เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 16 พ.ค.65 ชวลิตอายุครบ90ปี-หลวงปู่แสงไม่เอาผิดหมอปลา-โอนเงินผิดแต่ไม่ยอมคืน

-เผยคลิปหลวงปู่แสง เมตตา ไม่เอาผิดหมอปลา และคณะ ทนายอนันต์ชัยพร้อมศิษยานุศิษย์ ตั้งโต๊ะแถลง ย้ำหลวงปู่ให้อภัยทุกคน ไม่ดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น รวมถึงนักข่าวสาวช่องเวิร์คพอยท์ ฝากถึงผู้บริหารต้นสังกัด ไม่อยากให้ไล่ออก เพราะท่านให้อภัยแล้ว อีกทั้งมองว่า ยังเด็กประสบการณ์ทำงานน้อย พร้อมตั้งกฎเหล็ก สตรีห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด ให้อยู่ห่าง 5เมตร ส่วนเงินหลวงปู่ยังอยู่ครบทุกบาท และมีเพียงหลวงปู่เพียงผู้เดียวที่จะถอนเงินได้

-2 พระอุปัฏฐาก หลวงปู่แสง ลาออก เปิดใจทั้งน้ำตา รับไม่มีความสามารถดูแลหลวงปู่ ปัดนำหลวงปู่มาหาผลประโยชน์ แจงหลวงปู่ไม่เคยสอนให้อวดอ้างอุตริ ส่วนพระที่ดื่มปัสสาวะโชว์ เป็นความเชื่อของพระสงฆ์รูปนั้น

-แม่ค้าสมุทรสาคร สุดช้ำโอนเงินผิดบัญชีเกือบ 3 แสน ธนาคารดังโยนไปมา ระหว่างคอลเซ็นเตอร์กับสาขา เจ้าของเงินตามสืบเอง จนเจอตัวโผล่บุรีรัมย์ เผยหญิงใช้เงินโอนผิดบัญชี จงใจไม่คืน นำไปซื้อทอง มอเตอร์ไซค์ และโยกย้ายเงิน ตามคืนได้เพียง 160,000 อ้างใช้เงินหมดแล้ว ยอมติดคุก ก่อนหายตัวลึกลับ สามีเผย ภรรยาบอกเป็นเงินที่พ่อแม่ขายที่ได้ ก่อนความแตก ล่าสุดตำรวจเตรียมออกหมายเรียกแล้ว

-อุกอาจกลางเมืองตาก คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง ห้างดัง กวาดทอง 193 บาท พร้อมเงินสด 1 แสนบาท วงจรปิดจับภาพชัด เดินถือปืนพร้อมถุงดำ เดินปรี่เข้าร้านทอง ลงมือก่อเหตุเพียง 2 นาที ตำรวจเร่งแกะรอยไล่ล่า

-อัยการจังหวัดนนทบุรี โร่แจ้งความมือดีส่งเอกสารปลอมถึงบ้านพัก สำนวนคำฟ้อง ชี้นำคดีแตงโม ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัว วอนตำรวจเร่งจับ ลั่นไม่มีผลต่อรูปคดี เผย คนส่งเขียนเอกสารเล่าเป็นฉากเหมือนอยู่ในเหตุการณ์

ด้าน อัจฉริยะเตรียมนำเก็บตัวอย่างทรายจุดตกเรือ พร้อมเปิดหลักฐานบาดแผลขาขวาไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ ก่อนยื่นบัญชีพยานชี้ แตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือ

-หึงโหด อดีตตำรวจ สภ.แม่ระมาด จังหวัดตาก ทะเลาะเมียใช้กุญแจมือล็อกข้อเท้า แม่ยายเข้าห้ามถูกยิงเสียชีวิต ก่อนยิงเมียเจ็บสาหัส สุดท้ายใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตาย หนีความผิด พ่อตาเผย ลูกเขยมีอารมณ์แปรปรวน หึงหวงภรรยาเพราะเป็นคนหน้าตาดี และมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

-น้ำมันขึ้น มีผลแล้วเช้านี้ พีทีที สเตชั่นและบางจาก ปรับขึ้นราคาน้ำมัน กลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด ปรับขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร ดีเซลพรีเมี่ยม B7 และ E85 ขึ้น 1 บาทต่อลิตร



