เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 14 ก.พ.65 ธรรมนัสเที่ยวสวิต-กุหลาบวาเลนไทน์ราคาพุ่ง-จับ นทท.นั่งถ่ายรูปบนประการัง

-รวบแล้วลุงหัวร้อนปืนโหด ยิงแม่เพื่อนหลานดับ ตำรวจตามตามจับคาห้างพร้อมคนพาหนี เผยคลิปก่อนเกิดเหตุ ทั้ง2ฝ่าย มีปากเสียงกัน หลังพาหลานมาส่งบ้าน จนเหตุการณ์บานปลาย เจ้าตัวอ้างถูกแทงก่อน ระหว่างทางไปโรงพยาบาลเจอคู่กรณี จึงชักปืนยิง เหตุน้อยใจหลานไม่อยากอยู่ด้วย

-บิ๊กตำรวจลุยชายแดนพบพระ จังหวัดตาก จี้คดีปล้นร้านทอง 200 บาท ระดมทีมตามล่า เผยปล้นรถกระบะจากชาวบ้านจับมัดมือติดกับต้นไม้ ก่อนนำไปก่อเหตุ พบหลักฐานเพียบ ถูกทิ้งไว้ในลำห้วยวาเล่ย์กั้นชายแดน คาดทั้ง 3 คน หนีข้ามไปเมียนมาแล้ว เร่งประสานตามจับตัว

-ยายวัย 70 ปี บุกโรงพักสิชล นครศรีธรรมราช ขู่ฆ่าตัวตายภายใน 3 วัน ประกาศลั่น ตำรวจไม่ช่วยอะไรเลย หลังลูกชายถูกคนร้ายยิงตาย นานกว่า 2 เดือน แต่เรื่องกลับเงียบหาย วอนตำรวจเร่งจับคนร้าย หวังทวงความยุติธรรมให้ลูก

-หวิดตายหมู่ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ซุกรถกระบะห้องเย็น ผงะ 14 แรงงานถูกอัดแน่นนั่งรวมกันอยู่หลังรถ ไม่เปิดเครื่องทำความเย็น จนทุกคนเริ่มหายใจไม่ออก เคราะห์ดีเจ้าหน้าที่ตามสกัดทันคาปั๊ม จ.ระนอง ส่วนคนขับทิ้งรถหนี เผยเสียค่านายหน้าคนละ 4 หมื่นบาท

-แม่สุดทน พฤติกรรม ผอ.พาลูก ป.5 แจ้งความเอาผิด หลังถูกทำร้ายร่างกายหน้าเสาธง ทั้งบิดท้อง บิดหู และทุบหลัง เหตุทำธูปไหว้ครูหายไป 1 ดอก หลังแจ้งความเพียงข้ามวัน ผอ.โผล่มาที่บ้าน ขอโทษอยากให้จบเรื่อง ผู้ปกครอง ยัน ไม่ยอมความ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

-ฉาวอีกนักท่องเที่ยว นั่งถ่ายรูปบนประการัง เกาะครามน้อย บางเสร่ สัตหีบ เจ้าหน้าที่แจ้งจับ โทษจำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท เจ้าตัวโผล่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา สารภาพรูปเก่าถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว อ้างไม่รู้เป็นปะการัง คิดว่าเป็นโขดหินใต้ทะเล พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

-นพ.จเด็จ เลขาธิการ สปสช. แจงแม้ถอนโควิด-19 พ้นโรคฉุกเฉินวิกฤติ ประชาชนยังรักษาฟรีตามสิทธิ ให้ใช้ช่องทางการรักษาตามปกติ ย้ำหากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้าโรงพยาบาลไหนก็ได้

-เปิดราคาดอกกุหลาบ วันวาเลนไทน์ ที่ปากคลองตลาด ปรับสูงขึ้นกว่าปกติ กุหลาบไทยแดง ขาว ก้านสั้น กำ 50 ดอก ราคา 800 บาท กุหลาบไทยก้านยาว กำ 50 ดอก ราคา 900 บาท

