สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 2 มิ.ย.65 ชัชชาติเข้ารับตำแหน่ง-บังแจ็คโทรหาแซน-เปิดแล้ว ผับ บาร์ อาบอบนวด

โดย thichaphat_d

2 มิ.ย. 2565

61 views

-กระติก ยอมรับเสื้อมีคราบเลือดของแตงโมจริง เป็นรอยเท่าเข็มหมุด ตรวจพบ DNA 2 คน แจงตนและแตงโมแลกชุดกันใส่เป็นปกติ และชุดที่ใส่วันลงเรือก็เป็นของแตงโม ที่อาจเปื้อนคราบเลือดของแตงโมมาก่อน ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในสำนวนตำรวจแล้ว

-ทนายความของแซน เปิดคลิปเสียงชายอ้างเป็นบังแจ็ค โทรมาจากสหรัฐฯ อ้างมีหลักฐานว่าอัจฉริยะ มีแผนเจรจาเรื่องเงินกับแซน แลกจบคดี แต่ตนปฏิเสธไป อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย

-แซนท้าอัจฉริยะ หากมีหลักฐาน รีบเอาออกมา คนบนเรือพร้อมติดคุกหากผิดจริง เผยตอนนี้ค่อนข้างรำคาญ พาคนไทยออกทะเลแล้วทิ้งไว้กลางทาง ยอมรับว่าเหนื่อยมาก ไม่ชอบถูกเรียกว่า “ผู้ต้องหา”

-ทนายษิทรา พร้อมทีม บุกรัฐสภายื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานคลิปเสียงมงคลกิตติ์ ข่มขู่ ทนายเดชา ให้ที่ปรึกษา คุณชวน หลีกภัย ขอให้ตรวจสอบหรือตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรม และดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้าน ส.ส.เต้ ลั่นพร้อมให้สอบ ไม่เคยหนี ชี้แจงได้ ขอไม่ให้ราคาทนายตั้ม

-รวบลูกชายตบหน้าแม่ หลังโต้เถียงอย่างรุนแรง พบยาบ้า 35 เม็ด แม่เปิดใจทั้งน้ำตาลูกเป็นทาสยาบ้า เคยถูกจับแล้วนำไปบำบัดหลายครั้งแต่ก็กลับมาเสพอีก ตนถูกทำร้ายมาแล้ว 4 ครั้ง หวังตำรวจนำตัวไปรักษาให้หายขาด

-สุดโหด ลูกจ้างรับเหมาการไฟฟ้าภูมิภาค ถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดเท้าด้วยเถาวัลย์ ทุบหัวฆ่าฝังดินกลางป่ากระท้อนในอำเภอหาดใหญ่ ตำรวจตั้งชนวนเหตุสังหาร ผู้ตายบังเอิญเจอขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวเลยถูกฆ่าปิดปาก

-เปิดแล้ว อาบอบนวด – ผับ – บาร์ – คาราโอเกะ นำร่อง 31 จังหวัด พื้นที่สีฟ้าและสีเขียว แต่ไม่เกินเที่ยงคืน ผู้ประกอบการ เช็ดอ่าง ทำความสะอาดสถานที่พร้อมให้บริการเต็มที่ / ผับดังโคราช เข้มตรวจ ATK พนักงานทุกคน พร้อมรับนักเที่ยว

-แม่ค้าเขียงหมูมหาสารคาม เฮลั่นคตลาด ถูกรางวัลที่ 1 รวย 12 ล้านบาท เผย ซื้อเลขตามป้ายทะเบียนรถมาตั้งแต่ปีใหม่ จนสุดท้ายมาถูกรางวัลใหญ่ เชื่อทำบุญโลงเย็นตอนเช้า ส่งผลบุญรวยช่วงบ่าย



เรื่องเล่าการเมือง

-นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถือว่าเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อย่างสมบูรณ์ตามขั้นตอน หลังจากได้ไปรับมอบ ใบรับรองผลการเลือกตั้งจากกต.

ทั้งนี้นายชัชชาติ บอกกับผู้สื่อข่าว "วันนี้ไม่ได้ถือฤกษ์ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร ออกจากบ้านตามปกติ โดยช่วงเช้าตั้งแต่ตี 4 คุณแม่ได้โทรศัพท์มาอวยพรให้ตั้งใจทำงานให้ดี เพื่อประชาชนและคนกรุงเทพฯ ทุกคน

ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าว ได้แซวว่าจะเรียกอาจารย์ชัชชาติไม่ได้แล้ว ซึ่งนายชัชชาติ ตอบว่า "ให้เรียกอาจารย์เหมือนเดิม ไม่ต้องมีท่านหรอก"

ในการมอบใบรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ มีนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.เป็นคนมอบให้กับนายชัชชาติ รวมถึง ส.ก. ที่ได้รับการรับรองด้วย ซึ่งก็เป็นไปอย่างคึกคัก ได้เห็นภาพของ ผู้ว่าฯกทม.จับมือแสดงความยินดีกับ ส.ก.แต่ละเขต เพื่อเริ่มต้นเดินหน้าทำงาน

