สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 21 มิ.ย.65 จี้สอบ ส.ว.ตั้งญาตินั่งทีมงาน-เจ้าของดารุมะโผล่สหรัฐฯ-แมวจามใส่หน้าทำติดโควิด

โดย thichaphat_d

21 มิ.ย. 2565

78 views

-สลด รองสารวัตรสืบ 8 ยิงภรรยา และ ลูกสาว เสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม ลูกชาย เล่านาทีช็อก พ่ออุ้มร่างแม่เลี้ยงเข้าบ้าน บอกให้ไปดูน้องสาว พบถูกยิงหายใจรวยริน จึงรีบไปตามคนมาช่วย ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด เพื่อนบ้านเผย พยายามช่วยปั้มหัวใจลูกสาว แต่สุดยื้อชีวิต ตำรวจคาด ปมปัญหาครอบครัว - หึงหวง

-ทีมแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ แถลงงานวิจัย โควิดจาก ‘แมวสู่คน’ คาดเคสแรกของโลก พบแมวติดเชื้อจากเจ้าของ คลุกคลีใกล้ชิด ส่วนสัตว์แพทย์ถูกแมวจามใส่ตอนตรวจ ทำติดเชื้อไปด้วย เตือนคนรักสัตว์ หากสงสัยติดโควิดให้อยู่ห่างจากสัตว์เลี้ยงจนกว่าจะปลอดภัย

-เผ่นแล้ว เจ้าของ “ดารุมะ ซูชิ” ตำรวจยันหนีออกนอกประเทศตั้งแต่ 16 มิถุนายน โผล่สหรัฐฯ พร้อมเพื่อนชายคนสนิท เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินหาผู้เกี่ยวข้อง อายัดเงินไว้ได้ไม่กี่แสนบาท ขณะที่ สคบ. ลุยตรวจร้าน สาขารามอินทรา พบเจตนาฉ้อโกง พฤติกรรมคล้ายแหลมเกตุ ผู้เสียหายแจ้งความเอาผิด พบเหยื่อถูกตุ๋น 400 ราย สูญเงิน 100 ล้าน เจ้าของแฟรนไชส์ แฉ จ่าย 2.5 ล้าน ไม่ต้องทำอะไร รอรับกำไรปันผล ร้อยละ 10 และต้องโอนเงินรายได้ให้เจ้าของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว

-แบกไม่ไหว 27 บริษัทรถโดยสารเอกชน พร้อมใจ ลดเที่ยววิ่ง 80% มีผล 1 กรกฎาคม นี้ เซ่นน้ำมันพุ่ง ขอรัฐขึ้นค่าโดยสาร 6 สตางค์ ต่อ กิโลเมตร จากเดิม 53 สตางค์ เป็น 59 สตางค์ต่อกิโลเมตร ขณะที่ บขส. ยัน เดินรถตามปกติ ไม่ลดเที่ยววิ่ง ตรึงราคาค่าโดยสาร ต่อเจรจารถร่วมหาทางออก

-แชร์ว่อนแก๊งชายหัวโลน แต่งตัวคล้ายพระสงฆ์ นั่งสูบกัญชาคาบ้อง กลางวันแสกๆ ที่แท้เป็นเณร วัย 18 ปี เพิ่งบวชได้ 3 วัน หลังถูกคุมประพฤติยาเสพติด ตามโครงการบวช 9 วัน คาดคึกคะนอง

-แม่ค้าสาวใจเด็ดไลฟ์สดวิ่งไล่จับโจร 2 ผัวเมีย หลังแอบย่องฉกของกลางดึก ในตลาดสด จนโจรกระโดดหนีลงคลอง ตำรวจตามรวบคาห้องเช่า คอตกอ้าง ไม่มีงาน ไม่มีเงิน

-ตำรวจเอาจริง โดนใบสั่ง ไม่จ่าย เจอหมายจับนครบาล แจงมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจร ทำผิดโดนใบสั่ง ไม่จ่ายค่าปรับ จะออกใบเตือน 1 ครั้ง หมายเรียก 2 ครั้ง หากเงียบ ขอศาลอนุมัติหมายจับทันที มีผลแล้ววานนี้

