สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 8 มิ.ย.66 ครอบครัวเบรกอุ๊งอิ๊งนั่งนายกฯ-น้าเขยโยนหลาน2เดือนทิ้งน้ำ-รื้อแล้วโรงรถกลางถนน

โดย thichaphat_d

8 มิ.ย. 2566

68 views

-นายโก้ น้าเขย สารภาพพลั้งมือทำหลานวัย 2 เดือนหล่น ก่อนโยนทิ้งน้ำ ทั้งที่เพิ่งทำเนียนจำลองเหตุการณ์กับนักข่าว ยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ส่วนผลชันสูตรชี้ชัด สาเหตุการตายเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากจมน้ำ แม่และญาติร่ำไห้แทบเป็นลมคาศาลา หลังรู้ผู้ก่อเหตุ วอนตำรวจนำตัวมาขอขมาศพลูกที่วัด

-คมนาคม ลงพื้นที่ด่านช่างน้ำหนักอยุธยา โชว์เทคโนโลยีแก้ปัญหารับเงินเคลียร์คดี มั่นใจแก้ส่วยสติกเกอร์ได้แน่ วิโรจน์ คาใจ ลงพื้นที่สอบส่วย แต่ลงกำหนดการว่อน จะตรวจเจอไหม? ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านสุวินทวงศ์ เจ้าของสติกเกอร์ “ใบโพธิ์” ถูกเด้ง และ ตั้งกรรมการสอบแล้ว

อัจฉริยะจี้ตรวจสอบผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ส่อทุจริต อมเบี้ยเลี้ยงลูกน้อง แนะขยายผลสอบ 4 หน่วยงานเอี่ยวส่วยรถบรรทุก

-ผู้การ ปปป. เรียกชุดจับกุมน้ำมันเถื่อนให้ข้อมูล คลี่ปม บิ๊กสรรพสามิตโทรเคลียร์ พร้อมสั่งตั้งกรรมการสอบ ขอตำรวจทางหลวง ต้องช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กร เพื่อสร้างศรัทธา ชี้ยุคนี้เหมือนเป็นผลไม้พิษ กินไปอาจป่วยหรือตายได้ดังนั้น อย่ากิน

-อุกอาจ! มือปืนรัวยิงหนุ่มรัสเซีย 4 นัด ขณะขับรถมาพร้อมสาว ระหว่างหาอาหารทานย่านโบ๊ทอเวนิว กลางเมืองภูเก็ต กระสุนทะลุกระจกหน้ารถ บาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งหาปมสังหาร คาดเป็นมือปืนรับจ้าง รู้ความเคลื่อนไหวคนเจ็บ

-จบศึกข้ามรั้ว – เจ้าของบ้านยอมรื้อโรงจอดรถกลางถนนหมู่บ้านแล้ว ตามที่รับปากกับชาวบ้าน เผยจากนี้หน้าบ้านจะเปิดเป็นที่โล่ง พร้อมย้ายต้นไม้มาไว้ใกล้บ้าน หมดไม่มีแกะกะ พร้อมยกหลังคาให้เพื่อนบ้านไปทำบ้านสุนัขตามที่ขอ



เรื่องเล่าการเมือง

-ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ประเด็นใหญ่ยังอยู่ที่เรื่องคดีหุ้นไอทีวี ของนายพิธา เมื่อวานเจ้าตัวถูกซักเรื่องนี้อีกครั้ง ยืนยันว่าเป็นเพียงผู้จัดการมรดก ไม่ได้เป็นเจ้าของหุ้น

เมื่อวานมีการประชุมหัวหน้าพรรค 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีการประเมินว่า กกต.น่าจะประกาศรับรอง ส.ส.เร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์จากกำหนดการวันสุดท้ายที่ต้องประกาศรับรอง ส.ส.คือวันที่ 13 ก.ค. และมีการตั้งคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านเพิ่มอีก 2 คณะ คือ คณะปฏิรูปการประมง และ คณะทำงานเปลี่ยนผ่านงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการแถลงข่าวถึงผลการประชุม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถูกสื่อซักถามเรื่องหุ้นไอทีวีอีกครั้ง ซึ่งนายพิธา ยืนยันว่า ตนเป็นผู้จัดการมรดกอย่างเดียว ไม่ได้รับโอนหุ้นด้วย มีเอกสารยืนยันชัดเจน

ส่วนที่ กกต.ตั้งประเด็นนี้ไว้ว่าอาจเข้าข่ายรู้อยู่แล้ว ว่าขาดคุณสมบัติ แล้วมาลงสมัคร ส.ส.และแคนดิเดตนายกฯ นายพิธา ชี้แจงว่า เท่าที่ตนเห็นตามข่าว กกต.เห็นว่าข้อมูลไม่เพียงพอ และกำลังพิจารณาอยู่ กกต.ยังตั้งรูปคดีอยู่ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องตอบมากไปกว่านี้ ขอรอความชัดเจนจาก กกต.ก่อน