ขณะที่ เลขาธิการกกต. เมื่อวานนี้ ก็ออกมาชี้แจง กระแสวิจารณ์ในโลกออนไลน์ กรณีการรับรองผลเลือกตั้งของนายชัชชาติ นอกจากประเด็นคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ระบุว่า ได้ถูกตีตกไปแล้ว เพราะดูที่เจตนา และ ยืนยันไม่จำเป็นต้องระบุลงในข้อระเบียบหรือกฎหมายเลือกตั้ง เพราะกฎหมายเพียงพอต่อการใช้แล้ว

ก็ย้ำเรื่องการทำงาน ที่ยึดตามหลักกฎหมาย ไม่ใช่ความรู้สึก หรือแรงกดดัน ซึ่งกกต.ได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเร็วที่สุดแล้ว



-หลังรับหนังสือรับรองเป็นผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร คนที่ 17 จาก กกต.แล้ว นายชัชชาติ ได้เดินทางเข้าไปที่ศาลาว่าการกทม.1 เสาชิงช้าทันที พร้อมเปิดตัวทีมงาน

นายชัชชาติ ไปถึงศาลาว่าการกทม. เวลา 12.43 น.มีนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกทม.ต้อนรับและนำไปห้องประชุมอมรพิมาน ระหว่างรอฤกษ์เวลาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเวลา 13.19 น. ระหว่างนั้นได้พูดคุยถึงการเร่งเปิดประชุมสภา กทม. และพูดคุยเรื่องงบประมาณของกทม.

จากนั้นเวลา 13.19 น.นายชัชชาติ พร้อมทีมผู้บริหาร กทม.ชุดใหม่ ได้สักการะพระพุทธนวราชบพิตร พระพุทธรูปประจำศาลาว่าการกทม. และสักการะสิ่งศักสิทธิ์ในจุดต่างๆ

ระหว่างนั้น มีข้าราชการโบกไม้โบกมือ ส่งเสียงต้อนรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายชัชชาติก็ได้ยกมือไหว้ และโบกมือตอบรับ

จากนั้นนายชัชชาติได้ขึ้นไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ห้องทำงานชั้น 5 ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ด้วย

จากนั้น นายชัชชาติ ได้ร่วมพิธีส่งมอบงานหน้าที่ ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จากนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร และกล่าวกับข้าราชการ กทม.หลังรับมอบหน้าที่ว่า ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกคน อยากให้ข้าราชการเรียกตนว่า อาจารย์ ไม่ต้องเรียกว่านาย เพราะตนเองไม่ใช่เจ้านายแต่มาเป็นเพื่อนร่วมงาน

ส่วนการทำงานอยากให้ทุกคนตั้งใจทำงาน รู้หน้าที่และงานของตัวเอง มีอะไรสามารถพูดคุยกันได้ อันดับแรก ต้องทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ทุจริต ตอนนี้เริ่มมีคนนำชื่อตนไปแอบอ้าง ยืนยันว่าไม่มี ใครจะเอาไปแอบอ้างไม่ได้ทั้งนั้น หากมีขอให้รีบแจ้งเข้ามา

ส่วนเรื่องการทำงาน ตนเองเป็นคนตื่นเช้า มาทำงาน 6 โมง แต่ทุกคนไม่ต้องมาเช้าตามตนเอง ขอให้มาทำงานปกติ เพราะทุกคนมีลูกหลาน มีภาระส่วนตัว

จากนั้น นายชัชชาติได้เปิดตัวทีมบริหารกรุงเทพมหานคร ที่จะเข้ามาร่วมขับเคลื่อนการทำงานของ กทม. ซึ่งก็เป็นไปตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 4 คน ได้แก่

1. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม

2. รองศาสตราจารย์ ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล

3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทวิดา กมลเวช

4. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ

เลขานุการและ ผู้ช่วยเลขานุการ นายภิมุข สิมะโรจน์ และ นายเอกวรัญญู อัมระปาล

และคณะที่ปรึกษาผู้ว่า 9 ท่าน

1. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษา

2. ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์

3. พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก

4. ดร.วิลาวัลย์ ธรรมชาติ

5. พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์

6. นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี

7. นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์

8. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี

9. นายภาณุมาศ สุขอัมพร

ทั้งนี้นายชัชชาติ ระบุว่าจะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนานะที่กำกับดูแล กทม.ก่อนเข้าพบนายกฯ และ ย้ำว่า จะไม่มีรอยต่อในการทำงานร่วมกับทุกคน

จากนั้นเวลา 14.45 น. นายชัชชาติ พร้อมด้วยทีมรองผู้ว่าฯ และทีมที่ปรึกษา เดินทางไปสักการะศาลพระภูมิประจำศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) ซึ่งก็มีข้าราชการ และประชาชนมารอต้อนรับกันอย่างหนาแน่น



