ปลาลอยตายเกลื่อนบึงมักกะสัน เจ้าหน้าที่เร่งเก็บซากไปฝั่งกลบกว่า 500 กก.

เช้าวันนี้ 16 ก.ค. 67 ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่สำรวจบึงมักกะสัน ถนนจตุรทิศ เขตราชเทวี พบว่าไม่มีชาวบ้าน นำอุปกรณ์มาจับปลาในบึงมักกะสันแล้ว เนื่องจากทางสำนักการระบายน้ำ มีการเปิดปั๊มน้ำและระบายน้ำเป็นปกติแล้ว ทำให้ปลากลับไปอยู่ในจุดน้ำลึก ยากต่อการเข้ามาจับไปประกอบอาหาร

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายกรณิศ บัวจันทร์ ผอ.เขตราชเทวี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี อยู่ระหว่างนำเรือและอุปกรณ์เก็บซากปลา ภายในบึงมักกะสัน ซึ่งเริ่มส่งกลิ่นเหม็นอยู่ในพื้นที่โดยรอบ คาดการณ์ว่าวันนี้จะมีปริมาณปลาตายที่ต้องเก็บ ไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม เพราะมีปลาลอยตายในบึงเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าปลาส่วนใหญ่เป็นปลานิล ร้อยละ 90 ส่วนที่เหลือเป็นปลาชนิดอื่น ทั้งป่าหมอคางดำ และปลาช่อน

สำหรับสาเหตุที่ปลาหมอน็อคน้ำและลอยคอเป็นจำนวนมาก เกิดจากในพื้นที่มีการพร่องน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาในช่วงนี้ ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่มีออกซิเจนน้อยลง ปลาจำนวนมากจึงมาลอยคออยู่บริเวณปั๊มบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีออกซิเจนมากกว่าน้ำภายในบึง

แต่วันนี้เมื่อมีการปิดการระบายน้ำ ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำกลับมาเป็นปกติ และปลาทั้งหมดกลับไปอยู่บริเวณน้ำลึก ซึ่งไม่สามารถจับไปประกอบอาหารได้ง่ายเหมือนเมื่อวานแล้ว

ดังนั้นในวันนี้ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดเข้ามาจับปลาในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดที่การจราจรคับคั่ง และมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง หากมีประชาชนมาเป็นจำนวนมากเสี่ยงเกิดอันตราย ขณะเดียวกันหากจะลงไปจับปลาภายในบึงก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากปลากลับไปอยู่บริเวณจุดน้ำลึกแล้ว และที่สำคัญในครั้งนี้ มีปลาตายเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ปลาที่ยังไม่ตาย เพื่อให้สามารถอยู่ขยายพันธุ์ต่อไปได้

ในส่วนของการทำลายซากปลาตายจำนวนหลายร้อยกิโลกรัมนั้น ทางสำนักงานเขตราชเทวี จะนำซากปลาทั้งหมดไปขุดหลุมฝังบริเวณสวนราชเทวีภิรมย์ โดยจะขุดให้มีความลึก 2 เมตร พร้อมโรยด้วยปูนขาว และทับด้วยดินอีก 1 เมตร เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวนชาวบ้าน คาดว่าวันนี้ทุกอย่างจะแล้วเสร็จทั้งหมด