สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 18 พ.ค.65 ชัชชาติหาเสียงเจออัศวิน-จ่อเอาผิดหมอปลา-ปล้นชัยปันจักสีลัตไทย

โดย thichaphat_d

18 พ.ค. 2565

47 views

-นาที น้ำป่าซัดบ้านถล่มทั้งหลัง ต่อหน้าต่อตา เจ้าของบ้านใจสลาย “ไม่มีแล้วบ้านกู” ขณะที่ อีกหลายครัวเรือนในพื้นที่ อำเภองาว จังหวัดลำปาง เดือดร้อนหนัก เผชิญอุทกภัยน้ำป่าไหลแรงและเร็ว ทำบ้านจมบาดาล 300 หลัง ส่วนชาวกรุงเจอฝนถล่มต้อนรับเปิดเทอมวันแรก เจอทั้งน้ำรอระบาย จราจรติดหนึบ

-นิติกรสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ่อดำเนินคดีหมอปลา บุกตรวจสอบวัด 8 แห่งตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน พบเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อหา ด้านกองทัพธรรม สมาคมไวยาวัจกรฯ แจ้งความหมอปลา พาพวกบุกรุกกุฎิพระในจังหวัดนครปฐม ใส่ความเท็จและเข้าข่ายซ่องโจร

-ครม.มีมติลดภาษีสรรพสามิต น้ำมันดีเซล เพิ่มเป็นลิตรละ 5 บาท ต่อเนื่อง 2 เดือน เริ่ม 21 พฤษภาคม -31 กรกฎาคม  ภายใต้เงื่อนไขวงเงินสูญเสียรายได้ 2 หมื่นล้าน แต่ยังไม่มีนโยบายลดภาษี น้ำมันเบนซิน

-นักกีฬา ปันจักสีลัตไทย ชวดเหรียญทอง โดนปล้นชัยชนะ เตะคู่แข่งแทบตาย แต่แต้มไม่ขึ้น พอไปประท้วงโดนกรรมการตัดแต้มจนคะแนนติดลบ ตัดสินใจวอล์กเอาท์ พ่ายไป 13 ต่อ -6 คะแนน นายกสมาคมฯ คาใจการตัดสินไม่เป็นธรรม  เพราะคู่แข่ง เป็นลูกชายประธานผู้ตัดสินซีเกมส์  

-สสจ.กาญจนบุรี นำหญิง อายุ 35 ปี เกิดมีแผลพุพองขึ้นทั่วตัว หลังฉีดวัคซีน โครงการทดลองไปรักษาตัว เลขาธิการอย.เผยมหาวิทยาลัยมหิดล เจ้าของโครงการทดลอง สามารถวิจัยวัคซีนโควิดจอห์นสัน แอน จอห์นสันได้ หลัง อย.อนุญาตขึ้นทะเบียนแล้วเมื่อปีที่แล้ว

-อดีตพระกาโตะ เข้ารับทราบข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์ สารภาพเบิกเงินวัดจริง 2 ครั้ง ครั้งเเรก 5 เเสนบาท ครั้งที่สอง 1 เเสนบาท โดยมีเจ้าหน้าที่วัดอีก 1 คน ที่เซ็นร่วม เป็นการยืมเงินวัด เพื่อนำไปเเก้ปัญหาส่วนตัว ไม่มีเจตนายักยอก

-หนิง ปณิตา และจิน สามี แจ้งความเอาผิดกับแซน วิศาพัช ข้อหาหมิ่นประมาท เหตุให้สัมภาษณ์สื่อทำให้ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง เผยไม่ได้ทำอะไรด้วยความสะใจ ค่าเสียหายไม่สำคัญ เอาตามความเหมาะสม ด้านจิน ลั่น จะไม่ขอโทษ

-เจ้าของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ พลัดหลง มารับหมากลับคืนแล้ว เล่านาทีช่วงหมาหาย ขณะไปเดินเล่นสวนลุมพินี พอฝนตกนำหมาใส่กระเป๋าวางไว้กับพื้น แล้วไปซื้อร่ม พอกลับมาหมาหาย เห็นคนแชร์ภาพจึงมารับคืน พร้อมตั้งชื่อว่า "นาตาชา โรมานอฟ"



เรื่องเล่าการเมือง

-การจัดกิจกรรม "รำลึก 30 ปี พฤษภาประชาธรรม" เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและสูญหาย ในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2535 โดยผู้ชุมนุมต้องการขับไล่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และคณะกรรมการญาติวีรชน มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานในพิธี โดยมีกลุ่มการเมืองทั้งรัฐบาลเเละฝ่ายค้าน ผู้แทนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ / ผู้แทนกทม. / ทหาร / ตำรวจ / ร่วมพิธีวางมาลา

