็นคนแจ้งข้อมูล 191 ให้เข้าจับกุม แฉ สน.ในพื้นที่ จ่ายเงินเคลียร์สื่อปิดข่าว

-อ่วมอีก ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) เตรียมปรับราคาขึ้นอีกกิโลกรัม ละ 1 บาท ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 ก.ก. จะปรับขึ้นอีก 15 บาท อยู่ที่ 393 บาท/ถัง 15 ก.ก. มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้

ส่วนที่ โคราช คนแห่ขอรับบริจาคโลงศพจากมูลนิธิการกุศลเพิ่มมากขึ้น หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีเงินเพียงพอซื้อโลงศพ ขณะที่เจ้าของร้านโลงศพโอดวัสดุทำโลงศพราคาพุ่ง จำต้องปรับราคาหลังขายราคาเดิมมากว่า 10 ปี .

-นพ.ประสิทธิ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช เผยผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นจริง อีก 2 สัปดาห์เห็นภาพชัด ทั้ง BA.4 และ BA.5 หลังผ่อนคลายหลายมาตรการ เตือนห้ามประมาท นายกฯ สั่ง สธ.เฝ้าระวัง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก โอมิครอนกลายพันธุ์

-โลกออนไลน์ฮือฮา กลุ่มว้าแดง กองพล 171 เมืองสาด รัฐฉาน ของเมียนมา โชว์จุดไฟเผายาเสพติดเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก เผยข้อห้ามบางกลุ่ม คนเสพต้องบำบัดรักษา เป็นทหาร 7 ปี ส่วนคนขายต้องเป็นทหารรบทัพตลอดชีวิต



เรื่องเล่าการเมือง

-ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังเดินหน้าลงพื้นที่ตามโครงการผู้ว่าสัญจรอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยไปที่เขตหนองแขม มีการติงเรื่องการใช้งบประมาณว่าต้องพิจารณาให้รอบคอบ ให้นึกถึงค่าอาหารกลางวันเด็กด้วย

โดยการสัญจรของผู้ว่าฯชัชชาติ เริ่มจากการไปร่วมวิ่งในโครงการหนองแขมเดิน - วิ่ง เพื่อสุขภาพฯ ซึ่งจัดที่สวนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่เวลา 5 นาฬิกา โดยนายชัชชาติ ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ออกนอกพื้นที่ กทม. เนื่องจากหนองแขมไม่มีพื้นที่ใหญ่ในการจัดงานวิ่ง

จากนั้น ได้มาร่วมปลูกต้นไม้ตามโครงการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น โดยคุณชัชชาติได้ปลูกต้นจำปี ต้นไม้ประจำเขตของเขตหนองแขมจำนวน 5 ต้น

ก่อนจะประชุมร่วมกับนางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม โดยมีเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนเข้าร่วม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งได้รับรายงาน 5 ปัญหา ของคนหนองแขม คือเรื่อง น้ำท่วม การจราจรติดขัด ไฟส่องสว่าง ฝุ่น PM2.5 และปัญหาโรงงานขยะขนาดใหญ่ กว่า 300 ไร่ ที่ถูกชาวบ้านร้องเรียนเป็นจำนวนมาก

จากนั้นในช่วงบ่าย นายชัชชาติ ได้เดินทางมาตรวจโรงงานขยะ และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ เพราะได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านมา ทั้งเรื่องกลิ่น และเสียงดัง ปรากฎว่าผู้ว่าฯชัชชาติ ได้ลองเปิดหน้ากาก ทดลองดมกลิ่น ซึ่งบอกว่ากลิ่นยังไม่แรงเท่าที่โรงขยะอ่อนนุช

ช่วงหนึ่งนายชัชชาติ ได้ถามหารถบีบอัดขยะ เพราะเคยเห็นที่สายไหมซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ เป็น 10 ปี แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้ชัดเจน นายชัชชาติ จึงพูดติงเรื่องการใช้งบประมาณว่าต้องให้รอบคอบ เพราะว่าทุกอย่างไม่ใช่ของฟรี เป็นเงินภาษีของประชาชน การจะอนุมัติโครงการแต่ละอย่างแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ให้นึกถึงค่าอาหารกลางวันเด็กด้วย



-นิด้าโพล เผยผลสำรวจของคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2 ของปีนี้ ปรากฏว่า อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร คะแนนพุ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง แซงและทิ้งห่างนายพิธา และ พล.อ.ประยุทธ์ และถ้าดูย้อนหลังช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา พบว่าคะแนนนิยิมของ พล.อ.ประยุทธ์ ลดลงต่อเนื่อง

โดยเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า

- อันดับ 1 ร้อยละ 25.28 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานของตระกูลชินวัตร และเป็นบุตรสาวของอดีตนายกฯทักษิณ

- อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้

- อันดับ 3 ร้อยละ 13.24 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะ ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมือง และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล

- อันดับ 4 ร้อยละ 11.68 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ

- อันดับ 5 ร้อยละ 6.80 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะ ชื่นชอบผลงานในอดีต

ขณะที่ ถ้าย้อนกลับไปดูผลสำรวจตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 คือ เดือนมีนาคมปี 2564 จะพบว่าคะแนนนิยมของพ ล.อ.ประยุทธ์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เท่ากับช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ลดลงตลอด

สำหรับนายพิธา แม้ครั้งนี้คะแนนนิยมจะลดลงเล็กน้อยจากครั้งที่แล้ว (จากร้อยละ 13.42 เป็น 13.24 ) แต่โดยรวมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่คะแนนในส่วนที่บอกว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ก็มีแนวโน้มลดลง

ส่วนคะแนนนิยมของพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ยังเป็นเพื่อไทย ได้ร้อยละ 36.36 ซึ่งเพิ่มจากการสำรวจครั้งที่แล้วที่ได้ร้อยละ 25.89

อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย ลดลงจากครั้งที่แล้วประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

อันดับ 3 คือพรรคก้าวไกล / อันดับ 4 พรรคพลังประชารัฐ /และอันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคะแนนใกล้เคียงกับการสำรวจครั้งที่แล้ว

แสดงให้เห็นแนวโน้มว่า ส่วนหนึ่งของผู้ที่เคยบอกว่ายังไม่เลือกบุคคลหรือพรรคใด น่าจะหันไปเลือก น.ส.แพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย



-มาที่เรื่องความพยายามในการผลักดันเรื่องรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เมื่อวานมีการจัดเวทีเสวนาเรื่องนี้ มีการปาฐกถาโดย อาจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร ที่บอกว่า สวัสดิการถ้วนหน้าเป็นสิทธิที่ประชาชนควรได้รับ

ศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ปาฐกถา หัวข้อ "90 ปี ประชาธิปไตย อนาคตรัฐสวัสดิการ อนาคตสังคมไทย" ในเวทีขับเคลื่อนรัฐสวัสดิการ 2565 ที่จัดโดย เครือข่าย we fair และแนวร่วมรัฐสวัสดิการ ที่หอศิลปวัฒนธรรม กทม.

อาจารย์ผาสุก ได้กล่าวสนับสนุนให้มีสวัสดิการถ้วนหน้า โดยระบุว่าเป็นสิทธิที่พึงมีพึงได้ของประชาชนในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษี

และกล่าวว่า "ระบบภาษีของไทยแย่ ไม่เป็นธรรม ล้าสมัย เกรงใจผู้มีฐานะเกินความพอดี รัฐไทยเก็บภาษีจากผู้ใช้แรงงานเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด แต่กลับเก็บภาษีจากผู้มั่งคั่งและบริษัทธุรกิจใหญ่ไม่เก่ง แถมปล่อยให้มีช่องโหว่ให้คนมีฐานะเลี่ยงภาษีได้มาก มีการลดหย่อนยกเว้นอย่างมากมาย"

อาจารย์ผาสุก กล่าวว่า ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคในการสร้างรัฐสวัสดิการที่สำคัญ คือ เรื่องการเมือง ที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่า สวัสดิการดีๆ เช่นเรื่อง ระบบประกันสังคม ระบบรักษาพยาบาลฟรี เกิดขึ้นมาในยุครัฐบาลประชาธิปไตย การมีรัฐบาลประชาธิปไตยที่แข็งแรง จึงเป็นหัวใจที่สำคัญ และระบุถึงบทบาททหารในการเมืองไทยที่ส่งผลต่อการเกิดสวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับประชาชน

นอกจากนี้ ก็มีการจัดอภิปราย "หนทางสู่รัฐสวัสดิการ ความเป็นไปได้ของสังคมไทย?" ผศ.ดร.ดวงมณี เลาวกุล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เสนอการสร้างรัฐสวัสดิการด้วยการปรับโครงสร้างภาษี ทั้งการปฏิรูปภาษีรายได้บุคคลธรรมดา (Income Tax) เน้นการลดหย่อนภาษีสำหรับกลุ่มรายได้น้อย เพิ่มภาษีกำไรจากการลงทุน และเก็บภาษีรายได้จากการซื้อขายหุ้น

เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 10% ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้รัฐถึง 700,000 ล้านบาทต่อปี และการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินและภาษีการรับมรกดก

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8iILMLxfQg0