เช่นเดียวกับ บึงกาฬ ดอกไม้ทุกชนิดขึ้นราคาพร้อมกันกว่าเท่าตัว กุหลาบเชียงใหม่ ราคาพุ่งขึ้น 600-700 บาท ต่อมัด กุหลาบอังกฤษ 10 ดอก ราคาสูงถึง 1,200 บาท ทำยอดขายลดลงกว่าทุกปี


เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง

-ความเคลื่อนไหวของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์คลิปเที่ยวเมืองสวิตเซอร์แลนด์ ความยาว 7 นาที 36 วินาทีพร้อมมีการโยงมาถึงประเทศไทย โดย ระบุว่า ไทยสามารถพัฒนาได้เทียบเท่า หากมีผู้นำที่มีความพร้อมและวิสัยทัศน์ดี

โดยในโพสต์ระบุว่า "สวิตเซอร์แลนด์ ฟื้นตัวและเติบโตได้ เพราะมีผู้นำที่มีความพร้อมและมีวิสัยทัศน์ดี...สวิตเซอร์แลนด์ ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่สวยที่สุด...เค้าฟื้นตัวอย่างไร และ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวของเค้าอย่างไรให้เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผมเชื่อว่าประเทศไทยนั้นก็สามารถที่จะพัฒนาได้เท่าเทียมกับสวิตเซอร์แลนด์ หากเรามีผู้นำที่มีความพร้อมและมีวิสัยทัศน์ดี"

ร้อยเอกธรรมนัส บอกอีกว่า หากจะทำให้ 77 จังหวัดของไทยมีความเข้มแข็ง มีความเจริญ กลายเป็นประเทศที่พัฒนา จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหาผู้นำ ที่สามารถทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ช่วยเหลือพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ หลุดพ้นจากเส้นแห่งความยากจน

-จากเหตุการณ์สภาล่มติดต่อกันบ่อยครั้ง จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา นิด้าโพล ได้สำรวจความเห็นประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้

ประเด็นแรก ถามถึงบุคคลหรือกลุ่มที่ควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์สภาล่ม

พบว่าส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 43.44 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ "สภาล่ม

รองลงมา ร้อยละ 42.37 ระบุว่า รัฐบาล

ร้อยละ 37.94 ระบุว่า ส.ส. ฝ่ายค้าน

ร้อยละ 32.60 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

นอกจากนั้นก็มี ระบุว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ นายชวน หลีกภัย / ประธานวิปรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา / และประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ "สภาล่ม"

ร้อยละ 49.85 มองว่า เป็นเกมการเมืองของกลุ่มที่ต้องการล้มรัฐบาล

รองลงมา ร้อยละ 31.98 ระบุว่า มี ส.ส. จำนวนหนึ่ง ไร้สามัญสำนึกในการทำหน้าที่ภายในรัฐสภา

ร้อยละ 16.03 ระบุว่า วิปรัฐบาล ไม่มีประสิทธิภาพ

ร้อยละ 11.91 ระบุว่า มี ส.ส. จำนวนหนึ่ง ขี้เกียจสันหลังยาว

นอกจากนั้นก็มี เช่น รัฐบาลต้องการเตะถ่วงกฎหมาย/ วาระการประชุมไม่ดึงดูดใจให้เข้าประชุม / วิปฝ่ายค้านไม่มีประสิทธิภาพ

ความเห็นเรื่องวิธีแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ "สภาล่ม" ประชาชนกลุ่มตัวอย่าง

ร้อยละ 30.15 ระบุว่า ลงโทษตัดเงินเดือน สวัสดิการ

รองลงมา ร้อยละ 22.82 ระบุว่า ลงโทษตัดสิทธิทางการเมือง

นอกจากนั้นก็มี ให้ไล่ออกจากตำแหน่ง ส.ส. / ปรับเงิน ส.ส. ทุกครั้งที่ไม่เข้าร่วมประชุม / และประจานชื่อผู้ขาดประชุมสภาต่อสาธารณะ

-ความเคลื่อนไหวของหลายพรรคการเมือง เตรียมการเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ที่สำคัญคือการลุยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.

