สาวๆกว่า 10 ราย เข้าแจ้งความถูกร้านทำผมทิพย์หลอกโอนเงินมัดจำแล้วเทคิว

เมื่อเวลา 14.00น. ผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวจำนวนกว่า 10 ราย เดินทางมายังสภ.พานทอง เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ. จารึก โพธิ์ทอง รองสว.สอบสวน สภ.พานทอง จากกรณีถูกร้านทำผมหลอกให้โอนเงินมัดจำค่าทำผมก่อน พอถึงวันเวลาคิวที่นัดไว้ทางร้านได้ไล่กลับไม่ทำให้ บางรายไปทำผมไปได้แค่เพียง 2 วันผมเสียทรงชี้ฟู จึงติดต่อกลับไปที่ร้านเนื่องจากมีการโฆษณาว่ารับประกันคุณภาพผมถึง 6 เดือนแต่กลับถูกทางร้านต่อว่ากลับมา และบางรายติดต่อไปรับเงินมัดจำคืนกลับบ่ายเบี่ยงที่จะโอนคืนให้ โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้น จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก อุ๊จัง ถามเพื่อนในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวโดยมีข้อความว่า ขอรีวิวร้านทำผมแห่งหนึ่งในพานทองหน่อยค่ะ กำลังดังเลย อ่านเม้นไม่ทันตะกี้โอนมัดจำไปแล้วโดนเลื่อนตลอดพึ่งได้คิวพรุ่งนี้ จะได้ตัดสินใจถูกค่ะ หลังจากนั้นมีผู้ที่เคยไปใช้บริการร้านทำผมดังกล่าวหลอกต่างได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมากจนกลายเป็นเสียงวิพากย์วิจารณ์ จนมีผู้เสียหายกว่า 30 รายในตอนนี้ โดยผู้เสียหายจะทะยอยเดินทางมาแจ้งความตามวันที่ตนเองสะดวก แต่ในวันนี้ได้มีการรวมตัวของผู้เสียหายประมาณ10คนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สภ.พานทอง

สอบถาม น.ส. พิไลวรรณ  อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวได้เล่าให้ฟังว่าเห็นทางร้านโพสต์เฟซบุ๊ก เปิดรับหัวหุ่นไปทำผมโดยคิดราคาไม่แพง ตนเลยตัดสินใจโอนเงินมัดจำไปเพื่อจองคิวทำผม เมื่อถึงวันที่นัดไว้ ได้เดินทางไปยังร้านที่นัดกันไว้ซึ่งไปถึงปรากฎว่าไม่ใช่ร้านทำผมที่มีป้ายชื่อ แต่เป็นหมู่บ้านใจกลางเมือง อ.พานทอง ตนจึงได้ติดต่อกลับไปทางเจ้าของร้านจึงบอกให้แลกบัตรผ่านเข้าไปได้เลย เมื่อตนแลกบัตรผ่านกับรปภ.แล้วจึงเข้าไปที่ร้านแต่ปรากฎว่าเมื่อเข้าไปถึงไม่ใช่ร้านทำผม และยังมีผู้ชายที่อยู่ในบ้านเดินออกมาไล่ตน ตนจึงเดินทางกลับและพยายามติดต่อไปยังร้านเพื่อขอเงินมัดจำคืนแต่ทางร้านได้บ่ายเบี่ยงที่จะไม่คืนเงิน ตนจึงได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเตือนภัยให้คนอื่น

โดยหลังจากนั้นก็ได้มีคนเริ่มที่จะมาแชร์ประสบการณ์กับการทำผมร้านนี้เป็นจำนวนมาก และยังมีผู้เสียหายที่โอนเงินมัดจำไปแล้วได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องเงินมัดจำคืน ด้าน น.ส.พรเทวา  อายุ 27 ปี ผู้เสียหายอีกรายได้เล่าว่ามีการตกลงกันว่ายืดผมแบบเคราติน ในราคา 900 บาท โดยวางเงินมัดจำไป 500 บาท และไปจ่ายหน้าร้านอีก 400 บาท ซึ่งตอนที่ตนตกลงที่จะทำที่ร้าน ทางร้านได้มีการบอกว่าต้องมีการทำสปาผมเกรดพรีเมียมแถมอยู่ในโปรโมชั่นด้วย แต่พอทำเสร็จทางร้านได้ขอเก็บเงินเพิ่มอีก 800 บาท รวมเป็นเงิน1,700บาท และทางร้านยังรับประกันผมอีก 6 เดือน โดยหลังจากที่ตนนั้นทำผมเสร็จแล้วเพียง 2 วัน ผมของตนก็เสียแตกปลาย หงิกงอ ตนจึงติดต่อไปยังร้านอีกครั้งแต่ทางร้านไม่รับผิดชอบ ตนจึงได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนที่ได้รับความเสียหายอีกหลายคนเพื่อเข้าแจ้งความที่สภ.พานทอง เพื่อดำเนินคดีกับทางร้านทำผมแห่งนี้ และจากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่า ร้านทำผมแห่งนี้ มี นาย รุ่งตะวัน  ซึ่งเป็นสาวประเภทสองเป็นเจ้าของร้าน เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้นทางญาติของ นายรุ่งตะวัน ได้ออกมารับผิดชอบเงินคืนผู้เสียหายทั้งหมด จึงไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแต่อย่างใด แต่ในครั้งนี้ที่มีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความเพราะทางร้านบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ

ส่วนในเรื่องทางคดีนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานโดยจะเรียกนายตะวันรุ่ง เข้ามาสอบปากคำเพื่อเจรจากับผู้เสียหาย หากไม่มาจะออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป สำหรับร้านดังกล่าว ตั้งอยุ่บ้านหลังหนึ่ง ที่ ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้เสียหายบอกว่านายรุ่งตะวัน นั้นเปิดร้านทำผมและอาศัยอยู่ โดยลักษณะบ้านนั้นเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แต่ภายในบ้านนั้นเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน สอบถาม รปภ. เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวตนพอจะรู้ว่าเปิดเป็นร้านทำผมและในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีคนเดินทางมาทำผมหลายคน แต่ตนนั้นไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน ตนรู้แค่เพียงว่าเปิดเป็นร้านทำผมแค่นั้น และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้มีคนมาบอกว่าถ้าใครมาทำผมไม่ต้องให้เข้าไป เพราะร้านปิดไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว