สรุปข่าว
เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 10 มิ.ย.65 พ่อครูโอ๊ะรุกป่าเขาใหญ่-ปล่อยนักโทษคดีกัญชา-ออกหมายจับบังแจ็ค
โดย thichaphat_d
10 มิ.ย. 2565
44 views
-ครอบครัวแห่รับผู้ต้องขังคดีพืชกัญชา ที่ได้รับอิสรภาพ หลังถูกปลดล็อกจากยาเสพติดวานนี้ ทั่วประเทศกว่า 3 พันราย อดีตนักโทษโผเข้ากอดญาติที่มารอต้อนรับ บางคนหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ ลั่นเหมือน “ตายแล้วเกิดใหม่”
-ลูกค้าชาวไทย – ต่างชาติ ต่อแถวรอซื้อ “ดอกกัญชา” ร้านดังย่านลาดพร้าวคึกคัก เจ้าของร้านยิ้มรับ ไม่คิดกระแสดี ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่บ่าย ย้ำมีนโยบายชัดไม่ขายให้เด็ก – สตรีมีครรภ์ ด้านลูกค้า ครึกครื้นตั้งใจมาซื้อด้วยเฉพาะ ดีใจปลดล็อกสมกับเป็น “สยามเมืองยิ้ม”
-แห่จดแจ้งปลูกกัญชา จนแอปฯ และเว็บล่มทั้งวัน เลขา อย.เผยมีผู้เข้าใช้งานเกือบ 10 ล้านครั้ง รับจดแจ้งทะลุ 1 แสน 2 หมื่นใบ อนุทินย้ำ กัญชาเสรีจุดประสงค์หลักเพื่อการแพทย์และสุขภาพ ติงอย่าหาทำโชว์เสพอวดลงโซเชียล ทำสังคมเคลือบแคลง จนนโยบายที่ดีมีปัญหา
-ศาลออกหมายจับบังแจ็ค 2 ข้อหา หมิ่นประมาท และนำข้อความอันเป็นเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ปมโพสต์ภาพ กระติกในเฟซบุ๊กแตงโม ด้านคุณแม่ภนิดา เข้ารับเงินเยียวยาจาก กระทรวงยุติธรรม 1 แสน 1 หมื่นบาท ส.ส.เต้ เผยเหลือแค่มือถือจากบังแจ็คก็พร้อมลุยฟ้องแล้ว
-พ่อพยาบาลสาวเหยื่อ อดีตสามีจ่าทหารโหดบุกยิงกลางโรงพยาบาล หลังตามง้อไม่สำเร็จ ก่อนยิงตัวดับ เปิดใจ ลูกเขยมีประวัติฉาว ทั้งนอกใจ – ยิงปืนขู่ จนต้องแจ้งตำรวจให้ดูแลความปลอดภัย ช่วงเกิดเหตุหลานไลน์มาเล่าแม่ถูกพ่อยิง รีบไปช่วยแต่ก็ไม่ทัน เผยหลานทั้ง 2 ยังไม่รู้แม่จากไปแล้ว
-เคนลี ลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดินแดง เอาผิดสาวพลเมืองดีที่ทำร้ายร่างกายตน ระหว่างเข้ามาห้ามช่วงมีปากเสียงกับแฟนสาว ด้าน 2 สาวพลเมืองดี เผยตัดสินใจช่วย ไม่สนว่าเป็นเรื่องผัวเมีย เพราะถ้ารักกันจริงต้องไม่ทำร้ายกัน ไม่รู้สึกว่าจะทำให้เป็นหมา เพราะหอนรอตั้งแต่คืนเกิดเรื่องแล้ว
-บิ๊กตู่ ถอดหน้ากากแถลงข่าวครั้งแรก ระบุมีแผ่นกระจกใสกั้น จะได้เห็นหน้าเห็นตากันว่านายกฯ ไม่ได้หงุดหงิดใคร สื่อจับสัญญาณผ่อนคลายมาตรการ กรมควบคุมโรค เปิดโพลสถานการณ์โควิดดีขึ้น คนไทยอยากให้ เลิกตรวจ ATK ตามมาด้วย ยกเลิกตรวจวัดอุณหภูมิ
-ชัชชาติ ลางาน 4 วันไปงานรับปริญญาลูกชาย ที่สหรัฐฯ เผยครั้งเดียวในชีวิตที่ฝ่าฟันมา สั่งงานไว้หมดแล้ว ก่อนโชว์สกิลไลฟ์เฟซบุ๊กด้วยตัวเองครั้งแรก ช่วงรอต่อเครื่องที่สนามบินที่ญี่ปุ่น
เรื่องเล่าการเมือง
-เรื่องใหญ่เมื่อวาน คือ คดีบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ ป.ป.ช.แถลง ว่ามีการชี้มูลความผิด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมพ่อและคนอื่นๆอีก รวม 10 คน และ ต่อมา มีการออกหมายจับผู้ที่ยังไม่มารายงานตัวรวม 4 คน
สำหรับรัฐมนตรีที่โดนชี้มูลความผิด คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคภูมิใจไทย / นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี พ่อนางกนกวรรณ / เอกชนและข้าราชการกรมที่ดินและกรมป่าไม้ รวมทั้งหมด 10 คน
โดยทั้งหมดโดนชี้มูลในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ยกเว้นนางกนกวรรณ ที่โดนชี้มูลความผิดข้อหา ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่กรมที่ดินและกรมป่าไม้ทั้งหมด 5 คน โดนข้อหาผิดวินัยร้ายแรงด้วย