ที่ขอนแก่น เมื่อวาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ พร้อมด้วยคณะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ได้แถลงข่าวเปิดตัว นาวาอากาศเอก วิชัย ราชานนท์ อดีตนักชกโอลิมปิคเหรียญทองแดง เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 7

โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การหาตัวผู้สมัครของพรรคนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรุ่นเก่าที่เคยลงสมัคร ส.ส.มาแล้ว คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยสมัครเลยก็สามารถลงสมัครกับพรรคได้ โดยทางพรรคจะส่งให้ครบทุกเขต

ขณะที่นาวาอากาศเอกวิชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ลงสมัครกับพรรคสร้างอนาคตไทย ในครั้งนี้ เนื่องจากพรรคนี้ชูนโยบายการแก้เศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ และตนเองก็เห็นว่าทีมเศรษฐกิจแต่ละคนนั้นมีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์มาก เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประเทศและบ้านเกิดของตนเองได้

ทั้งนี้ เมื่อปี 2544 ตนเคยลงสมัคร ส.ส.ในเขตนี้สังกัดพรรคไทยรักไทย และแพ้นายสมศักดิ์ คุณเงิน ซึ่งปัจจุบัน เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไปเพียง 1,000 กว่าคะแนนเท่านั้น ครั้งนี้มีความพร้อมเต็มที่เชื่อว่าจะสามารถเอาชนะได้

ส่วนในกรุงเทพมหานคร นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เปิดตัวนายปรัชญา อึ้งรังษี นักธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ นำเข้าสินค้าอาหารทะเล และผลิตภัณฑ์เครื่องหอม ลงสมัคร ส.ส. เขตพระนคร สัมพันธวงศ์ และป้อมปราบศัตรูพ่าย

โดยนายกรณ์ ระบุว่า นายปรัชญา ถือเป็นตัวแทนของ "คนตัวเล็ก" ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เริ่มธุรกิจนำเข้าอาหารทะเลจากจากเงินทุนไม่ถึงแสน จนตอนนี้แตะระดับหลายร้อยล้าน และถึงจุดที่พร้อมจะนำประสบการณ์ "เศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก" ช่วยเหลือประชาชนต่อไป

-มาที่สนามเลือกตั้งผู้ว่า กทม. เมื่อวานนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคก้าวไกล จัดเวทีพูดคุยเรื่อง "ส่วยกรุงเทพ" เพื่อจัดทำเป็นนโยบาย

โดยนายวิโรจน์ ได้เชิญพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนมาร่วมพูดคุยกับ ส.ส.กทม.ของพรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค

นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเชิญชวนประชาชนมาแชร์ประสบการณ์โดนรีดส่วย เรียกสินบน เพื่อสะท้อนปัญหา และนำไปปรับเป็นนโยบาย ถือเป็นการเปิดด้วยนโยบายแรก ซึ่งต้องวางกลไกควบคุมวงจรเหล่านี้ทั้งระบบ เพื่อให้กทม.ใช้จ่ายงบงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

ได้เดินทางไปในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งไม่ได้แค่เดินดู แต่เดินให้รู้ และศึกษาแก่นปัญหา ไม่ใช่แค่ข้อมูล แต่คือประสบการณ์ เพื่อนำกลับมาพัฒนานโยบาย เปลี่ยนกรุงเทพให้ได้

และบอกว่า จะไม่หยุดเดินทาง เพื่อไปรับฟังปัญหาและสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง

ดร.เอ้ พูดถึงเรื่องเดิน ขณะที่ว่าผู้สมัครผู้ว่ากทม.อีกคน คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พูดถึงเรื่องวิ่ง โดยได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า จากการที่ทีมเพื่อชัชชาตินัดกันไปวิ่งที่เขตบางคอแหลมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าสนใจ โดยนายชัชชาติไล่เรียงมาเป็นข้อๆทั้งหมด 9 ข้อ เช่น เรื่องสวนสาธารณะ เรื่องทางเท้า เรื่องตู้กดน้ำดื่มฟรี เรื่องท่าเรือ ไปจนถึงเรื่องศูนย์ฝึกอาชีพ และบอกว่าวันเสาร์หน้าจะนัดไปวิ่งที่เขตบางบอน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Sopew3AVwLI