นายชวน กล่าวว่า ความสูญเสียของวีรชนในวันนั้นไม่ได้สูญเปล่า เพราะผลพวงที่ตามมาคือ ความเป็นประชาธิปไตยก็ได้เกิดขึ้น รัฐธรรมนูญก็ถูกแก้ไข ความมั่นคงเริ่มก่อตัวมากขึ้นเป็นลำดับ

นายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวว่า ท่ามกลางเหตุความรุนแรงเเละความขัดแย้งทางการเมือง ผู้เสียหายรู้สึกว่ายังไม่ได้รับการเยียวยาทางจิตใจ พิธีในวันนี้ จึงขอให้เป็นสัญลักษณ์ของการคืนดี การขออภัยและให้อโหสิกรรมต่อกัน

ขณะที่ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นผู้แทนรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมแห่งความรัก ความสามัคคี-ปรองดอง-สมานฉันท์ และเคารพความเห็นต่าง 17 พฤษภาคม 2535 แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชน ที่ต้องการประชาธิปไตย รัฐบาลไม่อยากให้มีการสูญเสียเกิดขึ้น จึงสนับสนุนให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน ตามหลักประชาธิปไตยโดยสันติวิธี



-ยิ่งใกล้ถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. บรรยากาศการแข่งขันยิ่งดุเดือด ประเด็นหนึ่งที่ผุดขึ้นมาช่วงใกล้วันเลือกตั้ง คือ เรื่องรัฐประหาร หลังมีการตั้งคำถามเรื่องนี้ในเวทีดีเบต เมื่อวานผู้สื่อข่าวไปถามเรื่องนี้กับท่านนายกฯ

นายกฯพยายามบอกว่าท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเลือกผู้ว่าฯ กทม. ท่านมีสิทธิแค่ 1 เสียง ส่วนเรื่องการรัฐประหาร ท่านนายกฯถามว่าใครจะทำ แต่ก็บอกให้ย้อนกลับไปดูสาเหตุที่ทำให้มีการรัฐประหาร และถามว่าบ้านเมืองสงบได้แบบนี้เพราะอะไร

และเมื่อวาน ผู้สื่อข่าวก็ไปถามเรื่องรัฐประหารกับอดีตนายกฯอานันท์ ปันยารชุนด้วย เป็นการไปสัมภาษณ์ระหว่างที่อดีตนายกฯอานันท์ มาร่วมงานรำลึกเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ครบรอบ 30 ปี

โดยคุณอานันท์ ย้อนถามว่า "ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร ประเทศไทยดีขึ้นหรือเปล่า มีการแก้ไขปัญหาต้นตอที่ทำให้เกิดรัฐประหารหรือเปล่า"



-บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวาน ปรากฏว่า พล.ต.อ.อัศวิน กับนายชัชชาติ ไปจ๊ะเอ๋กันโดยบังเอิญที่ศาลาว่าการ กทม.เก่า ที่เสาชิงช้า และมีการตะโกนทักทาย ให้กำลังใจกันข้ามตึก

นี่เป็นบรรยากาศขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 6 ตะโกนทักทายนายชัชชาติ สัทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ขณะที่ทั้งคู่มาหาเสียงที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้า และบังเอิญเจอกัน

โดย พล.ต.อ.อัศวิน ตะโกนมาว่า ขอให้โชคดี ขอให้ทำเพื่อสังคม ทำเพื่อประชาชน แพ้ชนะไม่สำคัญ ขณะนายชัชชาติได้ตะโกนกลับว่า เช่นกันครับ ขอบคุณครับ

พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวถึงการเดินมาหาเสียงที่ศาลาว่าการ กทม.วันนี้ว่า ไม่ได้กดดันให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กทม. ให้เลือกตนกลับมาเป็นผู้ว่าฯอีกครั้ง แต่มาเพื่อขอคะแนนเสียง และให้ความมั่นใจกับทุกคน หากได้กลับมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะดูแลทุกชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง ทั้งค่าจ้างและสวัสดิการคุณภาพชีวิต แต่หากได้กลับมาในครั้งนี้ จะทำให้ดีทำให้ดีที่สุด ให้สุดความสามารถ