ในส่วนคดีอาญานั้น ป.ป.ช.ได้ส่งให้อัยการสูงสุดไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา และอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ฟ้องดำเนินคดี และให้ผู้ต้องหาทั้งหมดมารายงานตัวภายในเมื่อวาน
แต่ปรากฏว่ามีผู้มารายงานตัวเพียง 4 คน อีก 6 คน รวมทั้ง นางกนกวรรณ และนายสุนทร ยังไม่ได้มารายงานตัว ต่อมา ป.ป.ช.ได้ขออนุมัติหมายจับทั้ง 6 คนต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
และสุดท้าย ศาลอนุมัติหมายจับ 4 คน รวมนายสุนทร พ่อของรัฐมนตรีกนกวรรณด้วย ส่วนรัฐมนตรีกนกวรรณ เป็นหนึ่งใน 2 คนที่ศาลไม่อนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากเชื่อว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายเมื่อวาน นางกนกวรรณ ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ ที่รัฐสภา ตามปกติ โดยนางกนกวรรณ เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ และปกติจะมีการประชุมทุกบ่ายวันพฤหัส ซึ่งส่วนใหญ่นางกนกวรรณ ก็จะเข้าร่วมประชุมด้วย
จากการสอบถามกรรมาธิการที่ร่วมประชุมด้วย บอกว่า ถึงแม้ช่วงที่มีการประชุมจะทราบข่าวเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ เรื่องคดีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่ได้การพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนางกนกวรรณ ยังคงทำหน้าที่ไปตามปกติ ด้วยท่าที ยิ้มแย้ม แจ่มใส ไม่มีอาการเครียดใด ๆ จนกระทั่งเวลา 16.30 น. ก็ปิดการประชุม และนัดประชุมอีกในสัปดาห์หน้า
-รายละเอียดคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลนี้ ระบุว่า มีการออกโฉนดที่ดิน 3 แปลง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีการมองว่าชะตากรรมของรัฐมนตรีกนกวรรณที่ถูกชี้มูล จะซ้ำรอย น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ หรือไม่
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ แถลงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2545 โดย นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย / นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี / และเอกชนอีกราย คือ นางสาวน้อย ตุ้มพันธ์
ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ออกเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวรทั้งแปลง
พฤติการณ์ตามที่ ป.ป.ช.กล่าวหา คือ
เมื่อปี 2545 นางกนกวรรณ นายสุนทร และ นางสาวน้อย ได้เป็นผู้เดินสำรวจพื้นที่และขอให้มีการออกโฉนดที่ดิน โดย อ้างว่าซื้อจากผู้ทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน แต่จากการไต่สวน พบว่าแจ้งข้อมูลเป็นเท็จ และพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพป่ามาโดยตลอด
นอกจากคดีอาญาที่อัยการสั่งฟ้องคดี และมีการออกหมายจับผู้ที่ไม่มารายงานตัวเมื่อวาน 4 คน แล้ว / อีกข้อกล่าวหาที่สำคัญ คือ การชี้มูล นางกนกวรรณ ว่ากระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ซึ่ง เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า จะส่งไปยังศาลฎีกา เพื่อถอดออกจากตำแหน่ง
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่ในฐานะคนรู้จักและลูกพรรคก็ได้ให้กำลังใจ
-ความคืบหน้าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ในที่สุดได้ข้อสรุป ฝ่ายค้านจะอภิปรายรัฐมนตรี 10คน ใน6 ข้อกล่าวหา
เมื่อวานนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงถึงความชัดเจนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
โดยเปิดเผยฝ่ายค้านจะยื่นญัตติในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ซึ่งการอภิปราย จะเกิดขึ้นภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัวสอยนั่งร้าน” ใน 6 ข้อกล่าวหา คือ
