เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 2 พ.ค.65 นิด้าโพล ชัชชาตินำโด่ง-แซนฟ้องสามีหนิง-ลุยสอบพี่หลวงกาโตะหลังสึก

-แซนฟ้องจิน สามี หนิง ปณิตา หลังคอมเมนต์แรง ลั่นไม่ยอมความ จะสู้ถึงที่สุด เรียกค่าเสียหาย 7 หรือ 8 หลัก ค่าตัวไม่ได้ถูก ไม่เน้นตัวเงิน แต่เป็นเรื่องความสะใจ ถามกลับ ด่าเรื่องอะไร ผิดตรงไหนที่ให้กำลังใจเพื่อน ด้านจิน เผยผ่านไอจี แต่งตั้งทนายษิทรา ต่อสู้คดีแล้ว

-ลุยสอบพี่หลวงกาโตะ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ชี้แม้จะสึกแล้ว แต่คณะสงฆ์ยังเดินหน้าสอบสวน เพราะกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง หากพบเสพเมถุนจริง จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้อีกตลอดชีวิต

-ขุน ชานนท์ ย่องเงียบ พบตำรวจรับทราบ 5 ข้อหา คดีขับรถประมาททำผู้อื่นบาดเจ็บ ปรับ 2,000 บาท ตำรวจนัดส่งฟ้องศาลฐาน ขับรถชนไม่แจ้ง อังคารนี้ นครบาลแจงเหตุ ไม่แจ้งข้อหา เมาแล้วขับ เนื่องจากวันเกิดเหตุ ไม่มีการแจ้งความทันที เวลาล่วงเลยเกิน 6 ชั่วโมง ทำให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายไม่ได้

-รวบแล้ว ชายวัย 40 ปี ชักปืนจี้สาว นั่งรอป้ายรถเมล์ ย่านลำลูกกา คลอง 6 บังคับขึ้นรถ อ้างแค่ขอเงิน ตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด เผยประวัติ เคยติดคุกคดียาเสพติด

-ผู้ใช้น้ำมันบ่นอุบ ดีเซลขึ้น 2 บาทวันแรก เติมน้ำมันทีแทบร้อง รายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่ค่าครองชีพพุ่ง รายได้หด วอนรัฐตรึงต่อ 30 บาทต่อลิตร ระบุ เข้าใจแต่ประชาชนรับภาระไม่ไหวจริงๆ

ส่วนที่สงขลา พาเหรดขึ้นราคาสินค้าไม่หยุด พบราคาพืชผัก ของกินของใช้ เริ่มทยอยปรับราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน อย่างผักคะน้า ผักกวางตุ้ง จากกิโลกรัมละ 25 บาท เป็น 30 บาท ส่วนของกินอย่างอื่น เส้นก๋วยเตี๋ยว จากกิโลละ 20 บาท เป็น 22 บาท , น้ำมันพืชขวดลิตร จาก 65 บาท เป็น 68 บาท

-สหภาพคนทำงาน พร้อมแรงงาน - ชุมชนชาวเมียนมา รวมตัวแน่นราชประสงค์ ในวันแรงงานแห่งชาติ ‘ เดินขบวนปราศรัยเดือด เรียกร้องคุณภาพชีวิตที่ดี ขอค่าแรงที่เหมาะสม ขณะที่รัฐมนตรีแรงงาน สุชาติ ยันปรับค่าจ้างขั้นต่ำแน่นอน แต่ไม่ใช่ 492 บาท ใช้สูตร ‘ค่าจ้าง-เงินเฟ้อ-ค่าครองชีพ

-สุวรรณภูมิคึกคัก หลังยกเลิกเทสต์แอนด์โก วันแรก ปลัดคมนาคมมั่นใจ ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คาดจะกลับมาคึกคักเต็มที่ช่วงปลายเดือนนี้ ขณะที่ ทอท. มั่นใจจัดระเบียบแก้ปัญหาลดความแออัดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ ไม่กังวลผู้โดยสารต่างชาติที่ยังไม่ฉีดวัคซีน พบมีจำนวนน้อย เพียง 11 คน จากทั้งหมด 17,000 คน