เรื่องเล่าการเมือง

-นายกฯเดินทางกลับถึงไทยแล้ว หลังเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ที่อเมริกา ท่านนายกฯ ย้ำ ขอความร่วมมือทุกฝ่ายทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะตอนนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาจะสูญเปล่า

ท่านนายกฯเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เวลา 06.30 น. ท่านบอก ยังงงอยู่เลย เพราะเวลาเปลี่ยน แต่ไม่เป็นไรทำงานต่อได้

ซึ่งท่านก็ได้แถลงถึงความสำเร็จจากการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ โดยระบุว่า สหรัฐฯ ได้ประกาศจะนำนักธุรกิจคณะใหญ่ที่สุดที่เรียกว่า "เทรดวินด์" (Trade Winds) มาเยือนประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 2566 โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐาน ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะผลักดันความร่วมมือให้เป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ

นายกฯ บอกว่า ได้หารือกับ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และผู้นำของสหรัฐในทุกๆด้าน และยังได้พบคนไทยในสหรัฐด้วย ซึ่งทุกคนก็ดูมีความสุข และตนก็เล่าให้ฟังว่าประเทศไทยมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วบ้าง มีทั้งรูปและภาพให้เขาดูด้วย เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีการพัฒนาหลายอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

-มีความเคลื่อนไหวอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เมื่อวานท่านให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง ในโอกาสที่ท่านมีอายุครบ 90 ปี

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 90 ปี เปิดโอกาสให้บุคคลคุ้นเคยเข้ามาคารวะขอพร ซึ่งก็มีทั้งภาคเอกชน และนักการเมือง

ส่วนยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ได้สนับสนุนใคร หรือรังเกียจใคร แต่ให้ความสำคัญกับความคิดของแต่ละคน และย้ำว่านักการเมืองต้องคิดถึงแต่ประชาชน

ส่วนที่มีการพูดถึงนายกฯสำรองนั้น พล.อ.ชวลิต ย้ำว่า ถ้าไม่นึกถึงประชาชน สำรองอย่างไรก็ไม่รอด

ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ต้องเจอปัญหาภาวะเศรษฐกิจ โดยบอกว่าประเทศไทยเวลานี้ย่ำแย่เต็มทีแล้ว หนี้สินก็เยอะ ประชาชนก็ยากจน ไม่มีอะไรจะกิน หนี้สินรัฐบาลก็เป็นล้านล้าน



-หลังลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2 ปีก่อน วันนี้เป็นวันแรกที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาพูดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง

โดยนายสมคิด ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ปิดหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง จัดโดยมูลนิธิสัมมาชีพ โดยระบุว่า เป็นการบรรยายครั้งแรกในรอบ 2 ปีเต็มนับตั้งแต่พ้นตำแหน่ง เพราะไม่อยากพูดอะไรที่กระทบกระทั่งกับคนที่ทำงานอยู่โดยที่ไม่ตั้งใจ

จากนั้นนายสมคิดได้กล่าวถึงข้อห่วงใย ต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญความเสี่ยงอยู่ทั้งจากภาวะโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ไม่น่าจะจบลงง่ายๆ คนที่ถูกกระทบมากที่สุดคือคนยากจน และอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเมืองตามมา เพื่อความไม่ประมาททุกคนจึงต้องเตรียมตัว โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่ดูแลบ้านเมืองจะต้องคิดล่วงหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

ทั้งนี้เมื่อวานผู้สื่อข่าวพยายามจะขอสัมภาษณ์นายสมคิด ถึงกรณีที่พรรคสร้างอนาคตไทยประกาศจะเสนอชื่อนายสมคิด เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่นายสมคิด ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่า "วันนี้ไม่พูดการเมือง"



-เหลืออีกสัปดาห์เดียวจะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตอนนี้ผู้สมัครแต่ละคน ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อเรียกคะแนนเสียง

สำหรับพรรคไทยสร้างไทย ที่ส่งนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ลงสมัคร เมื่อวานได้จัดคาราวาน ไปยังทุกเขต เพื่อเชิญชวนชาว กทม.ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค / แกนนำพรรค /ผู้สมัคร ส.ก. / และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากต่างจังหวัดมาร่วมคาราวานหาเสียงขอคะแนนคน กทม.