-หลังจากเปิดตัวทีมงาน นายชัชชาติ ก็เดินหน้าทำงานแรกทันที โดยคิกออฟปลูกต้นไม้ 100 ต้น ที่สวนเบญจกิติ ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น ซึ่งเป็น 1 ใน 214 เรื่องที่ประกาศไว้ขณะหาเสียง

โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้นำร่อง ร่วมกับภาคเอกชน ปลูกต้นโพธิ์ ที่สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ตามนโยบาย ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่นทั่วเมือง

พร้อมเสนอแนวคิด จะติด GPS ในการติดตามการเติบโตของต้นไม้ผ่านแอปพลิเคชั่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ

ขณะเดียวกัน เตรียมขยายแนวคิดนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวไปตามพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ

ระหว่างการลงพื้นที่สวนเบญกิติเมื่อวานนี้ คุณชัชชาติ บอกว่า การทำงานในวันแรก เบื้องต้น มีผู้ที่ร้องเรียนผ่าน แอพพลิเคชั่น มามากกว่า 20,000 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องทางเท้า ไฟส่องสว่าง ซึ่งมี 6 เขตรับเรื่องไปทำแล้ว

จากนั้นช่วงค่ำ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังไปร่วมงาน Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่ห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ ก็มีประชาชน โบกมือให้กำลังใจตลอดทาง

นายชัชชาติ มาด้วยเสื้อสีขาว พร้อมสะพานกระเป๋าสีรุ้ง ก็ย้ำว่าความหลากหลายทางเพศ เป็น 1 ในนโยบาย ที่ต้องการผลักดันเพื่อความเท่าเทียม พร้อมระบุว่ากทม. เตรียมศึกษากฎระเบียบอนุญาตให้ข้าราชการและผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ สามารถแต่งกายตามเพศวิถีของตนเอง



-การประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เมื่อวาน ซึ่งเป็นวันที่สอง บรรยากาศดุเดือดในช่วงที่นายกฯลุกขึ้นชี้แจงโต้ตอบฝ่ายค้าน

นายกฯ เริ่มด้วยการบอกว่า ไม่แน่ใจว่าการประชุมนี้เป็นเวทีพิจารณางบประมาณ ปี 2566 หรือ เวทีนำเสนองบประมาณของพรรคการเมืองใหม่ที่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล และบอกว่าอย่าใช้เวทีนี้ในการหาเสียง

จากนั้น ท่านนายกฯก็ไล่เรียงชี้แจงทีละประเด็นตามที่ฝ่ายค้านอภิปรายไว้ เช่น ที่ถูกโจมตีว่าเป็นร่างงบประมาณที่ขูดรีดประชาชน / การเพิ่มงบกลางไว้ให้นายกฯใช้จ่าย / การเพิ่มสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศ / เรื่องการนำระบบดิจิตัลมาส่งเสริมการพัฒนาประเทศ

ซึ่งตลอดการชี้แจงของนายกฯประมาณครึ่งชั่วโมง มีหลายช่วงที่ท่านมีน้ำเสียงและท่าทางที่มีอารมณ์

ทันทีที่นายกฯอภิปรายจบและเดินออกจากห้องประชุม แกนนำฝ่ายค้านก็ลุกขึ้นมาโต้กลับทันที

เริ่มจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกนายกฯพาดพิงเรื่องใช้เวทีสภาหาเสียง

ตามมาด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน ที่ระบุว่า การชี้แจงของนายกฯเป็นการโยนความผิดให้ฝ่ายนิติบัญญัติ ถือว่าไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังติงเรื่องการใช้อารมณ์ของนายกฯ ด้วย



-มีประเด็นต่อเนื่องจากเวทีพิจารณางบประมาณในสภาฯ เมื่อวาน อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พูดพิงถึงเรื่องหนี้โครงการรับจำนำข้าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าเป็นการกล่าวหาเช่นเดียวกับที่เคยพูดมาหลายครั้ง ซึ่งตนเคยชี้แจงไปแล้ว พร้อมแนบลิงค์ที่เคยชี้แจงเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วมาด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า แม้รัฐบาลของตนถูกโจมตีอย่างหนักว่าสร้างหนี้ แต่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่เพียง 45.91% แต่หลังรัฐประหารผ่านไป 8 ปี หนี้ได้พุ่งขึ้นไปที่ 60.58% หนี้สาธารณะที่เพิ่มในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา สูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท

หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท ขณะที่รัฐบาลยังมีแผนการก่อหนี้ไปเรื่อยๆ อย่างไร้ยุทธศาสตร์ของการเพิ่มรายได้ และเมื่อประชาชนไม่มีรายได้เพิ่ม หนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้เพียงพอ ทำให้ ไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณลง

และตั้งคำถามว่า การที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เป็นเพราะโครงการรับจำนำข้าวหรือเป็นเพราะบริหารงานไม่เป็น


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wTEJqIJQzTs

คุณอาจสนใจ

Related News