เรื่องเล่าการเมือง

-อีก 20 วันจะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. นิด้าโพลมีผลสำรวจออกมาอีกแล้ว เป็นผลสำรวจครั้งที่ 2 หลังมีการลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ต้องบอกว่าคะแนนนิยมของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังพุ่งต่อเนื่อง

โดยนายชัชชาติ มาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนร้อยละ 44.58 เพิ่มมาอีกประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์จากครั้งที่แล้ว

ส่วนอันดับ 2 ร้อยละ 11.42 เป็นกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งครั้งนี้ลดลงจากครั้งก่อนถึงร้อยละ 15

อันดับ 3 ร้อยละ 11.27 เป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งถ้าเทียบกับคะแนนนิยมนายชัชชาติ ห่างกันอยู่ถึงประมาณ 4 เท่าตัว

อันดับ 4 ร้อยละ 8.99 เป็น นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

อันดับ 5 ร้อยละ 6.93 เป็น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

ซึ่งทั้งสามก็มีคะแนนนิยมที่เพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้ว

เช่นเดียวกับนายสกลธี ภัททิยกุล / น.ต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย และน.ส.รสนา โตสิตระกูล ที่มาเป็นอันดับ 7-8-9 ก็มีคะแนนเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งน่าจะเพิ่มมาจากกลุ่มคนที่เคยบอกว่ายังไม่ตัดสินใจ

และผลสำรวจรอบนี้ นายศิธา เบียดแซง น.ส.รสนา ขึ้นมา จากครั้งที่แล้ว น.ส.รสนา มีคะแนนนิยมมากกว่า

ทั้งนี้เป็นผลสำรวจความเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2565 จำนวน 1,357 ตัวอย่าง

นอกจากนี้ ก็ได้มีการสอบถามประชาชนถึงสิ่งที่ต้องการจะถามผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ด้วย ซึ่งคำถามที่ชาว กทม.ต้องการถามผู้สมัครมากที่สุด คือ ถามว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องการจราจร คือเรื่องรถติด ในกรุงเทพฯ อย่างไร

รองลงมา ต้องการถามว่านโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริง หรือไม่

และ อันดับสาม ต้องการถามว่า มีวิธีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ อย่างไร



-เนื่องในวันวันแรงงานแห่งชาติ มีข้อเรียกร้องจากเครือข่ายผู้ใช้แรงงานในหลายเวที หนึ่งในนั้นคือข้อเรียกร้องขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 492 บาท ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ไปร่วมงานที่กระทรวงแรงงาน ย้ำว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งแรงงาน แต่ก็ขอกำลังใจด้วย

โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ไปเป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ที่กระทรวงแรงงาน โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ตลอดจนผู้ใช้แรงงานมาร่วมงานด้วย

ทั้งนี้ทันทีที่มาถึงกระทรวงแรงงาน นายกฯก็ได้เข้าไปพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร ภายในห้องพักรับรองเป็นเวลา 10 นาที ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมกระทรวงแรงงานบริเวณที่จัดงานพร้อมกัน

นายกฯได้รับข้อเรียกร้องจากสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย 8 ข้อจากตัวแทนผู้ใช้แรงงาน เช่น

-ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และการร่วมเจรจาต่อรอง

-เร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครองส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบ

นายกฯ กล่าวว่า ยินดีรับข้อเรียกร้องทั้ง 8 ข้อไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรม แต่ก็ย้ำว่าต้องมีการพัฒนาฝีมือแรงงาน ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยลืมแรงงาน อะไรที่ทำให้ได้ จะทำให้เต็มที่ จากนั้นท่านนายกฯก็ให้สัมภาษณ์ย้ำในประเด็นนี้ และยังขอกำลังใจจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานด้วย