เมื่อถามว่ามองว่าใครอยู่เบื้องหลังฟื้นคืนชีพไอทีวี นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ความน่าจะเป็นยังว่าจะมีการฟื้นไอทีวีขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตนจึงต้องบริหารจัดการความเสี่ยงในอนาคต แต่ย้ำว่า ในอดีตที่ผ่านมา มั่นใจว่าไม่มีปัญหา

ส่วนความเคลื่อนไหวของสำนักงาน กกต. เมื่อวาน คณะกรรมการ กกต. มีการประชุม ในเวลา 10.30 น. ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องจากเมื่อวันอังคาร หลังจากสำนักงาน กกต. ได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับคำร้องคดีคุณสมบัติ ของคุณพิธา ให้ คณะกรรมการ กกต.พิจารณา

โดยประธาน กกต. คุณอิทธิพร บุญประคอง เปิดเผยกับทีมข่าวการเมืองของเรา ถึงการพิจารณาคำร้อง ดังกล่าวว่า จริงๆยังไม่ถึงขั้นจะไปเอาผิดคุณพิธา อย่างที่มีการพาดหัวกัน เพราะขั้นตอนขณะนี้ อยู่ระหว่าง พิจารณา ว่า จะรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าว เรื่องยังไม่ไปถึงขั้นต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนใด ๆ ยังไม่ได้พิจารณาด้วยว่ามีมูลอะไรหรือไม่ เป็นการรวบรวมข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้หรือไม่

ประธาน กกต. ยืนยันว่า เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องให้ กกต. ตรวจสอบ กกต. ก็มีหน้าที่ตามกฎหมายในการตรวจสอบ ว่ามีคำร้องหรือเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎว่ามีการกระทำใดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่



-ขณะที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ระบุระหว่างการแถลงข่าวของหัวหน้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ขอให้ผู้สื่อข่าว เลิกถามประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ กกต. และ ศาลรัฐธรรมนูญ และ ย้ำว่าประชาธิปไตย ต้องถามเสียงจากประชาชน

เมื่อวานนี้ นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวช่วงหนึ่ง ระหว่าง แถลงผลการประชุมร่วมกันของ 8 หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตนเห็นสื่อมวลชนตั้งคำถามถึงความเห็นของผู้มีอำนาจ ทั้ง กกต. หรือศาลรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นใครถามประชาชนว่าคิดอย่างไร

ก็บอกว่า การเลือกตั้งประชาชนสนับสนุนฝ่ายไหนมากที่สุดฝ่ายนั้นควรจะจัดตั้งรัฐบาล ควรให้โอกาส นี่คือเสียงของประชาชน อยากให้สื่อมวลชนได้สะท้อนความรู้สึก และความต้องการของประชาชน

นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา บอกว่า "นี่คือปัญหาใหญ่ของประชาธิปไตย เราเลิกกลัว รวมถึงหมดยุคของการฟังเผด็จการ และ อยากให้เป็นเวลารัฐบาลของประชาชน"



-เรื่องการเดินทางกลับไทยของคุณทักษิณ เมื่อวานอุ๊งอิ๊ง ยังบอกว่าตอนนี้ยังเป็นเดือนกรกฎาคมเหมือนเดิม แต่ก็ต้องดูสถานการณ์และความเหมาะสมด้วย ขณะที่มีรายงานว่า ครอบครัวชินวัตรได้เบรกการเดินทางกลับของนายทักษิณออกไปก่อน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะกลับมาประเทศไทย ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการประสานอะไรให้ตนทราบเพิ่มเติม

ส่วนของครอบครัว จะต้องเตรียมความพร้อมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบายและการต้อนรับ ซึ่งเราก็คิดไว้หลายแบบ แต่ก็พยายามคิดด้านบวกเอาไว้ หลักๆก็เป็นเรื่องของความปลอดภัย รอให้ใกล้กว่านี้ให้คุณพ่อส่งสัญญามาว่าจะให้เราเตรียมอะไรบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ยังเป็นกำหนดการเดิมในเดือนกรกฎาคมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คิดว่ายังเป็นเดือนกรกฎาคมอยู่ แต่ต้องดูสถานการณ์ประกอบด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง หรือ ขณะนั้นเวลาเหมาะสมหรือไม่

ก็ต้องดูสถานการณ์ทางการเมืองด้วย อยากให้กลับมาแล้วเป็นเรื่องดีๆ ไม่อยากกลับมาแล้วกำลังมีความวุ่นวายอยู่

ส่วนเหตุผลที่ทำไมต้องกลับมาในเดือนกรกฎาคม อุ๊งอิ๊ง บอกว่า ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าคุณพ่อน่าจะชอบเดือนนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นเดือนเกิด และที่ผ่านมาไม่ว่าคุณพ่อจะทำอะไร ก็จะยึดวันเกิดคนในครอบครัวเป็นหลัก