นายชัชชาติ กล่าวว่า มาหาเสียงวันนี้ได้กำหนดไม่ได้อยู่ในกำหนดการ แต่ทีมงานแจ้งภารกิจด่วน จึงไม่ทราบว่าจะมาหาเสียงชนกับพลตำรวจเอกอัศวิน

และนอกจากที่ศาลว่าการ กทม.ที่เสาชิงช้า นายชัชชาติได้ไปหาเสียงที่ กทม.2 ด้วย โดยได้พูดคุยและรับฟังปัญหาจากข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงาน กทม. และเสนอแนวคิด "โปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น" และเน้นย้ำให้ข้าราชการ "หันหลังให้ผู้ว่าฯ หันหน้าให้ประชาชน" มุ่งเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักในการพัฒนากรุงเทพฯ

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังเสนอนโยบายเปลี่ยนศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมือง และเปลี่ยนลานคนเมืองที่ปัจจุบันมักถูกล้อมรั้ว ไม่สามารถใช้งานได้ ให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชน

อีกด้าน ที่บริเวณลานคนเมือง เขตพระนคร เมื่อวานนี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดเวทีเปิดปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย นำโดย นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ส.ก.และ ผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักมีทีมกองเชียร์จากทุกเขตมาสนับสนุน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคพลังประชารัฐประมาณครึ่งหนึ่ง เตรียมแถลงเปิดตัวในวันนี้ ว่าสนับสนุนนายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งสัญญาณให้ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค สนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง



-ความเคลื่อนไหวของพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ย้ำว่าการเทียบเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์นั้น มองว่า เป็นแค่สีสันทางการเมือง

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อกำหนดแนวนโยบายของพรรค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้จัดคาราวานเพื่อพบประชาชนแต่ละภาค และจากนี้จะทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อย่างต่อเนื่อง

ช่วงหนึ่ง นายอุตตม พูดถึงการเทียบเชิญ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า จะเลือกเวลาที่สอดคล้องเหมาะสมกับแผนงานของพรรคและนายสมคิด

ส่วนกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาไล่ให้คุณสมคิดกลับไปเลี้ยงหลานนั้น นายอุตตม มองว่า เป็นเรื่องปกติ แค่สีสันทางการเมือง

ด้านนายสมคิด หลังก่อนหน้านี้ ไปปาฐกถาพิเศษปิดหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (LFC) รุ่นที่ 12 ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี หลังจากพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี

ล่าสุด มีการเคลื่อนไหวผ่าน แฟนเพจเฟซบุ๊ก ที่เปิดไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 โดยโพสต์ภาพ พร้อมข้อความ Behind the Scene of the Future ซึ่งแปลว่า เบื้องหลังอนาคต และข้อความบนภาพว่า “เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกสร้างอนาคตไทยได้” ต่อมา คุณสมคิด ยังได้โพสต์ข้อความ พร้อมแคปชั่น “ไทยแลนด์4.0 อาจสายไป” ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อความที่โพสต์ ได้ติดแฮชแท็กด้วยว่า #สมคิดสร้างอนาคตไทย



-ภารกิจรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเยือนซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดทั้งสองประเทศเห็นชอบในหลักการเตรียมยกเว้นวีซ่า การเดินทางไปมาระหว่างกัน

ที่กระทรวงการต่างประเทศ ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวานนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าเฝ้า เจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซาอุดิอาระเบีย เพื่อหารือ ถึงแผนการขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีไทย-ซาอุฯ และการจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี-ไทย

โดยทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องในหลักการที่จะให้ยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่า ทางการทูตและราชการระหว่างกัน ส่วนการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต นั้นทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน

การหารือครั้งนี้ เจ้าชายฟัยศ็อลฯ ได้ มีรับสั่งว่าจะเสด็จฯเยือนไทยในช่วงเดือนมิถุนายนด้วย เพื่อเตรียมการสำหรับการเสด็จพระราชดำเนิน เยือนประเทศไทยของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร

การเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล ณ ห้าง Lulu Hypermarket โดยมีผู้แทนภาครัฐและเอกชนไทย เข้าร่วม

ซึ่งในงานมีสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลของไทยนับพันรายการมาจัดจำหน่าย อาทิข้าวหอมมะลิ /ปลากระป๋อง/ อาหารสำเร็จรูป และผลไม้ไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ยัง มีการจัดบูธสินค้าที่สะท้อนเอกลักษณ์ของประเทศไทย โดยได้รับความสนใจจากชาวซาอุฯมาเลือกซื้อสินค้าจำนวนมาก



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/diQYdCloBno

คุณอาจสนใจ

Related News