เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 20 มิ.ย.65 ชัชชาติเริ่มงานผู้ว่าฯสัญจร/เจ้าของดารุมะออกนอกประเทศ/พระบิดาลุยฟ้องผู้ว่าฯ-หมอปลา

-ลูกค้า ดารุมะ ซูชิ จ่อแจ้งจับเจ้าของ ฐานฉ้อโกงประชาชาชน เดินหน้าร้อง ปคบ. วันนี้ ด้านแม่ค้าขายคูปองโอด กดซื้อคูปองมาขายมากกว่า 2,000 ใบ สูญเงินครึ่งล้าน เปิดใจเหตุกล้าลงทุน เพราะเปิดมาหลายปี ลูกค้าเยอะ ไม่คิดว่าจะถูกเททั้งลูกค้า และแม่ค้าคูปอง แค่ชั่วข้ามคืน เผยผู้บริหารบินออกนอกประเทศแล้ว

ขณะที่ผู้จัดการร้าน เชื่อเจ้าของไม่มีเจตนาโกง แต่เจอปัญหาทางธุรกิจ เคยบอก ขายทรัพย์สินมาลงทุน วอนกลับมารับผิดชอบ ลูกน้องรออยู่

-จับเพิ่มอีก 1 คนร้ายร่วมแก๊งฆ่าสามี-ภรรยา พร้อมลูกแฝดในครรภ์ยัดท้ายรถหรูที่ไต้หวัน สารภาพร่วมกับนายสันติ และพวกอีก 1 คน ใช้ท่อนเหล็กตี 2 สามีภรรยา จนเสียชีวิตนำศพขึ้นรถไปจอดทิ้ง ก่อนบินหนีกลับไทยกบดาน ที่กาฬสินธุ์ ได้ค่าจ้างฆ่า 5 แสนบาท

-ล่า 11 ชั่วโมง รวบแล้วหนุ่มควงปืน บุกเดียวชิงทอง 1.8 ล้านบาท ย่านวังบูรพา เจ้าตัวอ้างเครียดขาดทุนบิตคอยน์ ตำรวจ เผย แกะรอยจากวงจรปิด หลังก่อเหตุ ทิ้งมอเตอร์ไซค์ ขึ้นแท็กซี่ และเรียกสามล้อกลับที่พัก เจริญนคร 34 วางแผนหลบหนีตอนเช้ามึด ตำรวจดักรวบตัวทัน พบของกลางซุกกระเป๋า ยังอยู่ครบ

-เกษตรกรชาวสวนขนุน อ.ครบุรี โคราช ระทมหนัก เจอพายุซัดกระหน่ำ ลมพัดต้นขนุนหักโค่นเสียหาย รวม 600 ไร่ ซ้ำเติมราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ กิโลกรัมละ 1-2 บาท หนึ่งในชาวสวน เผย หนักหนาสาหัส กำลังจะได้ผลผลิตในปีแรก เจอทั้งราคาตกต่ำ และพายุ จำใจตัดทิ้ง ยังหาทางออกไม่ได้

-จับตาราคาน้ำมัน ดีเซล เบนซิน หลัง กบน.เตรียมพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกดีเซลในประเทศประจำสัปดาห์ คาดพยุงดีเซลไม่เกิน ลิตรละ 35 บาท ถึงสิ้นมิถุนายนนี้ ส่วนราคาเบนซิน รอผลหารือนำกำไรส่วนเกิน 6 โรงกลั่นมาเสริมสภาพคล่องกองทุน ตรึงราคาเชื้อเพลิง ที่โคราช แม่ค้ารถพุ่มพวงเดือดร้อนหนัก พิษราคาน้ำมันแพง ขายของแทบไม่ได้กำไร วอนรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาด่วน

-พระบิดา เจ้าสำนักลัทธิประหลาด เมืองชัยภูมิ ลุยฟ้องดำเนินคดี ผู้ว่าฯ และหมอปลา ฐานหมิ่นประมาท บุกรุก ทำเกินกว่าเหตุ พร้อมเอาผิด สสจ.จังหวัด จงใจใส่ร้ายทำให้เสียหาย กล่าวหา สินค้าผสมอุจจาระ ทำสินค้าขายไม่ออก

-ชาวบ้านร้อง สุดงง นิติบุคคลเถื่อน หลอกเก็บเงินค่าส่วนกลางหมู่บ้านแฟมิลี่ ปาร์ค เมืองชลบุรี นาน 18 ปี สูญ 40 ล้าน ความแตกหลังเทศบาลเข้าตรวจสอบเรียกเก็บภาษี เผย มีตำรวจ 1 นาย อ้างตัวเป็นนิติฯเรียกเก็บเงิน



เรื่องเล่าการเมือง

-เมื่อวานเป็นวันหยุด แต่ผู้ว่าฯ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังคงทำงานทั้งวัน โดยเมื่อวานได้ประเดิมโครงการผู้ว่าฯสัญจรตามที่ประกาศไว้ ที่เขตคลองเตย

เริ่มตั้งแต่เวลา 7.40 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ได้เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและนำข้าราชการ ปลูกต้นไม้ 40 ต้น ที่สวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ตามนโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นทั่ว กทม. ซึ่งคุณชัชชาติได้ร่วมปลูกต้นพิกุล

จากนั้นไปที่สำนักงานเขตคลองเตยเพื่อประชุมรับฟังปัญหา ซึ่งนายชัชชาติบอกว่า ที่เลือกเริ่มต้นโครงการผู้ว่าสัญจรที่คลองเตยเป็นเขตแรก เพราะเป็นชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และมีปัญหามาก สามารถใช้เป็นต้นแบบการแก้ไขไปยังชุมชนอื่น

ต่อมาในเวลา 13.30 นาฬิกา นายชัชชาติ ลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย 1 / ชุมชนคลองเตย 2 / และชุมชนคลองเตย 3 เพื่อให้เห็นปัญหาและรับฟังเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน

นายชัชชาติ ให้เหตุผลที่ต้องลงพื้นที่สัญจรวันอาทิตย์ว่า เพราะจะได้เจอประชาชนเพราะหยุดงานอยู่บ้าน อีกทั้งไม่อยากเบียดบังเวลาราชการ พร้อมฝากเจ้าหน้าที่ กทม.ลงพื้นที่เยอะๆ ขอให้ดูแลประชาชน ไม่ต้องมาคอยดูแลผู้ว่าฯกทม.

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯชัชชาติ ได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาสายไฟรุงรังไม่เป็นระเบียบว่า จะเริ่มทำงานเลย โดยเริ่มจากแนวทางแรก คือ ตัดสายไฟฟ้าหรือสายทองแดงที่ไม่ได้ใช้ทิ้งก่อน ส่วนการลงดินก็เป็นอีกแนวทาง แต่ว่าอาจใช้เวลานาน โดยบอกว่าการจัดการเรื่องสายไฟจะต้องเลือกทำเฉพาะจุดสำคัญก่อน เชื่อว่าภายใน 1 เดือนจะเห็นผล

และในช่วงเย็น นายชัชชาติ ก็ไปร่วมฟังดนตรีในสวน ณ สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด ซึ่งเมื่อวานเป็นแสดงของศิลปินวง Roberto Uno และวงดุริยางค์ซิมโฟนี กรมศิลปากร จัดโดยมูลนิธิอาจารย์สุกรี เจริญสุข นอกจากนี้ยังมี นายคฑาวุธ ทองไทย หรืออาจารย์ไข่ มาลีฮวนนา ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต มาร่วมร้องเพลงด้วย



-เมื่อวานมีการนัดชุมนุมคาร์ม็อบไล่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนัดว่าจะเดินทางไปที่บ้านนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายไปไม่ถึง ตำรวจสกัดไว้ที่แยกดินแดง ก่อนมีการปาประทัด ระเบิดปิงปอง ที่สุดเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุมไปจำนวนหนึ่ง

โดยประชาชนปฏิรูปนัดจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนจากหลักกิโลเมตรที่ 0 หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จุดหมายไปที่บ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เวลา 16.00 น.

ปรากฏว่าตั้งแต่เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังเต็มพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมด้วยรถขังผู้ต้องหา 1 คัน จอดประจำการ

แต่พอถึงเวลานัดหมาย กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการประกาศภายใน ให้ย้ายไปเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด้านสกัดและวางกำลังรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

จากนั้นเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนโดยรถจักรยานยนต์ และมีบางส่วนที่เดินเท้า จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าไปบ้านนายกรัฐมนตรี แต่พอมาถึงสามเหลี่ยมดินแดง เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดการจราจรเส้นที่มุ่งหน้าไปบ้านนายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งแนวตำรวจควบคุมกลุ่มชนสกัดไว้ กลุ่มมวลชนจึงเดินข้ามมาอีกฝั่งเพื่อมาปักหลักอยู่บริเวณแยกดินแดง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนมาตั้งแนวสกัดบริเวณแยกดินแดงอีก 1 ชั้น เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมไปยังบ้านนายกรัฐมนตรี พร้อมกับปิดถนนทั้งหมดที่จะมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

และมีการอ่านข้อกฎหมายและแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่ากำลังทำการผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอให้ยุติการชุมนุม

เวลา 17.30 น. ตำรวจได้ประกาศให้มวลชนถอยขึ้นไปทำกิจกรรมบนทางเท้า จากนั้นจึงเปิดการจราจรตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงกระจายกำลังควบคุมสถานการณ์บริเวณโดยรอบและพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 5 กองร้อย

18.40 น. มวลชนเริ่มขยับเข้าประชิดเจ้าหน้าที่ และมีการปาระเบิดปิงปองลูกแรก เจ้าหน้าที่ประกาศให้ยุติการชุมนุม ให้แยกย้ายกลับบ้าน เนื่องจากมีกลุ่มคนสร้างสถานการณ์ พร้อมย้ำให้สื่อมวลชนอยู่ในจุด ที่กำหนดให้เท่านั้น

บรรยากาศที่บริเวณแยกดินแดง กลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อช่วงเวลา 19.17 น.มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งพยายามปาประทัดและระเบิดปิงปอง ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่บริเวณอาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์นับสิบลูก แต่เวลาผ่านไปกว่า 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความเคลื่อนไหว หรือออกมาจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม มีเพียงฉายเลเซอร์ใส่ฝั่งผู้ชุมนุม

กระทั่งเวลา 19.43 น. บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายกันไปหลบฝน แต่ยังไม่ยุติการชุมนุม

เวลา 20.14 น.ฝนเริ่มหยุด เจ้าหน้าที่ประกาศจะเริ่มปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ จากนั้นกำลังตำรวจได้เข้ากระชับพื้นที่ โดยชุดเคลื่อนที่เร็วขึ้นรถกระบะ มุ่งหน้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันอยู่ที่บริเวณตลาดศรีวนิช เกล้าสยามคอนโด อีกด้านหนึ่งตั้งแถวบีบกระชับเข้ามา จากบริเวณแยกดินแดง มีการจับกุมวัยรุ่นจำนวนหนึ่ง (ช่วงแรกมีรายงานว่าถูกจับไป 2 คน แต่ต่อมาทางกลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งว่าถูกจับไป 5 คน)

และไม่แน่ชัดว่าทั้งหมดถูกควบคุมตัวไปยังที่ใด และในเวลา 20.40 น.ตำรวจเริ่มถอนกำลังและเปิดการจราจรตามปกติ



-ขณะที่พรรคก้าวไกล ออกมาตั้งคำถาม ถึงนายกรัฐมนตรี ว่าจะเก็บ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้ทำไม ในเมื่อจะมีมาตรการผ่อนคลายโควิด ถอดหน้ากากได้แล้ว หรือคงไว้เพื่อปกป้องตัวเอง

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงการที่ รัฐบาล อนุมัติให้ถอดแมสก์ ได้แล้วในที่สาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป แต่สำหรับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ของรัฐบาล กลับไม่มีการยกเลิก พร้อมตั้งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า "จะเก็บ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไว้ทำไม" เพราะมองว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อควบคุมสถานการณ์ ที่โควิด-19 มีความผ่อนคลายแบบนี้ และถึงเวลาแล้วที่ต้องกลับมาใช้กฎหมายปกติ

โฆษกพรรคก้าวไกล ยังมองว่าการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป เพราะต้องการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทางการเมือง และประท้วงการแก้ปัญหาปากท้อง และเชื่อว่าอาจเป็นการใช้เพื่อปกป้องตัวเองและพวกพ้อง



-ควันหลง กิจกรรม “ครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษ ไล่หนูตีงูเห่า” ที่หลายช่วงหลายตอน มีคำพูดพาดพิงมาถึง พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวานโฆษกรัฐบาล จึงออกมาตอบโต้ดุเดือด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล ออกมาตอบโต้พรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าประชาชนทนไม่ไหวกับวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยนายธนกร บอกว่าขอให้ย้อนดูตัวเองว่า ที่ไทยต้องเจอกับสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะรัฐบาลไหนทุจริตคอรัปชั่นมโหฬาร ชนิดที่อดีตนายกฯ ต้องหนีออกนอกประเทศ อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน

และยังตั้งคำถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยพิจารณาว่าการเชิญชวนแกนนำคนเสื้อแดงกลับมาร่วมงานกับพรรค อย่างออกหน้าออกตานั้น ทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หรือกำลังทำเพื่อใคร ทั้งนี้ขอเตือนคนเสื้อแดง อย่าหลงเชื่อ เพราะทุกวันนี้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งของคนในชาติมานานแล้ว ขอว่าอย่ากลับไปอยู่จุดเดิมอีกเลย

อีกด้าน มีความเคลื่อนไหวของพรรคสร้างอนาคตไทย เมื่อวานแกนนำคนสำคัญของพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และ จังหวัดมหาสารคาม พร้อมเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรค หลังจากวันก่อนลงพื้นที่ที่จังหวัดอุดรธานี

นายอุตตม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่ามีเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพี่น้องชาวอีสานรับรู้ว่านายสมคิดเป็นมือเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังนโยบายสำคัญๆ ในรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย จึงเหมาะสมที่สุดที่จะมาแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ขณะนี้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ux6xZx9wIs0