สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 24 มิ.ย.65 สุชาติจี้นายกฯให้เกียรติสภา-อัจฉริยะปัดเปิดคลิปแตงโมถูกกรีดขา-ครูถูกแทงดับคาห้องเรียน

โดย thichaphat_d

24 มิ.ย. 2565

59 views

-อดีตสามีบุกโรงเรียน หวังง้อคืนดีกับภรรยาที่เป็นครูอัตราจ้าง แต่ไม่สำเร็จ ใช้มีดแทงกกหู เสียชีวิตคาห้องเรียน ก่อนโดดหนีจากชั้น 2 ร่วงลงมาขาหัก ถูกจับทันควัน เพื่อนเผยอดีตสามีเคยโพสต์ขู่ฆ่าเมื่อ 3 วันก่อนลงมือโหด

-ปคม. บุกรวบชายวัย 27 แชตหลอกหญิงวัย 15 ถ่ายคลิปหวิวแล้วรีดทรัพย์ จนเธอเกิดความเครียดผูกคอดับ ผู้ต้องหาอ้างแฟนเก่าแต่จำนนต่อหลักฐานถูกแจ้งข้อหาหนัก ด้านพ่อเหยื่อที่เป็นดาบตำรวจร่ำไห้ ไม่สามารถช่วยลูกสาวไว้ได้

-ตำรวจฟันธง ลูกชายมีเอี่ยวให้แม่โอนเงินให้หลายแสน จนแม่เครียดผูกคอดับ ดีอีเอส พบประวัติโอนเงิน 9 ครั้งในช่วง 1 สัปดาห์ และก่อนโอนทุกครั้งจะวิดีโอคอลคุยกับลูกชาย มีลูกสาว – ลูกเขยฟังด้วยทุกครั้ง ปมถูกอายัดบัญชีที่ไต้หวัน

-อัยการจังหวัดนนทบุรี เลื่อนสั่งคดีแตงโมเป็นวันที่ 7 กรกฎาคม เพราะพนักงานสอบสวนเพิ่งส่งผลการสอบเพิ่มมาเมื่อเช้าวานนี้ ด้านนายบุญถาวร คอนเฟิร์ม แม่ภนิดา ยื่นเรื่องถอนคำฟ้องของ “อัจฉริยะ” แน่นอน แต่ยังไม่ระบุวันที่ เพราะตอนนี้ป่วย

-อัจฉริยะปฏิเสธเปิดคลิปแตงโมถูกกรีดขา ให้ทนายตั้มดู ย้ำจะเปิดในศาลเท่านั้น แม้ทนายตั้ม จะยอมถอนคดีที่ฟ้องร้องทั้งหมด ส่วน ปอ ตนุภัทร ยอมไม่เอาผิด PDPA แต่สุดท้ายอัจฉริยะก็ไม่ยอมเปิดคลิป

-ทวี ไกรคุปต์ ปัดขับชนคู่กรณี ชี้ให้ไปดูกล้องหน้ารถดีๆ เพราะกล้องมันเลี้ยวตามรถ จนเหมือนรถตนไปชน ทั้งที่จริงๆอยู่คนละเลน ถามกลับใครกันแน่ที่ชน เพราะรถตนเสียหายกว่า ด้านเอ๋ ปารีณา เป็นท้อ ห่วงพ่ออายุ 83 หูตาไม่ดี ห้ามไม่ฟัง อยากให้ตำรวจยึดใบขับขี่แต่ ตำรวจกก็ทำให้ไม่ได้

-แห่แจ้งความ สาววัย 25 อ้างเป็นไฮโซอุบลฯ เปิดบ้านออมเงิน โชว์ปันผลร้อยละ 10 ต่อเดือน ล่อใจก่อนเชิดหนี เหยื่อหลากอาชีพ ทั้งครู หมอ ทนายความ ทะลุ 400 ราย สูญเงินรวม 600 ล้านบาท ตำรวจเร่งล่าตัว หลังมีข่าวหลบหนีออกนอกจังหวัด

