สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 16 มิ.ย.65 สภาโหวตรับสมรสเท่าเทียม-ทีมแม่แพแตก-เจอแล้ว แร็กคูนเผือก

โดย thichaphat_d

16 มิ.ย. 2565

39 views

-แม่แตงโม ยื่นคำร้องศาลนนทบุรี ขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจอัจฉริยะ พร้อมขอให้พ้นจากทีมช่วยเหลือ ยืนยันไม่ได้โกรธ แต่ไม่อยากฟ้องเป็นการฆาตกรรม เพราะไม่อยากจองเวรใคร มองว่าไม่ใช่เจตนาฆ่า แค่ลูกถูกทำร้าย

ด้านอัจฉริยะแฉเบื้องหลัง ถูกถอนคดีแตงโม ลั่นไม่ขอร่วมงานมงคลกิตติ์อีก เพราะถูกหยามเกียรติ - หักหลัง ลั่นให้คุณเเม่เลือกว่าจะเดินทางไหน เตือนทำอะไรต้องคิดถึงลูกเป็นหลัก หากมัวแต่คิดเรื่องเงินเยียวยา ก็ยากที่ลูกจะได้รับความเป็นธรรม

-ยอมยกธง! มงคลกิตติ์ โพสต์ “ขอพูดความในใจ เหนื่อยมาก กับการคืนความยุติธรรมให้คดีแตงโม อ่อนล้ามาก อยาก Move on ปล่อยวาง ฝาก อัจฉริยะดูต่อ" หลังเกิดดรามา "แม่แตงโม" สุดอลเวง

-จบแล้ว! ปมดรามาชายวัย 51 หัวใจล้มเหลวดับ พบประวัติเสพกัญชา อนุทินเผยต่อสายเคลียร์ใจชัชชาติ กำชับโรงพยาบาลตรวจสอบข้อมูลผู้ป่วยให้ดีก่อนสรุป ชัชชาติ รับไม่ติดใจกัน ยันรายงานตามข้อมูล ไม่เจือปนการเมือง พร้อมทำงานร่วมกระทรวงสาธารณสุข

-ลงนามแล้ว ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ประกาศให้โรงเรียนในสังกัด กทม. เป็นพื้นที่ปลอดกัญชา-กัญชง ห้ามขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชาในโรงเรียน , ครู-บุคคลากรต้องเป็นแบบอย่าง พร้อมประชาสัมพันธ์ เรื่องโทษ หรือผลกระทบให้นักเรียน

-กู้ภัยหาดใหญ่ ช็อก หญิงสติไม่ดีขึ้นหน้ากระโปรงรถกู้ชีพ มองตาขวาง แสยะยิ้ม เอามือหักที่ปัดน้ำฝน พร้อมปีนขึ้นหลังคารถ แล้วไถลลงมาตรงกระจกหน้า พบชื่อ "น้องเฟิร์น" ก่อวีรกรรมเพียบ ฉีกเสื้อโชว์หน้าอกกลางร้าน ดมท่อไอเสียรถ ตำรวจเร่งล่าตัวส่งไปรักษา

-ไรเดอร์โล่งใจ! เจอแล้ว "เอ็ดเวิร์ด" แร็กคูนเผือกวัย 3 เดือน ที่หลุดหายกลางทาง พลเมืองดีพบเกาะอยู่ใต้สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร ฝากเพื่อนเลี้ยง เจ้าของมาตาม สื่อสารไม่เข้าใจ ต้องเรียกตำรวจไกล่เกลี่ย สุดท้ายจบด้วยดี มอบเงิน 1 หมื่นให้คนพบคนแรก

-โจรแสบ เจาะถังน้ำมันรถ นำแกลลอนมารองหวังขโมนน้ำมัน หลังราคาแพง แถมเอาเศษใบไม้ปิดกล้องมองหลัง หวังไม่ให้บันทึกหลักฐาน เจ้าของรถแจ้งตำรวจตรวจทันที ด้านเพจ "แจ้งข่าวศรีราชา" โพสต์เตือนให้ระวัง เพราะมีผู้เสียหาย 3 รายแล้ว

-สุดจะอั้น! กบง. มีมติปรับขึ้นราคา "ก๊าซหุงต้ม" หรือ LPG ที่อัตรา 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยทยอยขึ้นเดือนละ1 บาทต่อ ส่งผล 1 กรกฎา ก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม ขยับเป็นถังละ 378 บาท และเดือนกันยายน จะทะลุถังละ 408 บาท