ขณะที่ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ครอบครัวชินวัตร อยากให้คุณทักษิณทอดเวลาออกไปก่อน โดยอยากให้กลับมาหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวของนายทักษิณ อยากเดินทางกลับมาเลย ซึ่งทางครอบครัวยังไม่มั่นใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นัดคนในครอบครัวรับประทานอาหารร่วมกัน ประกอบด้วย นางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พร้อมสามี และนางสาวแพทองธาร

และนอกจากเรื่องการกลับบ้านของนายทักษิณ ครอบครัวชินวัตร ยังได้พูดคุยกันเรื่องสถานการณ์การเมือง และไม่เห็นด้วยที่จะให้ นางสาวแพทองธาร เป็น นายกรัฐมนตรีในขณะนี้ เพราะเห็นว่ายังไม่พร้อม เพราะอายุแค่เพียง 37 ปีเท่านั้น และไม่ใช่เรื่องง่ายกับสถานการณ์เมืองในปัจจุบัน จึงอยากให้รออีก 5 ปี

และเห็นว่ายังมีแคนดิเดตนายกฯคนอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน มีความเชี่ยวชาญในเรื่องทางเศรษฐกิจ รวมถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล

ในความเห็นของครอบครัวมองว่า "คุณอิ๊งค์ยังอายุน้อย ประสบการณ์ก็น้อย การที่เข้ามาทำงานการเมืองก็เพื่ออยากทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็ง ส่วนทิศทางการเมืองของอิ๊งค์ ให้เป็นไปตามสเต็ป ขณะเดียวกันตัวอิ๊งค์ก็บอกพ่อว่าเที่ยวบินตัวเองยังไม่ได้ ซึ่งพ่อเขาก็เข้าใจ"



-เมื่อวานนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของนายสนธิญา สวัสดี ไปยื่นกกต.ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีประกาศชะลอนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ทั้งที่ กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง เข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน

เมื่อวานนี้ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปยื่นคำร้อง กกต. ขอให้ตรวจสอบ พรรคเพื่อไทย ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ กรณีประกาศนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แต่กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง กลับมีการชะลอนโยบาย โดยไม่มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน จึงตั้งคำถามว่าเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชน และ ขอให้ กกต. พิจารณา ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทย

ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่วิตกกังวล และบอกว่า ในการชะลอนโยบายดังกล่าว เพื่อให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่ง จึงมั่นใจว่าเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน

พร้อมพูดถึง นายสนธิญา ว่า ขยันทำงาน แต่ไม่ศึกษาให้เข้าใจ ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ จะให้ฝ่ายกฎหมายไปดูในรายละเอียด



-มีประเด็นที่นายธนกร วังบุญคงชนะ ออกมาตอบโต้นายพิธา หลังระบุว่าเตรียมตรวจสอบย้อนหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็บอกว่า ควรเอาเวลาจะเช็กบิล ไปเตรียมตัวชี้แจงคดีการถือครองหุ้นสื่อมากกว่า

เมื่อวานนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พูดถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ประกาศก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตหัวหน้าคสช. เกี่ยวกับการกระทำรัฐประหารและออกคำสั่งมาตรา 44

ก็บอกว่า นายพิธา ควรจะเตรียมตัวไปเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายค้าน ที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล และ ยืนยันที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีองค์กรอิสระหลายองค์กรอยู่แล้ว

นายธนกร ระบุว่า นายพิธา ควรเตรียมชี้แจง เรื่องปัญหาหุ้นมากกว่า ไม่ใช่จะมาบอกว่าจะเช็กบิลรัฐบาล และบอกกรณีการถือหุ้น ไม่ได้มีใครทำให้เกิดขึ้น แต่เกิดจากตัวของนายพิธาเอง

ต่อเนื่องประเด็นเรื่องเช็กบิล เมื่อวานนี้ผู้สื่อข่าวไปถาม กับ ผู้บัญชาการทหารบกด้วย ซึ่งท่านย้อนถามว่า ใครจะเช็คบิล และพูดติดตลกว่า ไปทานข้าวต้องเช็คบิลอยู่แล้ว ทุกอย่างจ่ายตังค์ตลอด

นอกจากนี้ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังให้สัมภาษณ์ถึงการปรับย้ายนายทหารในส่วนของกองทัพบกว่า ยังไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเป็นศูนย์

ส่วน พลเอกประยุทธ์ ได้สั่งการอะไรหรือไม่ พลเอกณรงค์พันธ์ ส่ายหน้า พร้อมบอกว่า ไม่มี



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/e9WkxtYkO2E

คุณอาจสนใจ

Related News