เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 16 มี.ค.65 นายกฯ ไม่ยันยุบสภา - แม่ส่งศพแตงโมชันสูตรรอบ 2 - รุ่นพี่สารภาพรับน้องโหด

-เเม่ส่งศพเเตงโม ชันสูตรรอบ 2 เชื่อฝีมือหมอพรทิพย์ คลายข้อสงสัย ทนายเผยเตรียมเปิดหลักฐานเด็ดวันนี้ หวังแจ้งข้อหาเพิ่ม แม่แตงโมเอาจริงขู่ ดำเนินคดีชาวเน็ต ให้ข้อมูลเท็จ กล่าวหาเเม่หิวเงิน

-ทนายแนะแม่แตงโม เบรกคุยปอ-โรเบิร์ต หวั่นเสียรูปคดี แม่เผยทั้งคู่จะไปถือศีล นุ่งขาวห่มขาว เป็นเรื่องดี ส่วนตัวให้อภัยแต่ในเรื่องคดีว่ากันไปตามกฎหมาย ด้านทนายรัชพล พร้อมกลุ่มแฟนคลับแตงโม บุกสภ.เมืองนนทบุรี แจ้งเอาผิดแก๊งสปีดโบ๊ท ไม่ยอมตรวจสารเสพติด

-เพื่อนน้องเล่านาทีรับน้องสุดโหด รุ่นพี่สั่งแก้ผ้า เวียนต่อยท้องน้องเปรม สุดท้ายถูกต่อยเข้าลิ้นปี่ จนเสียชีวิต ด้านรุ่นพี่สารภาพลงมือต่อยจริง ทำน้องเปรมล้มลงหมดสติ เจ้าตัวขอโทษสำนึกผิด ไม่มีเจตนาทำร้ายจนเสียชีวิต เบื้องต้น ตำรวจแจ้งเอาผิด 7 รุ่นพี่ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ขณะที่ครอบครัวนำศพน้องเปรม ส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยาผ่าชันสูตร พ่อยังคาใจสาเหตุลูกเสียชีวิต

-ผู้เสียหายทำประกัน เจอจ่ายจบ บุกร้องเรียน คปภ. หลังไม่ได้รับค่าสินไหมชดเชยจากการติดเชื้อโควิด-19 พบมีผู้เสียหายมากถึงหลักหมื่นคน ผู้เสียหายหลายคนโวย ยื่นเรื่องกว่า 30 วันแล้วยังไม่ได้รับเงิน บริษัทประกัน ปฏิเสธไม่จ่ายเงิน ด้านอาคเนย์ประกันภัย-ไทยประกันภัย ยืนยันเปิดดำเนินการตามปกติ แต่อาจล่าช้า เพราะมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูง พร้อมเปิดจองเคลมโควิดล่วงหน้า แก้ปัญหาความแออัดในพื้นที่

-สุดสลดใจ ลูกชายทรพี ใช้ท่อนไม้และจอบ ทุบตีพ่อแม่จนเสียชีวิต นำศพไปซ่อนไว้ในเตาเผาถ่าน ชาวบ้านมาเห็นเหตุการณ์ เจ้าตัวเผ่นหนี แต่ไปไม่รอด ถูกตำรวจรวบตัวได้ทันควัน ขณะจับกุมผู้ก่อเหตุ สีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้าน ตรวจปัสสาวะพบเสพยาบ้า

-ชาวบ้านสุดทน แก๊งพระ พฤติกรรมสุดแปลก กางเต็นท์เพิงพักในป่า คล้ายมาแคมปปิ้ง เวลาเช้านั่งแท็กซี่ออกไปบิณฑบาต เที่ยงกลับมารวมกลุ่ม ใช้ชีวิตอยู่ในป่า ไม่เคยจำวัด ล่าสุดหมอปลา นำตำรวจจู่โจม พระสงฆ์ทั้งหมดต่างวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ควบคุมตัวพระได้ 8 รูป พบตารางบิณฑบาต บันทึกรายได้วันละ 500-890 บาทต่อวัน แต่ยังไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย

-ตำรวจเปิดปฏิบัติการ ขับรถไล่ล่ากระบะซิ่ง ขับฝ่าไฟแดง สกัดจับได้คนขับคือ หลวงปู่เดือนชัย พระที่เคยทำนายคดีน้องชมพู่ พฤติกรรมเมาแอ๋ เอะอะโวยวายอยู่ตลอดเวลา ค้นตัว เจอยาบ้า 37 เม็ดพร้อมอุปกรณ์เสพยา ตำรวจคุมตัวไปดำเนินคดีและส่งสึก ก่อนหน้าคณะสงฆ์ จังหวัดมุกดาหาร ได้มีมติขับไล่หลวงปู่เดือนชัย ออกจากพื้นที่ หลังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

-ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษาประหารชีวิต บังรี ผู้ต้องหากระทำอนาจาร ฆ่า และซ่อนเร้นศพ หญิงสาวชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่น้ำตกโตนอ่าวยน จังหวัดภูเก็ต ช่วงก่อเหตุเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จำเลยเสพยาบ้าและกัญชา จำเลยสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ให้จำคุกตลอดชีวิต


เรื่องเล่าการเมือง

-สถานการณ์การเมืองตอนนี้มีความเข้มข้นขึ้นมาทันที ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความเคลื่อนไหวของพรรคเล็กหลังไม่ได้รับเชิญไปกินข้าวในวงพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนนายกฯต้องนัดกินข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ และ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องมาช่วยเคลียร์ใจพรรคเล็ก