น.ต.ศิธา กล่าวว่ามีความภาคภูมิใจในความเป็นพรรคไทยสร้างไทย เพราะเป็นพรรคใหม่ ที่กล้าแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการส่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และส.ก.ครบทุกเขต และในอนาคตจะทำแบบเดียวกันกับการเลือกตั้งในระดับชาติ คือจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบ 400เขต ทั่วประเทศ

ส่วนผลแพ้ชนะไม่ใช่คำตอบบรรทัดสุดท้ายของความสำเร็จในการลงเลือกตั้ง เพราะตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมาประชาชนได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และนโยบายของพรรคมากขึ้น

ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ช่วงเช้าเมื่อวานได้ลงพื้นที่หาเสียงตลาดเช้า ณ ตลาดศรีดินแดง และตลาดกลางดินแดง เขตดินแดง เพื่อขอคะแนนเสียงจาก

และในช่วงเย็นจะไปเปิดเวทีปราศรัยย่อย ย่านรามอินทรา เขตบางเขน ซึ่งกลยุทธ์ของ พล.ต.อ.อัศวิน ในช่วงโค้งสุดท้าย คือ เช้าจะไปเดินตลาด และเย็นจะไปขึ้นเวทีปราศรัย

ส่วนการไม่ไปร่วมเวทีดีเบตในช่วงนี้ พล.ต.อ. อัศวิน บอกว่า ไม่คิดว่าเป็นการเสียเปรียบ เพราะเป็นคนทำงานที่พูดไม่เก่ง

ส่วน ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมผู้สมัคร ส.ก. เขตยานนาวา ของพรรคได้ไปหาเสียงที่ตลาดรุ่งเจริญ โดยวันนี้นางสวิตา สุวรรณสวัสดิ์ ภรรยาของ ดร.เอ้ ได้ลงช่วยหาเสียงด้วย

ดร.เอ้ ได้ปราศรัยย่อยกลางตลาด ย้ำนโยบายเปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นเมืองสวัสดิการ ที่ทันสมัย ต้นแบบอาเซียน



– ความคืบหน้าความร่วมมือ ระหว่าง ราชอาณาจักรไทย กับ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย หลังมีการกลับสานความสัมพันธ์ อย่างเป็นทางการระหว่างกันเมื่อเดือนมีนาคม ล่าสุด รองนายกรัฐมนตรี ได้นำนักธุรกิจชาวไทยเยือนซาอุดีอาระเบีย ส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน

เมื่อวานนี้ ที่กรุงริยาด ราชอาณาจักร ซาอุดีอาระเบีย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15 ถึง 19 พ.ค. โดยมี นายคาหลิด อับดุลอะซีซ อัลฟาลิฮ์ (Mr. Khalid Abdulaziz Al-Falih) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียให้การต้อนรับ

การเดินทางเยือนครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างภาคเอกชนของไทย กับส่วนราชการของซาอุดีอาระเบีย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงต่างๆ และ รัฐวิสาหกิจ ประมาณ 28 หน่วยงาน และมีผู้แทนภาคเอกชนของไทย อีกกว่า 60 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทย ทั้งนักธุรกิจภาคอุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยว การโรงแรม การรักษาพยาบาล และการขนส่งโลจิสติก ซึ่งนำโดย ประธานสภาหอการค้าไทย

เพื่อให้ทั้งสองฝ่าย มีการประสานงานกันได้อย่างรวดเร็วสร้างความคุ้นเคยระหว่างกัน โดยเฉพาะ ระหว่างภาคเอกชนไทย และ ภาคเอกชน ซาอุฯ ในการแสวงหาพันธมิตรทางการค้าการลงทุน

โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจและประชากร มากที่สุดในกลุ่ม อ่าวอาหรับ สามารถเชื่อมต่อการค้าการลงทุนของไทย ไปยังทวีปยุโรป และ แอฟริกาได้ ขณะที่ฝ่าย ซาอุดีอาระเบีย มองว่าไทย สามารถเป็นประตูสำคัญในการเข้าถึงภูมิภาคอาเซียน และ เอเชีย ด้วย

การเยือนซาอุดิอาระเบีย ครั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย จะได้พบหารือ ทวิภาคีกับ เจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด (His Highness Prince Faisal bin Farhan Al Saud) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และ เจ้าชายอับดุลลาซิส บิน ซัลมาน อัล ซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดีอาระเบีย

จากนั้นจะมีการ เปิดงาน Thai Halal Food Festival 2022 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลของไทย ในซาอุดีอาระเบีย ด้วย