-อัจฉริยะ เอาผิดตำรวจ ชุดคลี่คลายคดีแตงโม หลังถูก 4 หมายเรียก 3 โรงพัก ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เจ้าตัว เชื่อถูกกลั่นแกล้ง จ่อฟ้องกลับแม่แตงโม อ้างปกป้องสิทธิ ไม่ขอไกล่เกลี่ย ขณะที่อัยการ สั่งสอบเพิ่ม ส่อเลื่อนนัดฟังคำสั่งคดี หากส่งสำนวนกลับมาไม่ทัน ภายใน 15 วัน



เรื่องเล่าการเมือง

-ความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง ในชั้นกรรมาธิการ ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นแล้วโดยเฉพาะการจำกัดจำนวนต้นในการปลูกแต่ละประเภท

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ พิจารณาร่างกฎหมาย กัญชา กัญชง แถลงถึงผลการประชุมกรรมาธิการเมื่อวานนี้ ว่าที่ประชุม มีมติ กำหนดจำนวนการปลูกพืชกัญชาให้มีความชัดเจนมากขึ้น ป้องกันปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างพืชเศรษฐของประชาชนกับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่

สำหรับเงื่อนไข แบ่งออกเป็น5 กลุ่ม ได้แก่

- กลุ่มประชาชนที่ปลูกไว้ใช้เองในครัวเรือน สามารถปลูกได้ ไม่เกิน 10ต้น

- กลุ่มใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ สามารถปลูกเพื่อผลิตเป็นยา ในสถานพยาบาลของตัวเองได้ ไม่เกิน 5ไร่ ซึ่งการปลูกของทั้ง 2 กลุ่มนี้ ทำเพียงแค่จดแจ้งเท่านั้น ไม่ต้องยื่นขออนุญาต

-ส่วนกลุ่มที่ใช่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทางกรรมาธิการได้แบ่งกลุ่มเศรษฐกิจ ออกเป็น 3 กลุ่ม ที่จะยื่นขออนุญาต ได้แก่ กลุ่มเศรษฐกิจขนาดเล็ก ปลูกได้ ไม่เกิน 5ไร่ / กลุ่มเศรษฐกิจขนาดกลาง สามารถปลูกได้ ตั้งแต่ 5ไร่ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20ไร่ /และ กลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ที่สามารถปลูกได้ตั้งแต่ 20 ไร่ ขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้จะมีเงื่อนไข ต้องมีผลตอบแทนให้กับรัฐด้วย

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็แสดงความห่วงใยหลังรับทราบว่าเริ่มมีประชาชนได้รับผลกระทบจากการใช้พืชกัญชา โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้สื่อมวลชนและฝ่ายต่างๆช่วยกัน สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับประชาชน ระมัดระวังตัว รู้ว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องสูบกัญชา ก็ขอเตือนว่า ใครไม่เคยใช้ ก็อย่าไปลองสูบ เพราะอาจจะมีผลต่อสุขภาพได้"



-ประเด็นการเมืองที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งในช่วงนี้ คือ การที่ "ไอลอว์" ออกมาเปิดข้อมูลว่า ส.ว.หลายสิบคนแต่งตั้งเครือญาติมาเป็นทีมงาน หรือไม่ก็ "ฝากเลี้ยง" ให้อยู่กับเพื่อน ส.ว. คนอื่น เมื่อวานสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย เตรียมจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภา ตรวจสอบ ว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักจริยธรรมหรือไม่

นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้อำนวยการกองการสื่อสารพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ ปปช. ได้ให้สัมภาษณ์สืบเนื่องจากกรณีที่ ไอลอว์ (โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน) ได้ออกมาเปิดข้อมูลว่ามีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)หลายสิบคน แต่งตั้งเครือญาติตนเอง เป็นผู้ช่วยส.ว. เพื่อรับเงินเดือนหลักหมื่น กินงบประมาณประเทศกว่าพันล้านว่า

จะนำเรื่องดังกล่าวยื่นร้องต่อประธานคณะกรรมาธิการ ปปช. เพื่อตรวจสอบว่า กลุ่ม ส.ว. ดังกล่าว ประพฤติผิดมิชอบ และอาจขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภา และขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามสมาชิกรัฐสภานำตำแหน่งของตน แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และหากข้าราชการสภาท่านไหนรู้เห็นไปใจก็อาจผิด ม.157 เช่นกัน

นายตรีรัตน์ ระบุว่า จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ เพราะเกี่ยวข้องกับเงินภาษีของพี่น้องประชาชนโดยตรง

ทั้งนี้ ส.ว.แต่ละคนสามารถมีทีมงาน ซึ่งประกอบด้วย

-ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว 1 ตำแหน่ง ค่าตอบแทนเดือนละ 24,000 บาท

-ผู้ชำนาญการประจำตัว 2 ตำแหน่ง ค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท

-ผู้ช่วยดำเนินงานของ ส.ว. 5 ตำแหน่ง ค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท


รวม 3 ตำแหน่ง (8 คน) ค่าตอบแทนเดือนละ 129,000 บาท

ส.ว. ทั้งหมด 250 ค่าตอบแทนทีมงาน จะตกเดือนละ 32,250,000 บาท

หากคำนวณจากวาระ ส.ว. 5 ปี ก็จะมีค่าตอบแทนทีมงานส่วนนี้ รวมทั้งหมด 1,935 ล้านบาท



-ความคืบหน้าเรื่องการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่รัฐมนตรีสุชาติ ชมกลิ่น ร้องว่าญัตติของฝ่ายค้านไม่ชอบ มีการยัดไส้ชื่อตัวเองเพิ่มเข้าไป เมื่อวานประธานชวน บอก ฝ่ายกฎหมายกำลังตรวจสอบ แต่ก็เป็นสิทธิของฝ่ายค้าน

นายชวน หลีกภัย ประธาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรียกร้องขอให้ตรวจสอบความถูกต้องของญัตติการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่อ้างมีการเพิ่มชื่อภายหลัง ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อเสนอญัตติเสร็จสิ้นว่า ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่โดยปกติเป็นสิทธิของผู้ยื่นญัตติที่จะมีการเพิ่มชื่อ หรือจะตัดชื่อผู้ใดออกจากญัตติ ก่อนที่จะมีการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

ส่วนเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายนั้น นายชวน จะเชิญวิป 3 ฝ่าย คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรี มาหารือเพื่อกำหนดวัน คาดว่า จะสามารถเปิดการอภิปรายได้ หลัง 18 กรกฎาคมเป็นต้นไป

ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐได้ตั้งทีม ส.ส.รับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ จำนวน 11 คน ชื่อว่า “ทีมปราบมาร” เพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจดำเนินการให้เป็นไปตามญัตติฯและข้อบังคับการประชุม

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย แสดงความเห็นถึงการอภิปรายยื่นญัตติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ในยุทธการ "เด็ดหัว สอยนั่งร้าน" ว่า หากฝ่ายค้านเลือกที่จะเด็ดหัวจริง ควรอภิปรายเฉพาะแกนนำรัฐบาลคือ 3ป. การอภิปรายหลายคนทำให้ไม่ได้โฟกัสแกนนำรัฐบาล ประกอบกับเวลาที่จำกัด อาจทำให้การอภิปรายครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล หากจะมีการปรับ ครม. ก็อาจมาจากเหตุผลเรื่องคดีในชั้นศาล

และเปรียบเทียบว่า "การยิงสรุตคนบาดเจ็บก็เฉลี่ยกันไป ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ถ้าหมัดเด็ดหมัดน็อตก็เอาแค่ 3 ป.ไปเลย"



-เรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ยังคงบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้อยู่ หลังจากที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิก

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งยกเลิก พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการคงไว้เพื่อต้องการดำเนินคดีกับกลุ่มชุมนุมหรือไม่

เนื่องจาก สถานการณ์โควิด ได้คลี่คลายแล้ว แต่กลับไม่มียกเลิกกฎหมายดังกล่าว

โดยนายกรัฐมนตรี อธิบายว่า การบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เนื่องจาก รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการ การทำงานกับทุกหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร

เพราะหากไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะมีเพียงกฎหมายของสาธารณสุขอย่างเดียว ซึ่งไม่พอต่อสถานการณ์ อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาแล้วจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่ายังจำเป็นต้องบังคับใช้ต่อไป อยู่หรือไม่

นายกรัฐมนตรียังย้ำด้วยว่า ขณะนี้ประเทศ อยู่ระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุม เพราะไม่ต้องการให้สถานการณ์กลับมา เป็นเหมือนเดิมอีก



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/js4qWXzAGLs

คุณอาจสนใจ

Related News