เมื่อวาน บิ๊กป้อม ออกมาให้สัมภาษณ์เคลียร์ประเด็นต่างๆ ที่เกิดตามมาหลังการเชิญพรรคเล็กไปพบที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เริ่มตั้งแต่เรื่องยุบสภา ที่มีข่าวว่าท่านบอกกับแกนนำพรรคเล็กที่ไปพบเมื่อวานว่าจะยุบสภาหลังประชุมเอเปค ท่านก็ยอมรับว่าท่านพูดจริง

ประเด็นต่อมา คือ เรื่องที่นายกฯจะนัดรับประทานอาหารกับพรรคเล็กและพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 17 มีนาคม นี้ พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าจะมีการเชิญทุกพรรค ยกเว้นพรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่เชิญเพราะยังไม่มีหัวหน้าพรรค ต่อไปหากมีหัวหน้าพรรคแล้วก็จะเชิญแน่นอน และยืนยันว่า ร.อ.ธรรมนัส กับ นายกฯ สามารถพบกันได้ ไม่มีอะไร

อีกประเด็นที่ พล.อ.ประวิตร พูดชัดเจน คือเรื่องการดูแลพรรคเล็ก ซึ่งการที่ท่านเชิญพรรคเล็กไปพูดคุยเมื่อวานทำให้มีการมองกันว่าท่านจะมาดูแลพรรคเล็กแทนร้อยเอกธรรมนัส หรือไม่ พล.อ.ประวิตร จึงย้ำว่าท่านดูแลคนเดียวมาตั้งแต่ต้น ไม่เกี่ยวกับร้อยเอกธรรมนัสอยู่หรือไม่

-เรื่องยุบสภา เมื่อวานนี้นักข่าวก็ไปถามความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยท่านนายกฯบอกว่า พลเอกประวิตร บอกให้ทราบเรื่องที่ไปพูดแล้ว แต่ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของ พลเอกประวิตร เท่านั้น เพราะคนที่จะตัดสินใจจริงๆคือตัวเอง

นายกฯ ยืนยันว่า การยุบสภาเป็นเรื่อง ที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตัดสินใจ จะยุบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะสถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด

ส่วนการนัดทานข้าวกับบรรดาพรรคเล็ก ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นการนัดพูดคุยกันตามปกติเพราะให้เกียรติกัน ไม่ได้มีนัยยะอะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยอยู่อย่างต่อเนื่อง ตนเองให้เกียรติพรรคเล็กเสมอ ไม่เคยคิดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะสุดยอด

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าพรรคเล็กน้อยใจ เพราะไม่ได้รับเชิญร่วมๆรับประทานอาหาร กับท่านนายกฯ และ 4 พรรคใหญ่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นั้น นายกฯ บอกว่า "คนเรา ควรทำตัวให้หัวใจใหญ่ขึ้นไม่ใช่หัวใจเล็ก”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาล ร่วมถึงแผนการที่จะมีการล้มนายกรัฐมนตรีกันอีกครั้งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ท่านนายกฯ ก็ตอบในทำนองถอดใจว่า "ใครจะล้มก็ล้มไปเถอะ ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ "

-ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิตย์ ยืนยันพร้อมไปร่วมวงรับประทานอาหารกับพรรคเล็ก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการที่นายกฯนัดรับประทานอาหารในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ว่า นายกฯแจ้งกับตนแล้วว่าให้ไปด้วย ซึ่งวงดังกล่าวจะเป็นพูดคุยร่วมมือกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ไม่ใช่การสังสรรค์ แต่เป็นการหารือว่าจะแก้ปัญหาของบ้านเมืองอย่างไร

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ทราบเรื่องการนัดรับประทานอาหารค่ำระหว่างแกนนำรัฐบาลกับพรรคการเมืองขนาดเล็กแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี ทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล ล้วนมีความสำคัญ มีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ตนติดภารกิจสำคัญต้องเดินทางไปพบเกษตรกรที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวแทน

ส่วนฝ่ายค้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพรรคเล็ก ยืนยันว่ายังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ว่า เชื่อว่าหากประเทศเกิดภาวะวิกฤติ และมีปัญหาต่างๆรุมเร้า จนรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านมีหลักฐานและข้อมูลที่ชัดเจน หรือหากมีการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ก็อาจทำให้กลุ่มพรรคเล็กโหวตไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ได้

-จากปรากฏการณ์ทางการเมืองที่พรรคเล็กกำลังเนื้อหอม ได้รับความสนใจจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน นักวิชาการ อย่าง รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี มองว่าเป็นความ "วิปลาส" ซึ่งเป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ

รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า ตอนนี้ปัจจัยการอยู่รอดของรัฐบาล ไม่ได้อยู่ที่กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพราะมีแค่ 16 เสียง แต่ตัวแปรหลัก คือความสัมพันธ์ของ 3ป./ พรรคร่วมรัฐบาล /และที่สำคัญที่สุด คือ พรรคเล็ก ซึ่งการที่พรรคเล็กมีอำนาจต่อรองสูงขนาดนี้เป็นผลพวงมาจากการออกแบบรัฐธรรมนูญและระบบเลือกตั้ง

อาจารย์สิริพรรณ ย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความวิปลาสที่ระบบเลือกตั้งกับรัฐธรรมนูญออกแบบไว้ ที่เพิ่มอำนาจการต่อรองของพรรคขนาดเล็ก โดยเฉพาะพรรค 1 ที่นั่ง ที่ไม่เคยแสดงบทบาทอย่างสำคัญในการออกฎหมาย หรือดำเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของรัฐบาล และพลังประชารัฐรู้ปัญหานี้ดี จึงนำมาสู่การแก้ระบบเลือกตั้เป็นบัตร 2 ใบ ที่ต้องการกำจัดพรรคเล็กในการเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งนี้เป็นปัจจัยหนึ่งในการแก้ระบบเลือกตั้ง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/t0j7Efj-ncM