-บอร์ดกองสลากฯ ไฟเขียว เพิ่มสลากดิจิทัล เป็นงวดละ 20 ล้านใบ ภายในปีนี้ โดยทยอยเพิ่มงวดละ 2 ล้านฉบับ ดีเดย์งวด 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ด้านกลุ่มสลาก 5 ภาค ค้านทันที ชี้ ผู้ค้ารายย่อยที่เดินเร่ขายขาดทุนหนัก หวยเหลือติดแผงเพียบ หวั่นอนาคตคนเดินขายหวยสูญพันธุ์


เรื่องเล่าการเมือง

-การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวาน มีความดุเดือดในช่วงการพิจารณากระทู้สด แต่ไม่ใช่การโต้ตอบกันอย่างดุเดือด แต่เป็นถ้อยคำที่รองประธานสภาฯ ฝากไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี

ในช่วงการพิจารณากระทู้สดของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่จะถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาปากท้อง วิกฤตเศรษฐกิจ ที่กระทบต่อประชาชน

นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งว่า นายกฯ ติดภารกิจสำคัญมอบหมายให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาชี้แจงแทน และนายอาคมได้มอบหมายต่อให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังมาชี้แจงแทน แต่นายสันติก็ติดภารกิจ แจ้งว่าไม่สามารถมาชี้แจงได้

นายพิธา จึงหารือว่า ตามรัฐธรรมนูญนายกฯ ต้องเข้าร่วมการประชุมสภาฯ เพื่อตอบกระทู้ด้วยตนเอง เว้นมีเหตุจำเป็น และแจ้งเหตุผลว่าเพราะอะไร และจะมาตอบได้เมื่อใด ทั้งนี้กระทู้ที่ตนตั้งถามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน

นายสุชาติ กล่าวว่า เมื่อยังไม่มีการตอบกระทู้ในสัปดาห์นี้ ถ้ายังติดใจสามารถถามในสัปดาห์หน้าได้

นอกจากนี้ นายสุชาติ ก็ได้กล่าวด้วยว่า เรื่องการมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบกระทู้แทน ก่อนหน้านี้เคยท้วงติงไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ว่า อย่าสักแต่มอบ ต้องถามผู้รับมอบด้วยว่าพร้อมหรือไม่ ไม่ใช่มอบแล้วก็แล้วไป

จึงขอฝากไปถึงนายกฯว่า ข้อบังคับสภาระบุว่านายกฯต้องมาตอบกระทู้ แม้ข้อบังคับจะบังคับไม่ได้ แต่ก็ต้องให้เกียรติสภา และ หากจะมอบหมายใครก็ขอให้มอบหมายคนที่จะสามารถมาตอบได้ อย่าสั่งเหมือนทหาร ขอให้สั่งเหมือนนักการเมือง ไม่งั้นจะถือว่าไม่รับผิดชอบต่อสภา



-อีกกระทู้สดที่ฝ่ายค้านตั้งคำถามคือ เรื่องวิกฤติราคาน้ำมัน ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาตอบกระทู้เอง ช่วงหนึ่งมีถามตอบถึงเรื่อง "เตาอั้งโล่" ที่หน่วยงานของกระทรวงพลังงานแนะนำให้ใช้ด้วย

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ถามถึงปัญหาพลังงาน ว่า วันนี้ประชาชนทุกหัวระแหงเดือดร้อนจากราคาน้ำมัน ที่จะลามไปถึงก๊าซ และไฟฟ้า การเป็นผู้นำต้องแก้ปัญหาวิกฤต และเอาวิกฤตมาเป็นโอกาส แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยเอาวิกฤตมาเป็นโอกาสสักครั้งเดียว ปล่อยการบริหารงานไปตามยถากรรม

นายครูมานิตย์ ระบุว่า นายสุพัฒนพงษ์ เคยเป็นลูกหม้อกระบวนการน้ำมัน และใกล้ชิดกับนายกฯ ต้องรู้ดี และควรหาทางแก้วิกฤตที่เกิดขึ้น จะพยุงราคน้ำมันอย่างไร ทำไมไม่ตัดส่วนที่เป็นกำไรเพื่อคืนมาลดค่าน้ำมัน ทำไมใช้วิธีทางการทูตเจรจาซื้อน้ำมันราคาถูก อย่าบอกว่าถ้าน้ำมันแพงให้ไปใช้เตาอั้งโล่

ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงว่า เรื่องวิกฤติราคาน้ำมัน ว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนั้นเกิดจากปัจจัยภายนอก ไม่ใช่ปัจจัยภายใน อีกทั้งยังเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่รัฐบาลก็พยายามประคับประคองราคาน้ำมัน โดยตรึงราคาดีเซลให้อยู่ที่ 34 บาทกว่าต่อลิตร ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านรอบไทยพุ่งไปเฉลี่ย 46 บาทต่อลิตร เนื่องจากทราบว่า น้ำมันดีเซลกระทบต่อประชาชนระดับรากหญ้า

ส่วนเรื่องเตาอั้งโล่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงว่า ยังมีชาวบ้านในจำนวนมากที่ยังใช้เตาอั้งโล่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอามาแทนการใช้ก๊าซหุงต้ม



-มีความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่โดนคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พร้อมกับคุณพ่อ คือ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อวานท่านยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ

ช่วงเช้าวันนี้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นประธานกิจกรรมแสดงผลงาน Best Practice ของโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ซึ่งเป็นการบูรณาการจัดการศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สู่วิถีใหม่ ที่หอประชุมคุรุสภา

นางกนกวรรณ มีสีหน้ายิ้มแย้มตั้งแต่ลงมาจากรถ ซึ่งมีกลุ่มนักเรียนเอกชน คุณครู รวมถึงข้าราชการมายืนต่อแถวต้อนรับและมอบดอกกุหลาบสีแดงให้ โดยข้าราชการบอกคนก็บอกว่า "เป็นกำลังใจให้" ขณะที่นางกนกวรรณก็กล่าวทักทายทุกคนอย่างอารมณ์ดี

หลังจบภารกิจ นางกนกวรรณ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยช่วงแรกได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภารกิจในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยู่ประมาณ 4-5 นาที ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ระหว่างให้สัมภาษณ์ นางกนกวรรณพยายามยกมือไหว้เพื่อจบการสัมภาษณ์ อยู่ 2 รอบ แต่ผู้สื่อข่าวก็ยังไม่เลิกถาม นางกนกวรรณ บอกว่า ขอบคุณทุกกำลังใจ จะทำหน้าที่ทุกวันให้ดีที่สุด เรื่องคดีขอปรึกษากับฝ่ายกฎหมายก่อน ตอนนี้ฝ่ายกฎหมายติดธุระที่ต่างประเทศ และย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค

ส่วนเรื่องคุณพ่อนั้น นางกนกวรรณ บอกว่า ยังไม่เจอกันเลยและคิดถึงมาก ส่วนเรื่องกระเเสสังคมที่กดดัน ขอไม่พูด ก่อนจะยกมือไหว้ผู้สื่อข่าวเป็นรอบที่ 3 แล้วเดินออกไปขึ้นรถกลับทันที



-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก ประจำปี 2565 เมื่อวานนี้ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจาก 52 ประเทศ ทั่วโลก

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยได้เดินหน้าพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ สร้างพื้นที่ให้ผู้หญิงได้แสดงศักยภาพของตนเอง เช่น การส่งเสริมบทบาทผู้หญิงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพผู้หญิง โดยได้จัดสรรงบประมาณในการส่งเสริมอาชีพ ให้ความรู้และช่องทางการตลาด ต่างๆ

นายกรัฐมนตรียังชื่นชมบทบาทสตรีทุกคน ที่มีหลายบทบาท ทั้งการเป็นภรรยา การเป็นแม่ของลูก พร้อมแนะนำว่าเวลาผู้หญิงพูดต้องเชื่อฟัง เพราะมีการกลั่นกรองมาแล้ว

นายกฯยังเตือนไปยังผู้ชายด้วยว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด วันนี้ สามารถใช้โทรศัพท์ตามตัวเจอได้หมด ดังนั้นผู้ชายอย่าไปเกเรที่ไหน ส่วนตัวเชื่อว่าวันนี้ผู้ชายคงไม่กล้าเพราะผู้หญิงเข้มแข็งขึ้น



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ECVLfKmho7Y

คุณอาจสนใจ

Related News