เลือกตั้งและการเมือง

เปิดใจ 'พีระพันธุ์' แคนดิเดตนายกฯอันดับ 2 รทสช. ไม่ใช่แผนสำรอง ยัน 2 ปี 'บิ๊กตู่' ไม่ใช่อุปสรรค

โดย panwilai_c

27 มี.ค. 2566

214 views

หลังจากพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นแคนดิเดต อันดับ 2 ทำให้ถูกมองว่าเป็นแผนสำรอง กรณีที่พลเอกประยุทธ์ เหลือเวลาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้อีก 2 ปี



ข่าว 3 มิติ ได้สัมภาษณ์นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่การวางตัวทายาท เพราะกรณีเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่อุปสรรคทางการเมือง เนื่องจาก พลเอกประยุทธ์ ตั้งใจเข้ามาทำงานการเมืองแล้วก็จะทำอย่างเต็มที่ และการตั้งแคนดิเดตอันดับ 2 เป็นการให้เกียรติหัวหน้าพรรค รวมถึงไม่ได้ตั้งพรรคมาเฉพาะกิจ แต่ตั้งเป้าเป็นรัฐบาล และไม่มองว่าจะได้เปรียบจากการเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.เพราะเป็นสิทธิ์ที่ให้ไว้ตามกฏหมาย ซึ่งทุกพรรคต้องตั้งเป้าชนะเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้



นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงความพร้อมในการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง หลังเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบ 400 เขต และจะส่งผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ครบ 100 คน ซึ่ง จากจำนวน ส.ส.เดิมที่ย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ กว่า 40 คน ยังมีอดีต ส.ส.และคนรุ่นใหม่ ที่ตั้งเป้าชนะเลือกตั้งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะไม่ได้ตั้งพรรคมาเป็นพรรคเฉพาะกิจ และเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง ซึ่งกรณีวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีก 2 ปี ก็ไม่ใช้อุปสรรคในการหาเสียง รวมถึงการประกาศให้นายพีระพันธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 2 ก็ไม่ใช่แผนสำรองหรือวางทายาททางการเมือง



หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ขอประกาศว่าจะจับมือกับพรรคใดจัดตั้งรัฐบาล เพราะต้องรอผลการเลือกตั้ง แต่จะดูที่จุดยืนของพรรคที่จะทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่ได้มองถึงการเป็นฝ่ายประชาธิปไตยหรือเผด็จการเพราะเป็นเพียงวาทกรรมทางการเมืองที่มุ่งสร้างความแตกแยก และไม่คิดว่าจะได้เปรียบจากการเลือกนายกรัฐมนตรี ของส.ว.เพราะเป็นสิทธิ์ของผู้มีสิทธิ์เลือก



สำหรับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตัดสินใจลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2562 ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ และเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว



ทำให้เห็นบทบาทการเป็นนายกน้อย ที่ชวนพลเอกประยุทธ์ ไปลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชนในอีกภาพลักษณ์ใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นการสนใจเรื่องสิทธิทำกิน สิทธิมนุษยชน ที่นายพีระพันธุ์ ใช้ความเป็นนักกฏหมายมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว จึงได้รับความไว้วางใจจากพลเอกประยุทธ์ มาร่วมเส้นทางการเมือง



ความท้าทายของพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจถูกมองว่าไม่ยากที่จะเห็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 แต่ก็ไม่ง่ายที่จะต้องชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