1.ความผิดพลาด บกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมาตรฐานจริยธรรม
3.ทุจริตหรือส่อทุจริต เป็นการเอื้อประโยชน์
4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือสิ่งที่เคยอภิปรายทักท้วงไว้
5.ละเมิดสิทธิมนุษยชน
และ 6.ทำลายประชาธิปไตย และระบอบรัฐสภา
ซึ่งทั้ง6 ข้อกล่าวหานี้ นายแพทย์ชลน่าน มั่นใจว่าจะสามารถล้มรัฐบาลได้ และการอภิปรายของฝ่ายค้านจะเป็นใบเสร็จชี้ชัดถึงพฤติการณ์ของรัฐมนตรีแต่ละคน
ส่วนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย ฝ่ายค้านยังอุบชื่อเอาไว้ก่อน โดยนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ จะมีครบทั้ง 3ป. ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลอีก 3 พรรค ทั้งพรรคภูมิใจไทย / พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งหมด 10 คน
ขณะที่ประธานวิปรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา มั่นใจว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะสามารถคุมเสียงเพื่อรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีได้ เพราะดูได้จากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 วาระแรกที่ผ่านมา ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคงแข็งแรงจับมือกันอย่างเหนียวแน่น จึงไม่มีอะไรน่ากังวล และบอกด้วยว่าอาจจะเซอร์ไพร์สมากกว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ด้วย
-เรื่องของการอภิปรายรัฐบาล ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ฝ่ายค้านอย่างเดียวที่ประกาศจองกฐิน เป็นที่ฮือเมื่อ ประธานวุฒิสภา บอกว่าเดี๋ยว ส.ว.จะขอ เปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลเหมือนกัน
หลังจากมีประธานวุฒิสภา ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ก็ทำให้เป็นที่วิจารณ์กันว่าการขออภิปรายของ ส.ว. จะเป็นการอวดผลงานรัฐบาลหรือไม่
เมื่อวานนี้ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการออกมาเปิดเผยของประธานวุฒิสภา ว่า อภิปรายทั่วไปรัฐบาลดังกล่าว เป็นการกลั่นกรองตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐตามกลไกของรัฐธรรมนูญ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลประสบปัญหาการแก้ไขโควิด-19 /ปัญหาเศรษฐกิจ
เป็นการทำให้ ส.ว.ได้แสดงความเห็น และรัฐบาลจะได้ตอบชี้แจง รวมถึงนำความเห็นของ ส.ว. ไปดำเนินการแก้ไข ยืนยันในอดีต ส.ว. ก็ทำกันแบบนี้
ส่วนการเปิดอภิปรายจะเป็นช่วงเดียวกับ การเปิดอภิปรายของฝ่ายค้าน หรือจะมีการยื่นตัดหน้าหรือไม่นั้น ส.ว.วันชัยยืนยันว่า ไม่ใช่ระยะเวลา 1-2 เดือนนี้อย่างแน่นอน แต่จะไม่เกินสิ้นปีนี้
ขณะที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน มองว่าการจะเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ของ ส.ว.นั้น เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล
แต่จะเป็นการเปิดเวทีให้รัฐบาลได้ประชาสัมพันธ์ผลงานหรือไม่นั้น ยอมรับว่า เป็นเส้นบางๆ แต่ต้องดูที่พฤติกรรมที่จะเป็นตัวบ่งชี้ ว่า ครม.มาตอบประเด็นของส.ว.ในลักษณะอย่างไร
ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ส.ว.คงไม่คิดเปิดอภิปรายเพื่อให้รัฐบาลได้โชว์ผลงาน เพราะไม่ใช่หน้าที่ ของ ส.ว. แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงถือเป็นการทำผิดหน้าที่ และส่อเจตนาขัดรัฐธรรมนูญ
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/0nlEX4xpXXU
แท็กที่เกี่ยวข้อง เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง ,เรื่องเล่าการเมือง ,ข่าวการเมือง ,สรุปข่าว