สังคม

จับนักข่าวสาว อ้างชื่อ 'บิ๊กโจ๊ก' เรียกเงินจีนเทา 33 ล้าน

โดย panwilai_c

27 พ.ค. 2566

31 views

ตำรวจจับ นักข่าวสาวชาวจีน หลังแอบอ้างชื่อ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปเรียกรับผลประโยชน์ เป็นจำนวนเงิน 33 ล้านบาท จากครอบครัว นส.นวพร ภาเกียรติสกุล ผู้ต้องหาในคดีอุ้มบุญ แต่นักข่าวชาวจีนให้การปฏิเสธ และจะให้การเป็นเอกสารในภายหลัง ก่อนจะประกันตัวไปเมื่อเช้านี้



ตำรวจจับกุม นส.หลุยส์ นักข่าวชาวจีน ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง พร้อมกับนำตัวมาสอบสวน ที่สน.ลุมพินี เมื่อคืนนี้ หลังจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานให้ตำรวจเข้าไปจับกุม เนื่องจากนักข่าวสาวชาวจีนมีพฤติกรรมแอบอ้างว่ามีความสนิทสนาม ทำงานใกล้ชิดให้กับตน จึงสามารถวิ่งเต้นล้มคดีของ น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล ผู้ต้องหาในคดีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จและใช้เอกสารเท็จในการทำบัตรชมพูให้กับบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างอุ้มบุญของคนจีน ซึ่งถูกจับกุมและเป็นข่าวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์เป็นจำนวนเงิน 33 ล้านบาท จากครอบครัว นส.นวพร และได้จ่ายมาแล้ว 14 ล้านบาท



ตำรวจได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมหลักฐาน พบว่ามีมูลความจริง เมื่อวานนี้จึงขอศาลอนุมัติออกหมายจับในข้อหา "เรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ใดๆ เพื่อจะให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใด ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่" ก่อนเข้าจับกุมในช่วงเย็นที่คอนโดที่พัก



รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นักข่าวทำงานเป็นล่ามให้กับตนจริงเพราะสื่อสารได้คล่อง และเป็นคนมีชื่อเสียงในฝั่งจีน แต่เมื่อกระทำผิด ต่อให้เป็นบุคคลใกล้ชิดมากกว่านี้ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง



ขณะที่ พ.ต.อ.นิมิต นูโพนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เปิดเผยว่าจากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และจะทำเอกสารให้การมาภายหลัง พร้อมกับประกันตัวไปเมื่อเช้านี้ โดยทนายความยื่นหลักทรัพย์ประกันตัววงเงิน 3,500,000 บาท ซึ่งทางตำรวจมีเงื่อนไขห้ามไม่ให้นักข่าวเดินทางออกนอกประเทศ สำหรับความผิดในข้อหาเรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท



ส่วนคดีของนางสาวนวพร เป็นผู้ต้องหาที่เป็นตัวการใหญ่คดีอุ้มบุญ และเรื่องการได้สัญชาติโดยผิดกฎหมาย และความผิดคดีอาญาฐานฟอกเงิน ถูกจับเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจ ตม. เพื่อทำเรื่องเพิกถอนสัญชาติไทยและส่งกลับประเทศจีนต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News