ทั้งนี้หลังเปิดงาน ท่านนายกฯได้เดินทักทายผู้ใช้แรงงานกลุ่มต่างๆที่มาร่วมกิจกรรมอย่างอารมณ์ดี มีการใช้ศอกชนทักทายแทนการจับมือ มีการโชว์สัญลักษณ์ไอเลิฟยู และมินิฮาร์ท ให้ด้วย



-เครือข่ายแรงงานรวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาทต่อวัน

โดยกลุ่มคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้นัดรวมตัวจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงเช้าและเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเสนอของแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ต่างๆ ต่อรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ข้อเรียกร้องหลัก คือ ขอปรับเพิ่มขึ้นเป็น 492 บาทเท่ากันทั้งประเทศ โดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ระบุว่า การปรับค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ช่วยให้ชีวิตแรงงานดีขึ้น แต่เป็นการปรับเพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานเท่านั้น เนื่องจากตอนนี้ค่าสินค้าต่างๆปรับขึ้นไปหมดแล้ว

สำหรับข้อเรียกร้องอื่น เช่น ขอให้ปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นองค์กรอิสระ / จัดตั้งธนาคารแรงงาน / เรียกร้องให้เพิ่มวันลาคลอดเป็น 180 วัน และให้สามีลาได้ 30 วันเพื่อมาช่วยภรรยา

ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.สายแรงงานของพรรค ได้เคลื่อนขบวนมารวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาลด้วยรถบรรทุกพร้อมเครื่องขยายเสียง เพื่อร่วมเรียกร้องสิทธิให้ผู้ใช้เเรงงานเช่นกัน

โดยนายพิธา ได้ประกาศว่า พรรคก้าวไกลขอร่วมต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิไปกับผู้ใช้แรงงาน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในระบบ แรงงานอิสระ แรงงานข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนสิทธิแรงงานไทยให้เทียบเท่ากับมาตรฐานสากลเข้าสู่สภาแล้ว

ส่วนในช่วงเย็นกลุ่มสหภาพคนทำงาน พร้อมด้วย แรงงานชาวพม่าในประเทศไทย ได้รวมตัวที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพื่อทำกิจกรรมและเดินขบวนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยเคลื่อนขบวน ผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปยังบริเวณหน้าหอศิลป์

เรียกร้องขอความเป็นธรรมด้านสิทธิมนุษยชนให้กับแรงงานข้ามชาติ รวมถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัย และการใช้ความรุนแรงกับแรงงานข้ามชาติ



-ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงเป็น 492 บาท

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงถึงข้อเรียกร้องในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เท่ากันทั้งประเทศอัตรา 492 บาท ว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน ที่ให้มีการพิจารณาประกอบการทั้งภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ และอัตราค่าแรงในปัจจุบัน ซึ่งแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน

การเสนอให้ปรับ 492 บาท เท่ากันทั้งประเทศ เป็นการคิดแบบตรรกะที่ไม่เข้าใจ และยกตัวอย่างว่าค่าเช่าบ้านที่ลำปาง ก็แตกต่างจากที่ชลบุรี และที่กรุงเทพฯ ฉะนั้น ต้องเอาค่าครองชีพของแต่ละพื้นที่มาคำนวณ

นายสุชาติตั้งคำถามว่า ถ้าจะขึ้นเงินเดือน 48 เปอร์เซ็นต์ จะไหวหรือไม่ ทั้งนี้การปรับขึ้นค่าแรงต้องเอาค่าแรงขั้นต่ำ ค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อมาเป็นตัวพิจารณาประกอบกัน ซึ่งทั่วโลกใช้สูตรนี้หมด

นายสุชาติ ยืนยันว่า จะมีการปรับขึ้นค่าจ้างอยู่แล้ว แต่ปรับเท่าไรก็ต้องให้นายจ้างอยู่ได้ และลูกจ้างพอไปได้ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างนายจ้าง ขออย่าใช้อารมณ์ ให้ใช้หลักการความเป็นจริง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/M8elwyTCdmY