เรื่องเล่าการเมือง

-เมื่อวานสภาผู้แทนฯ มีมติรับหลักการร่างกฎหมายที่อยู่ในความสนใจ คือ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หลังจาก 51 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล โหวตสวนมติวิปรัฐบาล มาสนับสนุนให้

โดยในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ฉบับของพรรคก้าวไกล เมื่อวาน ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอให้เลื่อนร่างกฎหมายที่มีลักษณะดียวกัน ของฝ่ายรัฐบาล อีก 3 ฉบับ ที่เพิ่งเสนอเข้าสู่วาระการประชุม มาพิจารณาไปพร้อมกัน

ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ และ ฉบับที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ และ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ

หลังจากใช้เวลาอภิปรายเกือบ 5 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมของ พรรคก้าวไกล มีเสียงเห็นด้วยน้อยที่สุด คือ เห็นด้วย 212 เสียง

จากการตรวจสอบพบว่า มี ส.ส.รัฐบาล 51 คน ที่โหวตสวนมติวิปรัฐบาลมาสนับสนุน ประกอบด้วย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 6 คน / พรรคภูมิใจไทย 2 คน /พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคเศรษฐกิจไทย พรรคละ 13 คน / พรรคเศรษฐกิจใหม่ 3 คน / พรรคพลังท้องถิ่นไท 4 คน / พรรครวมพลังประชาชาติไทย 2 คน / และพรรคเล็กอีกรวม 8 คน

หลังสภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.สมรสมเท่าเทียม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงขอบคุณทุกเสียงที่โหวตรับหลักการ โดยระบุว่า เป็นการส่งสัญญาณถึงสังคมโลกถึงสิ่งที่ประเทศไทยให้คุณค่าในเรื่องนี้ และไม่ใช่ชัยชนะของฝ่ายค้าน หรือสภา แต่เป็นชัยชนะของคนทั้งประเทศที่อยากเห็นความเท่าเทียม

ขณะที่ ส.ส.ธัญวัจน์ ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมาย กล่าวขอบคุณพร้อมน้ำตา

นอกจากนี้ ตัวแทน ส.ส.พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาแสดงความยินดีพร้อมถ่ายภาพ และร่วมเต้นแสดงความดีใจ กับกลุ่มเครือข่ายภาคีสีรุ้ง ที่รวมตัวอยู่หน้ารัฐสภาด้วย

ขณะที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนและ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ได้ร่วมโหวตสนับสนุน พ.ร.บ สมรสเท่าเทียมเพราะพ.ร.บนี้มีประโยชน์กับประชาชน เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรักและสร้างครอบครัวอย่างเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตาม จากเอกสารการลงมติของสภาผู้แทนฯ พบว่าในส่วนของเศรษฐกิจไทยทั้งหมด 16 คน มี 13 คน ที่ลงมติเห็นด้วย / 2 คน ไม่เห็นด้วย ส่วนร้อยเอกธรรมนัส ไม่มีข้อมูลการลงมติ ซึ่งหมายถึงไม่ได้แสดงตนอยู่ในห้องประชุมด้วย เพราะหากแสดงตนอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่ลงมติ ข้อมูลจะขึ้นว่าไม่ลงคะแนน และหากลงมติก็จะขึ้นว่าลงมติอย่างไร



-ย้อนกลับไปที่การอภิปรายเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และร่างกฎหมายของฝ่ายรัฐบาลอีก 3 ฉบับ ก่อนที่จะมีการลงมติ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง

ส.ส.ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ จากพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ยอมรับว่าการเสนอกฎหมายสมรสเท่าเทียมกระทบต่อกฎหมายอื่น แต่เป็นการกระทบต่อกฎหมายอื่นเพื่อให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับ สิทธิ สวัสดิการ เช่นเดียวกับชาย-หญิง ทั่วไป

และย้ำถึงความแตกต่างของกฎหมายสมรสเท่าเทียม กับ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการของราชการ หากจดทะเบียนคู่ชีวิต ของฉบับคณะรัฐมนตรี คู่ชีวิตจะไม่ได้สวัสดิการราชการร่วมกัน ไม่มีสิทธิลดหย่อนภาษีให้กัน และระบุว่า พ.ร.บ.คู่ชีวิต คือความพ่ายแพ้ของกลุ่ม LGBT

ขณะที่ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ฉบับพรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกเรื่องความกังวลทางศาสนามาเป็นประเด็นโต้แย้งร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยระบุว่า ผู้นำศาสนาคริสต์และอิสลามมีความกังวลใจ

นอกจากนี้ ก็ยังมี นายจิรัฎร์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล อีกคนที่อภิปรายตั้งคำถามกับผู้ที่คัดค้านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างดุเดือด

สำหรับร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม จะเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลเพศเดียวกัน สามารถสมรสกันได้ตามกฎหมาย เพื่อสามารถรับสิทธิในการเป็นคู่สมรสได้เช่นเดียวกับการสมรสระหว่างหญิงชาย ต่างกับพ.ร.บ.คู่ชีวิต ที่คู่ชีวิตจะไม่ได้รับสิทธิบางประการ เช่น สิทธิการรับสวัสดิการ ถ้าอีกฝ่ายเป็นข้าราชการ / สิทธิลดหย่อนภาษีให้กัน และ สิทธิในการใช้นามสกุลร่วมกัน



-นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร นอกจากอารมณ์ดี หยอดคำหวานมีความสุข 2 เท่าที่ได้เจอประชาชน ช่วงหนึ่งก็ย้ำถึงการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแล เพราะทุกพื้นที่คือครอบครัวประเทศไทย

บรรยากาศการลงพื้นที่จังหวัดสกลนครของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ จุดแรกไปที่โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ก็มีชาวบ้าน เข้ามาผูกผ้าย้อมครามให้ท่านนายกฯ พร้อมตะโกนให้กำลังใจ "นายกฯสู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ทำสัญลักษณ์มือ "ไอเลิฟยู" ซึ่งช่วงหนึ่งมีกลุ่มสตรี ชม ท่านนายกฯ ว่าหล่อกว่าในทีวี ขณะที่ ท่านนายกฯ ได้หยอกกลับว่า “ก็อย่าไปดูซิ” อย่างอารมณ์ดี

แน่นอนที่หลายคนจับจ้อง ทะเบียนรถที่ใช้ในการลงพื้นที่สกลนคร เป็นรถตู้อัลพาร์ทสีขาว ทะเบียน 1 ขส. 2605

ภารกิจแรกนายกรัฐมนตรี มาติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยใช้ระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) และความก้าวหน้าการเป็นศูนย์กลางสมุนไพร

โดยกล่าวกับชาวบ้าน ย้ำว่ารัฐบาล พยายามทำอย่างเต็มที่ในการในการแก้ปัญหาต่างๆทั้งความยากจน การลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งที่ผ่านมา “พยายามทำทุกอย่าง แต่ปัญหาเยอะจึงทำให้บางอย่างช้า ซึ่งหากไม่ทำปัญหาก็จะหมักหมม

ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี หยอดคำหวานกับชาวสกลนคร ว่าเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ มีรอยยิ้ม โดยยืนยันรัฐบาลพร้อมจัดสรรงบประมาณดูแลทุกจังหวัด เพราะเราคือครอบครัวประเทศไทย ขอให้ทุกคนอย่าขัดแย้งและให้ความร่วมมือกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทักทายและร่วมถ่ายรูปกับประชาชน พร้อมร่วมฟ้อนรำกับผู้สูงอายุที่รำภูไทด้วย ไปดูบรรยากาศช่วงนี้กัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ไปตรวจเยี่ยมโครงการพระราชดำริภูพาน จุดนี้ มาดูการพัฒนาด้านปศุสัตว์ จะเป็นสัตว์ดำ 4 ชนิด เช่น การเลี้ยงแพะดำ หมูดำ กระต่ายดำและไก่ดำ เป็นที่รู้จักกันว่า 4 ดํา มหัศจรรย์แห่งศูนย์ฯ ภูพาน เป็นสัตว์เศรษฐกิจของจังหวัดสกลนครและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่

ช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้หยอกล้อกับหมูดำ โดยทักทายว่า “ว่าอย่างไรลูก กินเยอะๆนะ” รวมทั้งทักทายกระต่ายดำ และไก่ดำ ด้วยว่า ทำตัวดีๆนะไปดูบรรยากาศช่วงนี้กัน

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับเกษตรกรที่มารอต้อนรับ ขอให้อดทน สู้กับวิกฤต “อาจจะลำบาก อาจจะเหนื่อย ตนก็เหนื่อย เหนื่อยใจ แต่นายกฯ ห่วงประชาชนทุกคน เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน นายกฯมีครอบครัว 70 ล้านคน

ก่อนจะเดินทางไป ตรวจเยี่ยมการส่งเสริมปศุสัตว์เกษตรมูลค่าสูง การพัฒนาโคเนื้อจังหวัดสกลนคร ที่บ้านท่าเยี่ยม อ.เมืองสกลนคร ซึ่งช่วงหนึ่งระหว่างพบปะกับกลุ่มเกษตรกร นายกรัฐมนตรี ยังได้ใบ้หวย 192 ซึ่งเป็นเลขที่เกษตรกร ปลูกมะพร้าวน้ำหอม แล้วรอดจนได้ผลผลิตและนำมาให้นายกรัฐมนตรีได้ดื่ม ไปฟังบรรยากาศช่วงนี้กัน

ขณะที่ก่อนกลับกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรี ได้สักการะพระธาตุเชิงชุม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดสกลนคร โดยมีประชาชนมารอต้อนรับอย่างหนาแน่น

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าว พูดถึงการลงพื้นที่สกลนครครั้งนี้ ว่า “เมื่อประชาชนมีความสุข ตนก็มีความสุขเป็น 2 เท่า พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง



-ฝ่ายค้าน ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและ 10 รัฐมนตรี กล่าวหานายกฯป็นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ ล้มเหลวทุกด้านทำประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัส

พรรคฝ่ายค้าน นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพร้อมหัวหน้าพรรคและแกนนำร่วมฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร

โดยรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมีทั้งหมด 11 คนประกอบด้วย

1. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

2. นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

3. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

4. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

5. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

6. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

7. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

8. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

9. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

10. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

11. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

โดยมีการเขียนเนื้อหาในญัตติด้วยถ้อยคำที่ดุเดือด โดยเฉพาะในส่วนของนายกรัฐมนตรี ช่วงหนึ่งระบุว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ขาดภาวะความเป็นผู้นำที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ ไม่เคารพหลักนิติรัฐนิติธรรมไร้คุณธรรมจริยธรรม ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน

ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ แทบทุกคนจะโดนกล่าวหาว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ยกเว้น นายชัยวุฒิ รัฐมนตรีดีอีเอส และ นายนิพนธ์ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ถูกระบุว่า ขาดความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน

ทั้งนี้ นายชวน กล่าวว่า จะนำญัตติไปตรวจสอบความถูกต้องภายใน 7 วัน จากนั้นจะส่งญัตติไปยังรัฐบาลและกำหนดวันอภิปรายต่อไป



-พรรคเพื่อไทย มีความเคลื่อนไหวสำคัญ กับการกลับมาของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ โดยย้ำเป้าหมายเดินหน้าแลนด์สไลด์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

การเปิดตัวเมื่อวานนี้ ใช้ชื่อว่า “ครอบครัวเพื่อไทย ต้อนรับ ‘เขา’ กลับบ้าน” นำโดย อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค รวมถึง แกนนำคนเสื้อแดง อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ / นายแพทย์เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่มาให้กำลังใจนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ซึ่งจะนั่งเป็นผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร บอกว่าการกลับมาของนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ จะเป็นกำลังสำคัญ ทำให้ประชาชนกลับมาอยู่ในบ้านครอบครัวเพื่อไทยเพื่อสร้างความเข้มแข็งมากขึ้น และเดินหน้าเป้าหมายแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้านนายณัฐวุฒิ ย้ำว่า พร้อมทุ่มเททุกความคิดทุกกำลังความสามารถที่มี เพื่อครอบครัวเพื่อไทยจนกว่าชัยชนะเป็นของประชาชน ส่วนคนที่อยากจะกลับมาเคียงข้างกับพรรคเพื่อไทยก็พร้อมเปิดรับประชาชนอยู่ตลอด

สำหรับภารกิจแรกของนายณัฐวุฒิ จะลงพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษในช่วงสุดสัปดาห์นี้ร่วมกับ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร กับภารกิจครอบครัวเพื่อไทย ไล่หนู ตีงูเห่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AeoM3wuFoH0

คุณอาจสนใจ

Related News