การประชุม 8 พรรคร่วมฯ ขยับไทม์ไลน์ตั้งรัฐบาลเร็วขึ้น เตรียมนโยบาย-เปลี่ยนผ่านงบ

ความคืบหน้าการประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ครั้งที่ 2 ที่พรรคเพื่อไทย มีการตั้งคณะทำงานในคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพิ่มอีก 2 ชุด และประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่คาดว่า หาก กกต.จะรับรองผลการเลือกตั้งเร็วขึ้นภายในเดือนมิถุนายน การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จึงอาจเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่กังวลกรณีการตรวจสอบปมถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ยืนยันว่าสามารถชี้แจงได้


การประชุมพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทย โดยมีหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งก่อนการประชุม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้เข้ามาต้อนรับในฐานะเจ้าบ้าน และเสริ์ฟน้ำดื่มช็อกมินต์ ที่กำลังเป็นที่นิยมของพรรคเพื่อไทย ก่อนที่จะมีการประชุมนัดที่ 2 หลังร่วมลงนาม MOU และตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านงานรัฐบาล ซึ่งมีการตั้งคณะทำงานไปแล้ว 12 ชุดขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 23 ข้อ ซึ่งที่ประชุมวันนี้ มีมติจะตั้งคณะทำงานอีก 2 ชุด เรื่องปัญหาประมง และการเปลี่ยนผ่านงบประมาณ โดยหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค ยังได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์การเมือง และไทม์ไลน์ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งยินดีที่ กกต. จะรับรอง ส.ส.ให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เลือกประธานสภาฯ และเลือกนายกรัฐมนตรี ที่อาจเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ จึงต้องเตรียมการเรื่องนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา และการเปลี่ยนผ่านงบประมาณที่จะเข้าสภาฯในเดือนสิงหาคม ถึงกันยายนนี้


หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ยังแสดงความมั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ถูกตั้งคำถามกรณีมีรายงานข่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะยอมวางมือทางการเมือง จึงมีควาาเป็นไปได้ ที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะย้ายมาพรรคเพื่อไทย และหากนายพิธา เจออุบัติเหตุทางการเมือง เป็นไปได้หรือไม่ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายแพทย์ ชลน่าน ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล จึงไม่อยากให้สมมติเหตุการณ์ที่ถูกสอบถาม และมั่นใจว่าจะไม่เกิดขึ้น


ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาชาติ ขอให้ประชาชนร่วมแสดงจุดยืนว่าต้องการรัฐบาลของประชาชน หลังผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว จึงเป็นหน้าที กกต.ที่ให้มีรัฐบาลใหม่โดยเร็ว ซึ่งผ่านมากว่า 2 สัปดาห์ ประชาชนต่างอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ได้เข้าทำงานอย่างเร็วที่สุด


ส่วนปัญหาปมถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ทางพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้นำมาเป็นเงื่อนไขต่อการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งนายพิธา พร้อมชี้แจง และไม่ขอให้ความเห็นว่าใครอยู่เบื้องหลังการฟื้นคืนชีพไอทวี เพื่อนำมาเล่นงานไม่ให้นายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ยืนยันไปแล้วว่าได้โอนหุ้นให้ทายาทไปแล้ว และที่ผ่านมา เป็นเพียงผู้จัดการมรดกเพียงอย่างเดียวไม่ได้รับโอนทรัพย์สินใดๆ


สำหรับไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาล จากเดิมที่ กกต.จะรับรองผล ส.ส.ภายในวันที่ 13 กรกฏาคม ที่เป็นวันสุดท้าย แต่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เปิดเผยว่า จะรับรองเร็วขึ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ทำให้การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม ก่อนจะเลือกนายกรัฐมนตรี ระหว่างนี้พรรคร่วมรัฐบาล จึงตั้งคณะทำงานเตรียมพร้อมร่างนโยบาย โดยการประชุมหัวหน้าพรรคจะมีขึ้นครั้งต่อไปวันที่ 20 มิถุนายน ที่พรรคไทยสร้างไทย