สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' สั่งขยายผลเครือข่ายค้าประเวณีเด็ก พบโยงหลายจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยว

โดย panisa_p

18 มี.ค. 2566

90 views

มีความความคืบหน้า หลังจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง บุกเข้าไปทลายเเหล่งค้ามนุษย์กลางเมืองภูเก็ต ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจภาค 8 ช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 6 คนที่ถูกขบวนการนายหน้าพามาขายบริการทางเพศ และให้ขยายผลหาผู้ใช้บริการ หลังพบเครือข่ายหลายจังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยว มีต่างชาติเป็นเจ้าของทำธุรกิจกลางคืนแบบนอมินี



หลังจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งย้ายด่วน 5 นายตำรวจสภ.ป่าตอง ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 เเละตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จกรณีปล่อยปละละเลยให้สถานบริการในท้องที่รับผิดชอบ เเอบเเฝงการค้าประเวณีเด็กมากถึง 6 คน ซึ่งเป็นความผิดร้ายเเรงฐานค้ามนุษย์



วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนภาค 8 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ภูเก็ต และ พมจ.จว.ภูเก็ต เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าในคดี ล่าสุด ตำรวจได้ขยายผลเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 8 คนเเล้วในตอนนี้ โดยส่งตัวเข้ารับการดูแลที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต เพื่อรอเข้ากระบวนการคัดแยกเหยื่อว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่



นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีเด็กที่อยู่ในเครือข่ายถูกนำมาค้าประเวณีลักษณะเดียวกันอีก 7 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล และเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ



ส่วนการติดตามตัวเจ้าของสถานบริการซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ขณะนี้มีข้อมูลว่าได้หลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีเพื่อนร่วมธุรกิจอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้ ตม. ได้ขึ้นทะเบียนเฝ้าระวังไว้แล้ว โดยพบว่าการทำธุรกิจบริการของคนกลุ่มนี้ เป็นการทำธุรกิจแบบนอมินี มีคนไทยรับออกหน้าเป็นตัวแทน และยังมีสาขาอีกหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว



พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงสั่งการให้ ตำรวจภูธรภาค 8 เร่งขยายผลความเชื่อมโยงสถานบริการลักษณะนี้ ในพื้นที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายนี้ และให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศเด็กทั้งหมดด้วย



ส่วนการสอบสวนแม่เล้า 2 คน ที่ถูกจับ เบื้องต้นยอมรับว่า ได้ชักชวนเด็กๆ ทั้งหมด ที่มาขายบริการผ่านเฟซบุ๊ก โดยเด็กเหล่านี้เดินทางมาจากหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อ้างว่ามีปัญหาครอบครัว และออกมาอาศัยอยู่กับญาติ



พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า คดีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กเป็นคดีที่เข้าข่ายคดีค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น และไม่ควรมีอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากการกระทำผิดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ ดังนั้นในคดีนี้จะต้องมีการดำเนินคดีถึงที่สุด ได้สั่งการให้ขยายผลไปถึงเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ขณะนี้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะให้ขยายผลดำเนินคดีกับผู้ซื้อบริการทางเพศเด็กทั้งหมดด้วย



ในส่วนของเด็ก ขณะนี้ได้รับการดูแลที่บ้านพักเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ตแล้ว จากนี้จะดำเนินการร่วมกับสหวิชาชีพ และภาคประชาสังคม ตามกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อดำเนินการคัดแยกเหยื่อ และช่วยเหลือเยียวยา เพื่อให้เด็กมีความพร้อมในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

คุณอาจสนใจ

Related News